AIS โดย นายพรรัตน์ เจนจรัสสกุล
หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคเหนือ พร้อมด้วย STeP โดย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ
ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
(แม่ข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
สนับสนุนงานวิจัย พัฒนา นวัตกรรม ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคเหนือเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ
นายพรรัตน์
เจนจรัสสกุล หัวหน้าฝ่ายงานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคเหนือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์
เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอส ในฐานะผู้นำเครือข่าย 5G ชั้นนำระดับภูมิภาคและอันดับ 1 ในไทยที่มีคลื่นมากที่สุด และครบ 77
จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนืออย่างในจังหวัดเชียงใหม่
เราได้ขยายเครือข่าย 5G ในพื้นที่สำคัญหลายแห่ง ทั้งแหล่งท่องเที่ยว
ช้อปปิ้งมอลล์ และสถานศึกษา ไม่ว่าจะเป็นประตูท่าแพ, วัน
นิมมาน, Think Park และ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
สำหรับความร่วมมือกับอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในครั้งนี้
จึงถือเป็นอีกก้าวย่างที่สำคัญในการนำโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่แข็งแกร่งของเอไอเอส
มาสร้างสรรค์ประโยชน์ สนับสนุนงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล
ร่วมยกระดับคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม
เสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ภาคอุตสาหกรรม
และผู้ประกอบการในพื้นที่ภาคเหนือให้ก้าวสู่ยุค Industry 4.0 อย่างเต็มรูปแบบ โดยล่าสุด เอไอเอส ได้เปิดให้บริการ 5G SA
(Stand Alone) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างสำคัญของการต่อยอดนวัตกรรมเครือข่าย
AIS 5G ที่จะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาลต่อภาคอุตสาหกรรมไทย
เนื่องจากการพัฒนานวัตกรรมเครือข่าย 5G จำเป็นต้องอาศัยคุณสมบัติของ
5G SA โดยเฉพาะ ด้วยประสิทธิภาพการใช้งานทั้งด้านความเร็ว
ความหน่วงต่ำ และการเชื่อมต่อเทคโนโลยี IoT จำนวนมาก รวมถึง
เทคโนโลยี 5G Network Slicing ที่ช่วยปรับแต่งคุณสมบัติเครือข่ายและทรัพยากร
เพื่อให้สอดคล้องและยืดหยุ่นกับลักษณะการใช้งานแต่ละรูปแบบ ในแต่ละพื้นที่ของภาคธุรกิจได้อย่างคล่องตัว
ทำให้สามารถรับประกันคุณภาพของการเชื่อมต่อและความเร็วได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
และเทคโนโลยี 5G Multi - access Edge Computing (MEC) ที่สามารถนำ
Application Server ให้เข้าใกล้ผู้ใช้งานมากที่สุด
ช่วยให้สามารถใช้งานเครือข่ายด้วยการเข้าถึงแบบไร้สาย
เพื่อให้บริการประมวลผลในปริมาณมากและมีความปลอดภัยสูงสุด
ก็ล้วนเป็นศักยภาพที่ทำได้เฉพาะใน 5G SA เท่านั้น
ด้วยความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลเทียบเท่าระดับโลก
ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีดิจิทัล จะเป็นข้อได้เปรียบสำหรับการแข่งขันบนเวทีโลก ทั้งนี้ ในปัจจุบัน เอไอเอส
ถือเป็นโอเปอร์เรเตอร์เพียงรายเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ให้บริการ 5G
Dual Mode ทั้งแบบ SA (Stand Alone) เครือข่าย
5G เฉพาะ และ NSA (Non-Stand Alone) เครือข่าย
5G ที่ทำงานร่วมกับ 4G บนคลื่นความถี่
2600 MHz”
ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ
อานันทนะ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “เทคโนโลยี 5G จะเข้ามาสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี และนวัตกรรมในด้านโทรคมนาคมร่วมกันของภาคการศึกษา
ภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐบาล โดยมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยผลักดันและสนับสนุนสภาวะแวดล้อม
(Ecosystem) ที่เอื้อประโยชน์ให้เกิดการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโครงการ Smart Building ของอาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ
(จังหวัดเชียงใหม่) และโครงการ Smart Factory ของโรงงานต้นแบบนวัตกรรมอาหารครบวงจร
(Innovative Food Fabrication Pilot Plant) ที่เทคโนโลยี 5G
จะสร้างการผลิตและการบริการรูปแบบใหม่ในประเทศ
ซึ่งเสริมสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลตามนโยบายของรัฐบาลไทย
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า ด้วยความแข็งแกร่งในการผนึกกำลังด้านเทคโนโลยีครั้งนี้และด้วยวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันในการนำ
5G Digital Infrastructure มาพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ
จะเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อสร้างแรงจูงใจและสนับสนุนให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมทางด้านโทรคมนาคมในประเทศได้อย่างสมบูรณ์”
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น