เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2563 ที่ห้องประชุมโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย
อ.เมืองลำปาง นายสุรพล บุรินทราพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานการประชุมรับฟังความคิดเห็น
ครั้งที่ 2 ตามโครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการพัฒนาและขยายท่าอากาศยานลำปาง
โดยมีนายสมเกียรติ มณีสถิตย์ รองอธิบดีกรมท่าอากาศยาน ประธานด้านโครงสร้างพื้นฐาน
เป็นผู้กล่าวรายงาน ซึ่งกรมท่าอากาศยานได้พิจารณาเพิ่มศักยภาพของท่าอากาศยานลำปางให้เพียงพอต่อการรองรับปริมาณการขนส่งทางอากาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
ซึ่งปัจจุบันนี้ท่าอากาศยานลำปางมีทางวิ่งกว้าง
30 เมตร ยาว 1,975 เมตร ตามมาตรฐานขององค์กรการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO )
จัดว่าเป็นทางวิ่งที่สามารถรองรับอากาศยานขนา 180
ที่นั่งที่สายการบินส่วนใหญ่นิยมใช้ได้ จึงเป็นข้อจำกัดที่สำคัญที่ทำให้ไม่สามารถพัฒนาท่าอากาศยานลำปางได้
นอกจากนี้ พื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งและพื้นที่ปลอดภัยปลายทางวิ่งยังมีขนาดไม่เป็นไปตามที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ
( ICAO )
แนะนำอีกด้วย ดังนั้น กรมท่าอากาศยาน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องขยายทางวิ่ง ทางขับ
ลานจอดเครื่องบิน พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบินและส่วนประกอบอื่นๆ
ตลอดถึงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่
เพื่อให้สามารถรองรับอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ เช่น อากาศยานขนาด B737-800 และรองรับกิจกรรมด้านการขนส่งที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
ท่าอากาศยานลำปางมีพื้นที่ใช้สอยเดิมอยู่ที่
509 ไร่ 72 ตร.วา แต่การพัฒนาเพื่อขยายทางวิ่งให้เป็นความกว้าง 45 เมตร ยาว 2,100
เมตร รวมไปถึงการก่อสร้างอาคารหลังใหม่จำเป็นจะต้องใช้พื้นที่เพิ่มขึ้นอีก 674 ไร่
ดังนั้นกรมท่าอากาศยาน จึงต้องเปิดประชุมรับฟังความคิดเห็น (การประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการ)
จากประชาชนที่มีที่อยู่อาศัย อยู่โดยรอบท่าอากาศยานลำปาง และเป็นเจ้าของที่ดินเดิมที่อาจจะได้รับผลกระทบจากการพัฒนาท่าอากาศยานลำปางในครั้งนี้จำนวน 245 ราย รวมทั้งเจ้าของที่พักอาศัยในระยะ 500
เมตร ที่อาจจะได้รับกระทางเสียง
เข้ารับฟังและแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นให้ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อหาทางเลือกการพัฒนาใน
3 วิธี คือ
1.เลือกที่จะก่อสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางวิ่ง
และพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่นพร้อมติดตั้งระบบสนับสนุนความปลอดภัยทางการบิน
ให้ปลอดภัยตามมาตรฐาน
2.ขยายทางวิ่งจากเดิม
1,975 เมตร คูณ 30 เมตร เป็นระยะทาง 2,100 เมตร คูณ 45 เมตร หรือ
3.ขยายระทางวิ่งให้เป็น 2,500 เมตร คูณ 54 เมตร
ทั้งนี้ ก็เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาจังหวัดลำปางให้ไปสู่การเป็นเมืองที่หน้าอยู่
เป็นนครแห่งความสุขและพร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยว
ที่มาเดินทางมาเที่ยวชมแหล่งโบราณสถาน สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และติดต่อธุรกิจด้านอุตสาหกรรมและหัตถอุตสาหกรรม
ซึ่งการพัฒนาทั้ง 3 ด้านนี้ในอนาคตข้างหน้ายังจะเป็นเศรษฐกิจหลักของจังหวัดลำปางอีกด้วย
และจะสร้างเม็ดเงินอันมหาศาลให้กับจังหวัดลำปางต่อไปในอนาคต
รีบทำด่วนเลยครับ...สนับสนุน
ตอบลบ