ภายหลังร่องมรสุมจากพายุโซนร้อน
“ฮีโกส” พาดผ่านประเทศไทยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ส่งผลให้ช่วงวันที่
20-23 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดลำปาง
อย่างไรก็ดี สถานการณ์น้ำในอ่างหลักของ กฟผ.แม่เมาะ
ยังไม่พ้นระดับวิกฤต โดยแม่จางและแม่ขาม มีปริมาณน้ำใช้ได้ 31.82 % และ 22.94%
ตามลำดับและทั้งนี้อ่างยังสามารถรับน้ำได้อีกจำนวนมาก
จากรายงานสถานการณ์น้ำล่าสุดของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
(กฟผ.แม่เมาะ) ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2563 เวลา 10.00 น. อ่างเก็บน้ำแม่จางมีปริมาณน้ำเข้าอ่าง 8.50 ล้าน ลบ.ม./วัน
เหลือปริมาณน้ำใช้ได้ 32.498 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 31.82% ของอ่าง
ในขณะที่อ่างเก็บน้ำแม่ขามมีปริมาณน้ำเข้าอ่าง 0.32 ล้าน ลบ.ม./วัน
เหลือปริมาณน้ำใช้ได้ 8.222 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 22.94%
ซึ่งยังอยู่ในภาวะวิกฤตภัยแล้งระดับ 2
ทั้งนี้ กฟผ.แม่เมาะ
ยังคงติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ปริมาณน้ำของอ่างแม่จางและแม่ขามมีเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคของชุมชนและใช้ในระบบผลิตไฟฟ้าด้านนายชัยพร
ไพฑูรย์ ในฐานะประธานคณะทำงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำโรงไฟฟ้าแม่เมาะ(คทน-ฟม.)
คาดว่า หากปริมาณน้ำยังไม่พ้นวิกฤตจะดำเนินการสูบน้ำจากเขื่อนกิ่วลม ตามบันทึกข้อตกลง
(MOU) ในโครงการนำน้ำกิ่วลมไปใช้ประโยชน์สำหรับโรงไฟฟ้าแม่เมาะและชุมชนภายในเดือนกันยายน
2563 ซึ่ง กฟผ.แม่เมาะ ได้รับอนุญาตจากกรมชลประทานให้ผันน้ำที่เกินความต้องการใช้ประโยชน์จากเขื่อนกิ่วลม
อ.เมือง ตั้งแต่ระดับกักเก็บที่ 282 ม.รทก. จำนวน 16 ล้าน ลบ.ม.
จากสถานีสูบน้ำกิ่วลมไปยังอ่างเก็บน้ำแม่ขาม อ.แม่เมาะ ระยะทางยาว 29.7 กิโลเมตรทั้งนี้
เพื่อรักษาปริมาณน้ำให้เพียงพอสำหรับให้ชุมชนได้ใช้อุปโภคบริโภค
การเกษตรและเพิ่มความมั่นคงในระบบผลิตไฟฟ้าต่อไป )
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น