นัน
คือ การเล่นเอาเงินโดยการเสี่ยงโชค ซึ่งล้วนแล้วเกิดจากการดูการเล่นกีฬา ไม่ว่าจะดูมวยที่สนามมวย
หรือมวยตู้ทางจอทีวี หรือจะดูฟุตบอลจากสนาม หรือจากการถ่ายทอดทางทีวี ดูอย่างเดียวก็คงจะจืดชืด
จึงต้องมีการพนันเพื่อจะได้เพิ่มความมันส์ เพิ่มรสชาติในการดู ถ้ามีโชคฝ่ายที่ตนถือหางอยู่ชนะก็จะได้เงินกัน
แต่ในทางตรงกันข้าม หากฝ่ายตนแพ้ก็จะต้องเสียเงิน
มีคนเคยกล่าวว่า
หากจะเล่นการพนัน ก็เล่นได้ แต่อย่าจริงจังมาก และตั้งงบเล่นเท่าที่ยอมเสียได้ โดยตนเองไม่เดือดร้อนรวมไปถึงครอบครัวด้วย
ถ้าเล่นเสียเท่าที่มีงบแล้วก็จงเลิกเล่น พอทีสำหรับการเล่นครั้งนั้นๆ ถ้าเซ้าซี้เล่นอีกเพื่อที่จะหวังเอาเงินกลับคืน
โดยขอยืมเงินคนอื่นมาเล่น หรือเอาของที่ตนมีอยู่หรือติดตัวไปขาย
หรือจำนำเพื่อเอาเงินนั้นมาเล่นต่อ เท่ากับมีผีการพนันเข้าสิงแล้ว หนทางจะได้คืนคงจะยากและก็คงจะเสียเงินไปอีก
ว่ากันจริง
ๆ การพนันเรียกได้ว่าเป็นการโลภ เป็นทางลัดที่จะหาเงินกัน แต่โอกาสจะได้นั้นคงมีน้อยกว่าเสีย
ฉะนั้นอย่าได้หลงไปกับการพนันเลย เพราะการพนันเป็นบ่อเกิดแห่งความพินาศ ขอให้เล่นเพื่อความสนุกก็พอ
อย่าได้เล่นการพนันอย่างเอาเป็นเอาตายเลย เล่นการพนันมากก็คงจะเสียหายจนหมดตัว
“ไฟไหม้บ้านยังคงเหลือที่ดินอยู่
แต่เสียพนันอาจไม่เหลืออะไรเลย บางคนเล่นการพนันจนหมดตัวอาจถึงกับฆ่าตัวตายก็มีมาแล้วในอดีตตามหน้าหนังสือพิมพ์
ถ้าไม่จำเป็นควรอยู่ห่างๆ กับการพนันกันเถอะ เพราะการพนันเป็นอบายมุขปากทางแห่งความฉิบหายคงไม่มีอะไรดีกันหรอก
การพักผ่อนหย่อนใจไม่ว่าวิธีใดจะเป็นการโยนโบว์ลิ่ง
ตีกอล์ฟ เล่นสนุกเกอร์ รวมทั้งการเล่น ไพ่ชนิดต่างๆ ด้วย ความจริงแล้วการเล่นแต่ละแบบแต่ละชนิดในตัวของมันเองก็เป็นสิ่งที่ดี
ผู้ที่คิดประดิษฐ์สิ่งต่างๆ เหล่านี้ขึ้นมาก็เพื่อจะได้มีการพักผ่อนหย่อนใจ มีโอกาสพบปะเพื่อนฝูง
สนุกสนาน สำราญบานใจกันบ้าง หลังจากที่ได้ตรากตรำทำงานกันมาตลอดทั้งสัปดาห์ แต่การพักผ่อนหย่อนใจนี้กลับกลายมาเป็นการพนันอย่างง่ายดายโดยการบิดเบือนเจตนารมณ์ไปตามนิสัยของคนชอบการพนัน
เช่น การดูมวย ไม่ว่ามวยตู้ ซึ่งหมายถึงมวยทางโทรทัศน์ ดูมวยในสนามมวยทุกสนามก็ต้องพนันกัน
ดูฟุตบอลก็ต้องพนันกัน โยนโบว์ลิ่ง ตีกอล์ฟ ก็ต้องพนันกัน ยิ่งสนุกเกอร์ก็ยิ่งพนันกัน
ทั้งนี้ถ้าไม่พนันกันแล้วเห็นว่ามันไม่สนุกเอาเสียเลย
การพนันไม่ว่าจะเล่นด้วยวิธีใดๆ
แบบไหน ก็เป็นสิ่งไม่ดี และเป็นพนันทั้งสิ้น ท่านเจ้าคุณพระราชรัตนรังษี เจ้าอาวาสวัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร
จังหวัดพิษณุโลก ท่านได้แสดงพระอภิธรรมเทศนาตอนหนึ่งว่า การพนันคืออบายมุข ซึ่งแปลว่าปากทางแห่งความฉิบหาย
รวมทั้งอบายมรรค ซึ่งแปลว่าเส้นทางแห่งความฉิบหาย ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางนั่นหมายความว่า
การพนันนำมาแต่ความเลวร้ายและผลของมันเลวร้ายยากที่จะพรรณนาได้
การพนันเป็นธุรกิจระดับแนวหน้ามีเงินหมุนเวียนในบ่อนประเทศไทยเรามากมายทั้งๆ ที่เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายแต่การพนันที่ถูกกฎหมายก็มีเช่นกัน
เช่นสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นการพนันที่ถูกกฎหมายที่มีรัฐบาลเป็นเจ้ามือ ตลาดหุ้นก็นับว่าเป็นแหล่งการพนันแหล่งใหญ่ของประเทศเช่นเดียวกัน
นักเล่นหุ้นเป็นนักการพนันระดับสูงประเภทหนึ่ง เพราะคนจนไม่มีสิทธิ์เล่น เล่นได้เฉพาะคนรวยเท่านั้น
จนมีคำกล่าวว่า “คนจนเล่นหวยคนรวยเล่นหุ้น”
ผลเสียของการพนัน
1 เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ เสียเงิน เสียชื่อเสียง
2 เสียการเรียน การเรียนตกต่ำ
3 เป็นเหตุลักขโมย ก่ออาชญากรรมได้
4 กลายเป็นคนไร้ค่าของสังคม
5 ทำลายตนเองครอบครัวลูกเมีย ฯลฯ
6
เป็นที่รังเกียจแก่ผู้พบเห็นด้วย
การพนันไม่เคยทำให้ใครตั้งตัวได้เลย
การพนันมีแต่เสียกับเสีย และนำหายนะมาสู่ตนเองครอบครัวและอนาคตด้วย ฉะนั้นหากไม่มีความจำเป็นใดๆ
ก็ควรจะห่างการพนันเอาไว้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น