คารม
ก็คือถ้อยคำอันคมคายฉลาดไหวพริบดีทันคน เป็นการพูดที่ใช้คำพูดที่มีคำคม คนมีคารมคมคายย่อมจะเป็นคนพูดที่ดูมีเสน่ห์ และเป็นที่น่าสนใจฟัง
เพราะติดหูติดใจในคำพูดของคนคนนั้น จนมีคำพูดกันว่าคารมเป็นต่อรูปหล่อเป็นรอง
คำพูดนั้นน่าจะเป็นจริง เพราะเท่าที่เห็นได้รับรู้มา หญิงสาวที่สวย ๆ ดูจะเสียท่าและหลงเสน่ห์ชายที่มีคำพูดหรือเชื่อว่ามีคารมคมคายยิ่งนัก
มักจะชนะหนุ่มที่รูปงามแต่คำพูดไม่คมคายเป็นไหน ๆ
คารมมักจะเป็นคำพูดของนักพูดที่หากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง
ส่วนมากนักพูดฝีปากดีมักจะได้ไปพูดให้คนกลุ่มอื่นๆฟังกัน และไปแต่ละครั้งก็มีค่าพูดนับเป็นเงินต่อชั่วโมงก็หลายสตางค์อยู่
บางครั้งนักพูดเองพูดเก่ง อย่าง โน้ต อุดม แต้พานิช
นอกจากมีการรับเชิญไปพูดตามที่ต่างๆ แล้ว ยังจัด ทอล์คโชว์ โชว์ฝีปากวาทะศิลป์ให้คนทั่วไปรับฟังหาความสุขเพลิดเพลินกับการพูด
จัดพูดกันเป็นรอบๆ อย่างกับฉายหนัง มีการเก็บเงินเป็นค่าเข้าไปนั่งฟังเขาพูดกันด้วย
มักจะเอาคำพูดที่มีคารมคมคายสอดเข้าไปบ้าง บางทีก็เป็นคำพูดติดตลกเข้าไปบ้าง สร้างเสียงหัวเราะชอบใจกันนัก
มืออาชีพที่จริงน่าจะต้องเรียกเป็นปากอาชีพถึงจะถูก เพราะใช้ปากหากิน ไม่ใช่ใช้มือกันเลย
มักจะจดจำคำสุภาษิตบ้าง คำคมบ้าง ที่คำเหล่านั้นล้วนจะสะกิดใจคนฟังกันได้มาเป็นคำพูดของเขาอย่างคารมคมคาย
เช่น
-
เก้าเดือนของการเกิดคือก้าวชีวิตของคนใหม่
-
แข็งแกร่งแต่ไม่ใช่แข็งกระด้าง
-
ใบไม้ไม่มีลมพัดก็ไม่ไหวปลิว
-
ถ้าไม่มีก้าวแรกก็จะไม่มีก้าวต่อไป
-
งานง่ายอย่าประมาทงานยากอย่าท้อ
ฟังดีพูดดีจะทำให้ท่านมีเสน่ห์ถูกใจคนได้
พูดดีสร้างมิตรเพิ่มความคิดให้คนฉลาด นักพูดเห็นว่าคารมที่คมคายนั้นต้องฝึกฝนอย่างรู้ตัว
เวลามาพูดอย่างน้อยๆ ต้องมีคำคมสุภาษิตตนเอาไว้เผื่อจะได้ยกมาพูดทั้งได้ เน้นเรื่องที่พูดนั้นได้เป็นอย่างดีเชียว
ข้างล่างนี้คือข้อคิดสั้นๆ ปฏิบัติแล้วให้คุณ
1. พูดแล้วต้องให้คนฟังสบายหู จึงควรเลือกคำพูดให้เหมาะสมกับเวลาและบุคคล
น้ำเสียงที่นุ่มนวลมีจังหวะ จึงจะสรุปได้ว่าพูดดีนุ่มนวลชวนฟัง
2. ต้องมีท่าทางประกอบที่พอดี และสอดคล้องกับเรื่องที่พูดสีหน้าสายตามองผู้ฟังในขณะที่สนทนา
3. ต้องเป็นคารมที่จริงใจสร้างสรรค์ สรุปให้เห็นชัดเจนว่าพูดจากใจด้วยความจริงใจ
จะเห็นน้ำใจเพราะ...ปากกับใจไม่ตรงกัน เป็นความสัมพันธ์ไม่ยั่งยืน ใจเกลียดแต่ปากฝืน
พูดแต่ลิ้นสิ้นความหมาย ปากกับใจตรงกันเถิด ผลจะเกิดทั้งต้นและปลาย ผู้พูดใจสบาย ผู้ฟังเล่าเข้าใจตรง
นี่คือวาทะจากนักพูดที่หากินจากการพูด
ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ จะพูดกับคิดให้สัมพันธ์กันทุกครั้งที่คิด ทุกกิจกรรมที่ทำ ทุกคำที่พูด
ต้องทบทวนก่อนเสมอ แล้วท่านจะเป็นที่รักของเพื่อนได้คนที่มีคำพูดที่คารมคมคายกันแล้วก็ย่อมจะสร้างเสน่ห์แก่ผู้รับฟัง
เพราะผู้รับฟังนอกจากจะได้รับคำพูดที่คมสะกิดใจและอารมณ์กันแล้ว ยังจะได้ข้อคิดเอาไปประยุกต์ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย
ทั้งยังเรียกเสียงหัวเราะเฮฮากันได้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น