ผ่านเรื่องราวร้ายดีจนมาถึงสิ้นปี
2563 ดังนั้น เพื่อสร้างความสุขให้กับประชาชน
รัฐบาล โดย สถาบันบัณฑิตพัฒศิลป์ (สบศ.) กระทรวงวัฒนธรรม
ได้มอบของขวัญให้กับประชาชน ด้วยการจัดกิจกรรม ”การแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์
ชุด พระรามราชสุริยวงศ์” ภายใต้โครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมทั่วทิศแผ่นดินไทย เพื่อส่งเสริม
สืบสาน ทำนุบำรุง และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมการแสดงโขน
กิจกรรมดังกล่าวใช้นักแสดงร่วม 300 ชีวิต คัดเลือกจากวิทยาลัยนาฏศิลปทั่วประเทศ และผ่านการฝึกซ้อมอย่างเข้มข้น เพื่อการแสดงอันวิจิตรงดงาม สืบสานนาฏกรรมชั้นสูงของไทย และพัฒนาทักษะฝีมือนักเรียนนาฏศิลป์ ฝึกประสบการณ์วิชาชีพผ่านการแสดงโขนตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 ถึงวันแม่ 12 สิงหาคม 2564 จำนวน 14 ครั้ง ใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร เปิดให้เข้าชมฟรี หวังให้ศิลปะไทยเข้าถึงคนไทยทุกกลุ่มทุกวัยทั่วประเทศ
ปรเมศวร์
งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม
กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล
ในการจัดโครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมทั่วทิศแผ่นดินไทย โดยมอบหมายให้
สบศ.จัดโครงการดังกล่าว
และนำเอาโขนซึ่งเป็นการแสดงอันเป็นนาฏกรรมชั้นสูงของประเทศไทย มาจัดแสดงให้สาธารณชนทั่วประเทศได้รับชมถึงความยิ่งใหญ่
ความอลังการ และความวิจิตรงดงามของโขนไทย
ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
ด้านการสืบสานงานวัฒนธรรมของชาติ ที่ต้องการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมต่อสาธารณชนให้มากที่สุด
“เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะร่วมกันเผยแพร่และสืบสานศิลปะการแสดงโขน
ให้ดำรงไว้อย่างยั่งยืน และทำให้เยาวชนของเราที่มีความเชี่ยวชาญ
มีความสามารถในการแสดงนาฏศิลป์ ได้มีโอกาสที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงครั้งนี้
เพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถและความเชี่ยวชาญยิ่งขึ้นไป
และยังทำให้นาฏกรรมระดับสูงเช่นนี้เข้าถึงประชาชนทุกภูมิภาคโดยทั่วกัน
ทำให้เกิดการสร้างความรักสามัคคีด้วยมิติทางวัฒนธรรม
และประชาสัมพันธ์ให้สถาบันบัณทิตพัฒนศิลป์ เป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้น” ปรเมศวร์ กล่าว
นิภา
โสภาสัมฤทธิ์
อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กล่าวถึงความสำคัญของการสืบสานการแสดงโขนว่า ปี 2561 องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(UNESCO)
ได้ประกาศขึ้นบัญชี “Khon, masked dance drama in Thailand” หรือการแสดงโขนในประเทศไทย ให้เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้
ประเภทรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ
ซึ่งนับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทยรายการแรกที่ได้รับการขึ้นทะเบียน
จัดการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ ชุด พระรามราชสุริยวงศ์ จึงเป็นอีกพันธกิจหนึ่งของสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์
ในการพัฒนาและสืบสานเอกลักษณ์ของชาติไทย เป็นการเผยแพร่นาฏศิลป์ชั้นสูงอันเก่าแก่ของไทย
อีกทั้งยังเป็นการปลูกจิตสำนึกให้แก่เยาวชน นักเรียนนักศึกษา และประชาชนทั่วไป
ได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยในระดับชาติ
ด้าน อาจารย์ประเมษฐ์
บุญยะชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านนาฏศิลป์ไทย ผู้เรียบเรียงบทสำหรับการแสดงครั้งนี้
กล่าวว่า เรื่องราวตอนนี้เป็นตอนที่
พระอิศวรทราบความว่าทศกัณฐ์ได้กระทำการเบียดเบียนเทวดาและมนุษย์โลกให้เกิดความวุ่นวาย
จึงมีดำริให้พระนารายณ์และพระลักษมี อวตารลงไปเกิดในโลกมนุษย์เพื่อปราบปรามยุคเข็ญ
โดยมีเหล่าเทวดารับอาสาลงไปเกิดเป็นทหารของพระราม หรือพระนารายณ์อวตาร
โดยมีทั้งการประพันธ์บทขึ้นใหม่และปรับปรุงจากบทเก่า
เป็นตอนที่มีเนื้อหาเรื่องราวสนุกสนานชวนติดตาม มีคติธรรมสอนใจ
และสื่อให้เห็นความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ ตามความเชื่อที่ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์
สืบวงศ์มาจากพระนารายณ์ และยังสอดแทรกความรู้ที่มาของสำนวนไทย เช่น 18 มงกุฎ
ที่หมายถึงเหล่าเทวดาที่ขอเกิดมาเป็นวานร 18 มงกุฎ
บริวารของพระรามซึ่งมิได้มีความหมายในทางหลอกลวงอย่างที่ใช้กันในปัจจุบันแต่อย่างใด
ขณะที่ ศ.ดร.ศุภชัย
จันทร์สุวรรณ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์) พ.ศ.2548 ผู้กำกับดูแลการ
แสดงทั่วประเทศใน 4 ภูมิภาคทั่วประเทศกล่าวว่า
การแสดงชุดนี้ ใช้นักแสดงร่วม 300 ชีวิต
ซึ่งคัดเลือกจากวิทยาลัยนาฏศิลปทั่วประเทศ
และผ่านการฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นเพื่อการแสดงอันวิจิตร เพื่อให้นักเรียนนาฏศิลป์ได้ฝึกประสบการณ์วิชาชีพ
และเปิดให้เข้าชมฟรี เพื่อให้ศิลปะไทยเข้าถึงคนไทยทุกกลุ่มทุกวัยทั่วประเทศ
โขนเรื่องรามเกียรติ์
ชุด พระรามราชสุริยวงศ์ มีความยาว 1 ชั่วโมง 50 นาที
เป็นการแสดงโขนกลางแจ้งที่ไม่ได้มีการจัดฉากเช่นโขนหลวง
เพื่อให้ผู้ชมสามารถรับชมได้อย่างใกล้ชิด ประกอบด้วยฉากสำคัญ 3 ฉากใหญ่ คือ ฉากเทวสภา ซึ่งแสดงการอวตารของพระนารายณ์ พระนางลักษณมี
และเหล่าทหาร ฉากยกรบ ที่จะแสดงให้เห็นความยิ่งใหญ่ของสองทัพ ระหว่างฝ่ายธรรมะกับอธรรม
นำเสนอกระบวนท่ารำอันสวยงามที่บรรพบุรุษได้สร้างสรรค์เอาไว้และสืบทอดมาจนปัจจุบัน
ทั้งกระบวนท่ารบ กระบวนท่ายกทัพ ท่าขึ้นลอย อันเป็นหัวใจของการแสดงโขน
และฉากคืนพระนคร ซึ่งแสดงให้เห็นความสวยงามของกระบวนทัพ
และบทประพันธ์ที่ไพเราะงดงาม จากครูทัศนีย์ ขุนทอง ศิลปินแห่งชาติ
สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทย-คีตศิลป์)2555 สำหรับการแสดงซึ่งจัดขึ้นใน
4 ภูมิภาค ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ทาง www.bpi.ac.th หรือ เฟซบุ๊กสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ หรือ
โทร. 02-482-2176 ต่อ 380,384 และ 386
กอบแก้ว แผนสท้าน...เรื่อง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น