
ในปี 2563 จอกหูหนูยังคงเป็นปัญหาโดยเคลื่อนพลยึดพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลมอีกครั้ง ซึ่งปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 2556 โดยครั้งนั้นทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา ได้ทุ่มงบประมาณในการแก้ไขปัญหากว่า
5 ล้านบาท ด้วยการขอสนับสนุนเรือขุดและเรือกำจัดวัชพืช
จากพิษณุโลก เข้ามาดำเนินการ
พร้อมกับนำรถแบ็คโฮเข้ามาช่วยตักจอกนำมากองไว้เพื่อให้สะเด็ดน้ำ
และนำไปทำปุ๋ยแจกจ่ายให้กับเกษตรกร โดยได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย จนสถานการณ์คลี่คลายลงไป เปิดน่านน้ำหน้าเขื่อนกิ่วลมให้กลับมาล่องแพได้อีกครั้ง
ช่วงเดือนธันวาคม 2557
แต่ขณะเดียวกันก็ยังคงเหลือจอกหูหนูที่ถูกจำกัดพื้นที่อยู่ส่วนหนึ่ง
และยังมีจอกที่ซุกซ่อนตัวอยู่
ซึ่งไม่เคยหายไปจากอ่างเก็บน้ำกิ่วลม จนทำให้จอกหูหนูได้กระจายตัวอีกครั้ง และปัจจุบันก็ได้แพร่กระจายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม
ซึ่งยังคงเป็นปัญหาอยู่ทุกวันนี้
ผู้ประกอบการแพ รายหนึ่ง กล่าวว่า
ขณะนี้จอกหูหนูได้อัดแน่นตั้งแต่หน้าเขื่อนมาจนถึงเกาะวังแก้ว
ทำให้แพไม่สามารถแหวกผ่านไปได้ จะวิ่งได้เพียงครึ่งทางจากท่าสำเภาทองไปถึงเกาะวังแก้วเท่านั้น
เรือหางยาวก็ผ่านไม่ได้ นักท่องเที่ยวจึงต้องมาใช้บริการทางฝั่งสำเภาทองแทน
ทำให้ผู้ประกอบการแพที่อยู่หน้าเขื่อนประสบปัญหาขาดรายได้อย่างมาก
ถึงแม้ว่าทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา จะนำเรือกำจัดวัชพืชและรถแม็คโครมาตักจอกออกไป
แต่ก็ไม่มีท่าทีลดลง
ซึ่งเข้าใจว่าจะให้ทำแบบทันใจคงไม่ได้ ต้องค่อยเป็นค่อยไป หลังเดือนเมษายนนี้จะเสร็จหรือเปล่าก็ยังไม่รู้
หากไม่เสร็จคงกระทบช่วงท่องเที่ยวเทศกาลสงกรานต์มาก ปัญหานี้เกิดมาต่อเนื่อง 4-5 ปีแล้ว โดยเฉพาะช่วงน้ำหลากจอกจะทะลักลงมา แต่ก็ยังดีกว่าปีก่อนๆที่เต็มพื้นที่ทั้งหมด ถือว่ายังโชคดีที่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้อยู่
-เดือนธันวาคม
2556
ลานนาโพสต์ลงพื้นที่เขื่อนกิ่วลม พบจอกหูหนูกระจายแน่นเต็มพื้นที่อ่างเก็บน้ำ
-เดือนมกราคม
2557
จอกหูหนูกระจายครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 600 ไร่
-เดือนมีนาคม 2557 จอกหูหนูกระจายอย่างรวดเร็ว 1,500 ในระยะเวลา 2 เดือน เขื่อนกิ่วลมเปิดประตูระบายน้ำ
ดันจอกออกสู่แม่น้ำวัง
- เดือนเมษายน 2557 โครงการกิ่วลมฯ
นำเรือกำจัดวัชพืชเข้าทำงาน
จอกหน้าเขื่อนถูกตักออก ขณะที่มีจอกอีกส่วนไปกระจุกตัวที่ท่าสำเภาทองแทน
-เดือนกันยายน
2557
จอกกลับมาแน่นหน้าเขื่อนอีกครั้ง เต็มพื้นที่ 1,500 ไร่ โครงการกิ่วลมฯ
กำจัดต่อเนื่อง
-เดือนตุลาคม
2557 จังหวัดลำปางจัดโครงการเขื่อนสวยน้ำใส
ระดมพลตักจอก
-เดือนธันวาคม 2557
เปิดทางล่องแพหน้าเขื่อนกิ่วลมได้
เกษตรจังหวัดแปรรูปจอกเป็นปุ๋ยแจกจ่ายชาวบ้าน
-เดือนมกราคม 2558
จอกกลับมาอัดแน่นในห้วยป๋อ เส้นทางน้ำจาก ต.บ้านสา
โครงการฯกิ่วลมหยุดกำจัดจอก เพราะงบประมาณหมด
ด้านนายอำเภอร่วมกับชาวแพทดลองฉีดสารเคมีกำจัดจอก แต่ไม่เป็นผล
-เดือนพฤษภาคม
2558 โครงการกิ่วลมฯ ได้งบเพิ่มอีก 3 ล้านบาทเศษ ลุยกำจัดจอกต่อ แม้จอกหูหนูจะเบาบางไปบ้าง แต่ทำไปจนแล้วจนรอด
จอกหูหนูก็ไม่เคยหมดไป
-ปี 2559-2560 เรื่องราวของจอกหูหนูเงียบหายไป ด้วยสภาพความแห้งแล้ง ทำให้น้ำลดลง
และจอกบางส่วนได้แห้งตายไป
-เดือนพฤศจิกายน 2561 จอกหูหนูกลับมาเยือนอ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลมอีกครั้ง
และได้แพร่กระจายเต็มผืนน้ำกลายเป็นสนามจอกหูหนูดังเดิม
-เดือนตุลาคม
2562 โครงการกิ่วลมฯ ขอเรือกำจัดวัชพืช และรถแบคโฮ
เข้ามาตักทำลายจอก
-เดือนมกราคม
2563
จอกหูหนูยังคงเติบโตบานสะพรั่งอยู่เต็มเขื่อนกิ่วลม ไม่มีท่าทีว่าจะเบาบางลงไป ถึงแม้จะมีบางช่วงที่น้ำลดลงจอกจะแห้งตาย
แต่อย่างไรก็ตามจอกหูหนูก็ไม่เคยหายไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น