
ลำปางเจ้าหน้าที่ติดตามมอดไม้สองวันสองคืน
หลังลักลอบเข้าป่าสงวนแห่งชาติตัดไม้ห้วงห้าม สุดท้ายรวบตัวได้พร้อมของกลาง
ขณะแปรรูปไม้เพื่อสร้างกระท่อมกลางป่าสงวนแห่งชาติ เจ้าตัวอ้างไม่มีที่อยู่อาศัย
ที่ดิน จึงเข้าไปในป่าตัดไม้แผ้วถางป่าเพื่อสร้างที่อยู่อาศัยกระทั่งมาถูกจับกุม
เจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อคำให้การเพราะหลักฐานและการร้องเรียนมีเพียงคุมตัวดำเนินคดีทางกฎหมายทันที
เมื่อวันที่ 18
มกราคม 2563 กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจป่าไม้
หรือ ตำรวจกองกับการ 4 บก.ปทส. โดยการอำนวยการสั่งการของ พ.ต.อ.ศานุวงษ์
คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. ได้สั่งการเจ้าหน้าที่ ในสังกัดที่ประจำในพื้นที่
จังหวัดลำปาง ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ตชด.33 เชียงใหม่
เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง กรมป่าไม้ เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เสริมงาม
ฝ่ายปกครอง อ.เสริมงาม เข้าตรวจสอบการบุกรุกแผ้วถางป่าตัดไม้ห้วงห้ามในพื้นที่
ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เสริม ท้องที่บ้านท่าโป่ง หมู่ 5 ตำบลเสริมซ้าย
อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจพบมีการก่อสร้างกระท่อมหลังหนึ่ง
พบมีการปรับพื้นที่ประมาณ 1 งานเศษ ลักษณะใช้เครื่องจักรกล(รถแบคโฮ)
ขุดดินปรับหน้าดินให้พื้นดินเรียบ
เพื่อเตรียมการปลูกสร้างบ้าน นอกจากนี้ พบไม้ท่อนและไม้แปรรูป
ทั้งหมดเป็นไม้หวงห้ามไม้ประดู ไม้สัก ไม้จิก วางกองอยู่ที่พื้นบริเวณบ้านจำนวนหนึ่ง
ขณะตรวจสอบพื้นที่ปรากฏว่าได้มี นายสัมพันธ์
อารีย์ อายุ 55 ปี ชาวบ้าน หมู่ที่ 8 ตำบลเสริมซ้าย อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง
เข้ามาพบเจ้าหน้าที่และแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของกระท่อมและกองไม้ทั้งหมด
และได้กล่าวว่า ตนเอง ไม่มีบ้านอยู่อาศัย
จึงได้เข้ามาปรับพื้นที่ป่าแห่งนี้และได้ตัดไม้ห้วงห้ามมาเพื่อที่กำลังจะก่อสร้างบ้าน
โดยแปรรูปไม้ด้วยวิธีใช้เลื่อยมือ ค่อยๆต่อเติมบ้าน
ไปเรื่อยๆเพื่อที่จะสร้างเป็นที่อยู่อาศัย
แต่ทางเจ้าหน้าทีได้แจ้งว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไม่สามารถเข้ามาบุกรุกแผ้วถาง
ตัดไม้ห้วงห้ามตามอำเภอใจได้ จึงได้คบคุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหา พ.ร.บ.ป่าไม้ และ
พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และขณะคุมตัวสอบสวนปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตรวจพบปืนแก๊ปอีก 2
กระบอก ไม่มีเอกสารหลักฐานการครอบครอง
เจ้าตัวก็ยอมรับว่าปืนแก๊ปเอาไว้ใช้ล่าสัตว์และป้องกันตัว
เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาอีก 1 ข้อหา พ.ร.บ.อาวุธปืน
การเข้าจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่
ตำรวจกองกับการ 4 บก.ปทส.
ได้รับการร้องเรียนว่ามีบุคคลเข้าไปลักลอบตัดต้นสักไม้ห้วงห้ามหลากหลายชนิดในป่าสงวนแห่งชาติ
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เข้าพื้นที่หาข่าวและตรวจสอบนานกว่า 2 วัน 2 คืน
จนสามารถติดตามร่องรอยไปจนพบที่เกิดเหตุและพบการกระทำผิดจริง
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะได้ออกตรวจสอบพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันการลักลอบบุกรุกแผ้วถางป่าอย่างผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น