วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ปริศนาฟ้าแลบ ! “พินิจ” ทิ้งเก้าอี้ ส.ส.ลำปาง

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์


ต้องเรียกว่าแปลกใจ เมื่อพินิจ จันทรสุรินทร์ นักการเมืองรุ่นลายครามของจังหวัดลำปาง สละสิทธิ์ในนาทีสุดท้าย ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ลำปาง ทั้งที่สมัครแล้ว กลับไปนอนบ้าน ไม่ต้องหาเสียงให้เหนื่อยแรง พินิจ จันทร์สุรินทร์ ย่อมต้องนอนมาอยู่แล้ว และเขาจะเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ หนึ่งเดียวของพรรคเพื่อไทย ที่ได้กลับมาสู่สภา

คงต้องค้นหาคำตอบ ที่เรียกว่าเป็นปริศนาก็ได้ ว่า หาก พินิจ จันทรสุรินทร์ มีเหตุผลว่าชราแล้ว และไม่มีความพร้อมที่จะลงสมัคร เพราะเพิ่งสูญเสียลูกชาย คือ อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ เหตุใดจึงทอดเวลามาจนถึงวันปิดรับสมัคร โดยไม่แสดงเจตนาเช่นนั้นมาแต่ต้น

ในขณะที่กองเชียร์ สื่อมวลชนจำนวนมาก ไปเฝ้ารอรายงานข่าวตั้งแต่เช้า เพราะมีข่าวว่าพินิจ จันทรสุรินทร์ จะเดินทางมา

พลันที่ไม่ปรากฏเงาร่างของ พินิจ จันทรสุรินทร์ สปอตไลท์ก็ฉายจับไปที่วัฒนา สิทธิวัง ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ ทันที เลือกตั้งครั้งก่อน เขาได้อันดับ 2 ด้วยคะแนนเสียง 30,368 คะแนน ในขณะที่อิทธิรัตน์ จันทรสุรินทร์ ปักธงที่ 42,984 คะแนน คะแนนที่ต่างกันราว 10,000 คะแนน ครั้งนี้อาจไม่ได้เทไปให้ ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ พรรคเสรีรวมไทย ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านถือเป็นตัวแทน หากก้าวถอยครั้งนี้ของพินิจ จันทรสุรินทร์ “มากกว่าที่นึก ลึกกว่าที่คิด”

พินิจ จันทรสุรินทร์ นั้น มิใช่ละอ่อนทางการเมือง เขาเป็น ส.ส.ลำปาง ตั้งแต่ ปี 2518 สังกัดพรรคธรรมสังคม พรรษาทางการเมือง นับว่ายังแกร่งกล้ากว่าไพโรจน์ โลห์สุนทร ซึ่งแจ้งเกิดทางการเมืองเมื่อปี 2531 ในนามพรรคเอกภาพ

เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในวัย 80 เศษวันนี้ พินิจ จันทรสุรินทร์ ยังแข็งแรง กระฉับกระเฉง ไม่ได้ด้อยไปกว่าไพโรจน์ โลห์สุนทร ส.ส.เขตที่อายุมากสุดในสภาวันนี้

เป็น ส.ส.ตั้งแต่ปี 2518 ยกเว้นสอบตกในปี 2519 และจากปี 2522 2548 พินิจ จันทรสุรินทร์ เป็น ส.ส.มาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงยุคที่ทักษิณ ชินวัตร ตั้งพรรคไทยรักไทย พัฒนามาเป็นพลังประชาชน จนกระทั่งพรรคเพื่อไทย

เสียงของเขาจะหดหาย เจือจาง ไปหรือไม่ เมื่อว่าที่ ส.ส.ใหม่จากพรรคพลังประชารัฐ วัฒนา สิทธิวัง ก็ต้องเร่งเก็บเกี่ยวคะแนนเสียง สั่งสมความศรัทธา โฆษณาเงินสวัสดิการรัฐในรูปแบบต่างๆ ที่ถือเป็นผลงานพรรค จนกระทั่งไม่สามารถรักษาฐานเสียงไว้ได้

นี่ก็เป็นคำถาม ว่าฐานเสียงของพินิจ จันทรสุรินทร์ เป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทย หรือของเขาเองจากบารมีที่สั่งสมมายาวนาน  ถ้าเป็นของพรรคก็น่ากลัว แต่ถ้าเป็นเสียงของพินิจ จันทรสุรินทร์ เอง ก็มิใช่ปัญหาหากจะถ่ายโอนไปให้พรรคการเมืองที่ดูเหมือนเป็นขั้วตรงข้าม เพราะแน่นอน “การเมืองไม่เคยมีมิตรแท้ หรือศัตรูถาวร”

การถอยนั้น หาใช่ความพ่ายแพ้ไม่ ระดับมังกรเหยียบเมฆอย่างพินิจ จันทรสุรินทร์ ย่อมรู้ดีว่า นี่อาจเป็นเพียงการถอยทางยุทธศาสตร์ เป็นชัยชนะของผู้ปราชัย ที่อาจได้เห็นกันในไม่ช้า


Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์