ดนตรีกับเพลง
เป็นสิ่งที่แทบจะแยกกันไม่ออก หลายคนเข้าใจว่ามันก็เหมือนๆกัน ดูจะเป็นสิ่งคู่กันไป
เรามาดูคำนิยามความหมายของ 2 คำนี้กัน
ดนตรี คือ เครื่องบรรเลงที่เป็นเครื่องเล่นให้เกิดเสียง
เพื่อจะให้มีการร้องรำทำเพลง ในการเล่นสนุกทางเสียงกัน มีความสุขในการร้อง การทำดนตรีเครื่องเสียง
เป็นการบันเทิงทางเสียง
เพลง คือ สำเนียงขับร้องของคนร้องตามทำนองของเครื่องเสียงของดนตรีที่มีชิ้นส่วนเครื่องเล่นหลาย
ๆ ชิ้น ที่มีเสียงกลอง และเสียงเบสค่อยกำกับให้จังหวะในการเล่น การร้อง
ให้เป็นเสียงเพลงเสียงร้อง เกิดเป็นความไพเราะทางเสียง ที่สร้างความสุขสนุกสนานตามงานรื่นเริง
งานพิธี งานกีฬาการแข่งขันต่าง ๆ งานเศร้า ๆ ประกอบพิธีทางศาสนาก็เอาเครื่องดนตรี
เสียงร้องมาประกอบในงานอีกด้วย
ดนตรีเป็นศิลปะของการใช้เสียง
เกิดขึ้นมาในโลกพร้อม ๆ กับมนุษย์นั่นเอง
การแสดงออกทางดนตรีของมนุษย์เป็นไปตามธรรมชาติ เช่น การเคาะไม้ เคาะหิน เป่าปาก
เป่าเขา การตบมือ ฯลฯ โดยทำไปเพื่อรวมกลุ่มให้สัญญาณ อ้อนวอนพระเจ้า หรือเพื่อความบันเทิงผ่อนคลาย
ต่อมาดนตรีได้วิวัฒนาการไปตามความเจริญ และความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์
การเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของดนตรี จะช่วยให้เรามีวามเข้าใจซาบซึ้ง
และเห็นคุณค่าทางดนตรี
ประวัติดนตรีไทย
ชนชาติไทยมีดนตรีมาแต่โบราณ
ดนตรีถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เวลาทำบุญที่มีพระสงฆ์สวดมนเย็น
ก่อนจะเริ่มงานก็มีปี่พากย์โหมโรง และตีกลองดังตุ้ม ๆ บอกให้รู้ว่างานเริ่มขึ้นแล้ว
เครื่องดนตรีไทยประกอบด้วย
เครื่องดีด สี ตี เป่า
1.
เครื่องดีด ได้แก่ เครื่องดนตรีจำพวกที่มีสาย มีกะโหลกเสียง
และใช้นิ้วหรือไม้ดีดให้เกิดเสียง
2.
เครื่องสี เป็นเครื่องดนตรีที่ใช้สายและคันชักติดขนหางม้าสำหรับตี เช่น ซอชนิดต่าง
ๆ
3.
เครื่องตี มีทั้งประเภททำด้วยไม้ โลหะ และหนัง เช่น ระนาด กรับ ฉิ่ง ฉาบ กลอง
เป็นต้น
4.
เครื่องเป่า เป็นเครื่องดนตรีที่ใช้ลมเป่าเป็นส่วนมาก ได้แก่ ขลุ่ย ปี่ แคน แตร
สังข์
เพลงดนตรีไทย
มีทำนองต่าง ๆ บางชนิดมีทำนองเรียบ
เรียกว่า เพลงพื้น บางชนิดเดินทำนองเป็นเสียงยาว โดยใช้เครื่องตีตีกรอเสียงให้ยาว
เรียกว่าเพลงกรอ เป็นต้น เพลงไทยแบ่งตามลักษณะของเพลงได้เป็น 4 ประเภท คือ
1.
เพลงหน้าพากย์ ได้แก่ เพลงที่ประกอบกริยาเคลื่อนไหว หรือเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ
ทั้งของมนุษย์ สัตว์ วัตถุต่าง ๆ
2.
เพลงรับร้อง คือ เพลงที่บรรเลงประกอบรับจากการร้องจะเล่นกับเพลงสามชั้น
3.
เพลงละคร คือ
เพลงที่บรรเลงประกอบการแสดงโขน ละคร มหรสพต่าง
ๆเล่นกับเพลงสองชั้น
4.
เพลงเบ็ดเตล็ด ได้แก่ เพลงเล็ก ๆ สั้น ๆ บรรเลงเพื่อความสนุกสนาน
การขับร้องเพลงไทย
ผู้ขับร้องจะต้องนั่งพับเพียบตัวตรง ท่าทางสำรวม หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส
การร้องจะต้องเปล่งเสียงให้ชัดถ้อยชัดคำ ถูกจังหวะและทำนอง มีการเอื้อนเสียง
เพลงไทยสากล
จะมีเนื้อร้องเต็มทำนองไม่มีการเอื้อนสียง การขับร้องจะง่ายกว่าการขับร้องเพลงไทยเดิม
การขับร้องเพลงไพเราะ ผู้ขับร้องต้องร้องให้เต็มเสียง ชัดถ้อยชัดคำร้องได้ถูกจังหวะและทำนอง
อาจมีการเคลื่อนไหวร่างกายประกอบเพื่อถ่ายทอดอารมณ์เพลง
ประวัติดนตรีสากล
ดนตรีสากลในระยะแรกมีเพียงเสียงเดียวและแนวเดียวเท่านั้น เรียกว่า “Melody”
ไม่มีการประสานเสียง ต่อมาจึงเริ่มใช้เสียงต่าง ๆ
มาประสานกันอย่างง่าย ๆ
การเล่นดนตรี
ดนตรีมีทั่วไปทุกหนทุกแห่งในโลก
บางครั้งเครื่องดนตรีชนิดเดียวกันแต่ประกอบด้วยวัสดุแตกต่างกันไปตามสภาพของแต่ละท้องที่
ตัวอย่างเช่น กลอง บางแห่งจะขุดขอนไม้ให้เป็นโพรงแล้วใช้หนังสัตว์ขึงรอบขอนไม้
แต่บางแห่งก็ใช้โลหะ กลองแต่ละเทศเวลาตีก็มักให้เสียงที่แตกต่างกันออกไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น