
จำนวนผู้เข้าชม
ชชม. เผยผลสรุป 2 งานวิจัยย้ำชัดแหล่งที่มาของฝุ่นขนาดเล็กในพื้นที่แม่เมาะประมาณ
50% มาจากควันที่เกิดจากการเผาวัสดุ ขณะที่ PM
2.5 จากการเผาถ่านหินโรงไฟฟ้าแม่เมาะ มีเพียง 4.53%เดินหน้าโครงการสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องฝุ่น PM 2.5 ให้กับชุมชนรอบพื้นที่ กฟผ.แม่เมาะ 15 หมู่บ้าน 1 โรงเรียน 1
กิจกรรมนอกสถานที่ หวังชุมชนเข้าใจปัญหาฝุ่นและรู้วิธีป้องกันตัวเอง
นายอำพล กิติโชตน์กุล
ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ (ชชม.) เปิดเผยว่าจากสถานการณ์ฝุ่น
PM
2.5 ทำให้กฟผ. แม่เมาะ ทั้งเหมืองแม่เมาะและโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ดำเนินมาตรการควบคุมฝุ่นอย่างเข้มงวดตั้งแต่แหล่งกำเนิดทั้งเพิ่มความชื้นด้านการฉีดพรมน้ำหน้างานขุดขน
, สเปรย์น้ำที่ระบบสายพานลำเลียงเป็นระยะและบริเวณเครื่องโม่ดินและถ่าน ,
ฉีดพรมน้ำบนถนนบริเวณบ่อเหมืองและที่ทิ้งดิน
สำหรับลานกองถ่านก็ได้มีการสเปรย์น้ำ ,
คลุมผ้าใบลานกองถ่าน เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของฝุ่นถ่าน ,เพิ่มการฉีดพรมน้ำที่สายพานลำเลียงใกล้จุดปล่อยดินและปลาย
Spreader
, ลดระดับการโปรยดินให้มากที่สุด และการทำแนวคันดินนอกจากนั้น
มีการจัดทำแผนการป้องกันระยะยาวได้แก่ การปลูกต้นไม้เป็นแนวกันฝุ่น (Green
Belt), การปลูกพืชคลุมดินและพืชยืนต้นไปพร้อมๆ กับทำเหมือง
ซึ่งช่วยลดการฟุ้งกระจายของฝุ่นจากพื้นที่ว่างเปล่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังควบคุมการทำงานของบริษัทผู้รับจ้างด้านสิ่งแวดล้อม
ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ผนวกไว้ในสัญญา ทั้งการตรวจประเมิน (Audit)กำหนดให้จัดทำจุดรับน้ำให้เพียงพอต่อรถน้ำ ทั้งนี้ หน่วยงานที่มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของผู้รับจ้างเพิ่มความเข้มงวดในการเข้าสำรวจพื้นที่บ่อเหมืองและที่ทิ้งดินเป็นประจำทุกวันโดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง
หากพบฝุ่นฟุ้งกระจายจะแจ้งให้บริษัทผู้รับจ้างเข้าแก้ไขในทันทีรวมถึงสั่งให้หยุดงานเพื่อดำเนินการแก้ไขประมาณ
1 ชั่วโมง แต่หาการแก้ไขยังไม่แล้วเสร็จจะสั่งให้หยุดงานต่อจนกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จ
นายอำพลกล่าวด้วยว่า
ที่ผ่านมา กฟผ.แม่เมาะ
ได้ร่วมกับหน่วยงานภายนอกศึกษาวิจัยแหล่งที่มาของฝุ่นขนาดเล็กอย่างต่อเนื่อง
ทั้งโครงการศึกษาลักษณะและแหล่งที่มาของฝุ่นขนาดเล็กในพื้นที่แม่เมาะ โดย ดร.อาภา หวังเกียรติ
รองคณบดีฝ่ายบริหารและสื่อสารองค์กร วิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิตร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ซึ่งผลการศึกษาสรุปว่าแหล่งที่มาของฝุ่นขนาดเล็กในพื้นที่แม่เมาะประมาณ 50% มาจากควันที่เกิดจากการเผาวัสดุ เศษวัชพืช และไฟป่า
รองลงมาเกิดจากฝุ่นรถยนต์
นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ปรึกษาเพื่อศึกษาแหล่งที่มาของฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน
2.5 ไมครอน ในบริเวณชุมชนรอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
โดยการพัฒนาระบบต้นแบบตรวจวัดและจำแนกฝุ่นละออง ดำเนินการโดย ดร.รุ่งโรจน์
เมาลานนท์ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ซึ่งผลการดำเนินงาน พบว่า
องค์ประกอบหลักของฝุ่นละอองในบรรยากาศทั่วไปในบริเวณชุมชนรอบโรงไฟฟ้าแม่เมาะไม่สอดคล้องกับฝุ่นละอองที่มาจากการดำเนินงานของ
กฟผ.แม่เมาะ ซึ่งมีฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM
2.5 จากการเผาถ่านหินโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เพียง 4.53%
“จากผลการวิจัยที่ กฟผ.แม่เมาะ
ทำร่วมกับหน่วยงานภายนอกทำให้ทราบถึงแหล่งที่มาของฝุ่น ถึงแม้ฝุ่นที่เกิดจากการเผาถ่านหินโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
จะมีน้อยก็ตามแต่กฟผ.แม่เมาะ ไม่ได้นิ่งนอนใจกำชับให้ผู้ปฏิบัติงานและบริษัทผู้รับจ้างปฏิบัติตามมาตรการฝุ่นละอองอย่างเคร่งครัดและให้ดำเนินการต่อเนื่องในพื้นที่
กฟผ.แม่เมาะ รวมถึงพื้นที่ชุมชนโดยรอบ ได้บูรณาการความร่วมมือกับอำเภอแม่เมาะ
และจังหวัดลำปาง เฝ้าระวัง ป้องกัน และแก้ไขปัญหา
นอกจากนั้นมีการลงพื้นที่ให้ความรู้กับชุมชน”นายอำพล กล่าว
นายอำพล
กล่าวอีกว่า เหมืองแม่เมาะได้ดำเนินโครงการสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องฝุ่น PM
2.5 ให้กับชุมชนรอบพื้นที่ กฟผ.แม่เมาะ
วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดฝุ่น PM 2.5และแนวทางปฏิบัติตนของชุมชนเมื่อเกิดปัญหา
เพื่อรณรงค์ลดการเผาป่าและเผาเศษวัชพืชทางการเกษตรให้กับชุมชนรอบพื้นที่
กฟผ.แม่เมาะ โดยดำเนินการตั้งแต่เดือนมิถุนายน-ตุลาคม 2562 ซึ่งผู้ปฏิบัติงานเหมืองแม่เมาะได้ลงพื้นที่จำนวนทั้งสิ้น
15 หมู่บ้าน 1 โรงเรียน และ 1 กิจกรรมนอกสถานที่
“ผู้ปฏิบัติงานเหมืองแม่เมาะ
ได้รวบรวมเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับฝุ่น PM2.5 ทั้งเรื่องการรับมือกับฝุ่น PM 2.5 ,
สถานการณ์ค่าฝุ่น , การแปรผลการตรวจวัด , ผลกระทบจากฝุ่นมีอะไรบ้าง
รวมถึงวิธีป้องกันฝุ่นทำอย่างได้บ้าง , การลดฝุ่นทำได้อย่างไร รวมถึง
แนะนำแอพพลิเคชั่นและช่องทางการติดตามค่าฝุ่นละอองให้ชาวบ้านในชุมชนอำเภอแม่เมาะ ได้รับทราบ
โดยได้จัดทำเป็นแผ่นพับให้ความรู้และจัดทำสื่อ X-Stand ควบคู่ไปกับการลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ชุมชนซึ่งเป็นภารกิจหลักของโครงการ
ที่ผ่านมาได้รับการตอบรับจากชาวบ้านเป็นอย่างดี” นายอำพล กล่าว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น