เปิดใจ เจ้าของร้านทองดีคาเฟ่ จ.เชียงใหม่ ยอมล็อคดาวน์ตัวเอง เผยไม่อยากให้ผู้ร่วมอาชีพกลับไปเป็นเหมือนเดิม ส่งพนักงานตรวจเชื้อ กักตัว รับผิดชอบต่อสังคม

 

 จำนวนผู้เข้าชม  

            จากกรณีชายวัย 33 ปี ชาว จ.ลำปาง ซึ่งได้เดินทางกลับมาจาก จ.ระยอง และได้เข้าใช้บริการร้านอาหารทองดีคาเฟ่ ตั้งอยู่  หมู่ 1 ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมกับเพื่อนรวม 3 คน เมื่อช่วงดึกของวันที่ 25 ธ.ค. 63 ที่ผ่านมา  และได้ตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.63 อยู่ระหว่างเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลลำปาง

            หลังทราบข่าวว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด ทางร้านทองดีได้ทำการปิดร้านทันทีในวันที่ 29 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา พร้อมกับทำการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบริเวณโดยรอบร้าน นอกจากนั้นยังพาพนักงานกลุ่มเสี่ยงที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อเข้าทำการตรวจหาเชื้อไวรัสเป็นชุดแรก พร้อมกับให้ทำการกักตัวดูอาการ 14 วัน  และพาพนักงานรายอื่นที่มีความเสี่ยงน้อยเข้าตรวจด้วยเช่นกัน

            นายนนทิวรรธน์ ทองดี เจ้าของร้านทองดีคาเฟ่ เปิดเผยกับลานนาโพสต์ว่า ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. ทราบข่าวว่ามีผู้ติดเชื้อมาใช้บริการที่ร้าน ก็ได้ปิดร้านและสั่งให้กักตัวน้องพนักงาน พ่นยาฆ่าเชื้อ อบโอโซน นัดกับทาง สสจ.เชียงใหม่นำพนักงานไปตรวจหาเชื้อ ซึ่งชุดแรกจะเป็นพนักงานเสิร์ฟ และน้องพีอาร์ที่ทำงานในวันที่ผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการที่ร้าน ซึ่งผลการตรวจออกมาแล้วเป็นลบทุกคน  ช่วงเช้าวันที่ 30 ธ.ค. ได้พาน้องพนักงานชุดสองไปตรวจ เป็นกลุ่มของแคชเชียร์ แม่บ้าน  และพนักงานในครัวอีกส่วนหนึ่ง อยู่ระหว่างรอผล  ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าต้องปิดร้านไปนานกี่วัน เพราะต้องรอผลการตรวจในรอบที่สองด้วย หากออกมาเป็นผลลบ จะปรึกษากับทาง สสจ.เชียงใหม่อีกครั้งว่าเปิดร้านได้หรือไม่

            สำหรับผู้ป่วยที่เข้ามาใช้บริการ ได้ผ่านการคัดกรองจากทางร้านแล้ว ก่อนเดินเข้าร้านก็ได้สวมใส่หน้ากากอนามัยตามปกติ และได้นั่งโต๊ะที่อยู่ในมุมอับ เพราะมาดึกแล้วประมาณ 5 ทุ่ม มีลูกค้าใกล้ชิด 1 โต๊ะ แต่ก็ห่างกันพอสมควร  ระหว่างนั่งดื่มกินกับเพื่อนอีกสองคน ได้ดึงหน้ากากอนามัยลงตามปกติ นั่งอยู่ร่วมชั่วโมงก็เช็คบิลออกไปเพราะร้านปิดเที่ยงคืน

            นายนนทิวรรธน์  กล่าวว่า เราได้ร้านผลกระทบเต็มๆ เนื่องจากสั่งของมาสต๊อกไว้ช่วงปีใหม่หลายแสนบาท และได้จัดเตรียมงานกิจกรรมช่วงปีใหม่ไว้ โดยทางร้านจะมีกิจกรรมอยู่ตลอด  เมื่อต้องมาหยุดร้านไปได้รับผลกระทบทั้งหมด   หถ้าบอกตรงๆก็โกรธที่คนเดียวสร้างความเดือดร้อน เพราะเราตั้งใจทำร้าน และเน้นย้ำให้น้องพนักงานคัดกรองดีๆ ตั้งใจทำงานให้ใส่แมสทุกคน เมื่อเกิดเรื่องก็ได้ปรึกษากับแฟนว่าจะเอายังไงดี ก่อนจะตัดสินใจปิดร้าน

“ผมไม่อยากกลับไปอยู่จุดเดิมที่ต้องปิดร้าน ปิดจังหวัด และมาทำข้าวกล่องแจกอีกแล้ว  และไม่อยากให้เพื่อนร่วมอาชีพของเรากลับไปอยู่จุดเดิม  ในเมื่อเราเป็นกลุ่มเสี่ยงก็ยอมล็อคดาวน์ตัวเอง เพื่อให้เชียงใหม่ได้ไปต่อ ปีใหม่นี้ไม่ได้เคาท์ดาวน์ แต่ต้องล็อคดาวน์ตัวเองและน้องๆพนักงานแทน”เจ้าของร้านทองดีคาเฟ่ กล่าว

นายนนทิวรรธน์ ยังกล่าวอีกว่า รู้สึกเห็นใจ จ.ลำปาง ทราบว่าหลายกิจการก็ต้องปิดไปเหมือนกัน  ตอนนี้คือหวังว่าผลตรวจชุดแรกและชุดสอง จะออกมาเป็นลบทุกครั้ง และเราจะกลับมาลุยธุรกิจกันต่อ