คำที่พูดออกมาจากปากคน ซึ่งก็แตกต่างกันไปตามสไตล์
ลีลา คารม โวหาร ของแต่ละคน ซึ่งก็จะมีประเภทหนึ่งที่พูดออกมาเพียงคำว่าแบะ ๆ ก็คือคนใบ้ที่พูดออกมาเป็นภาษาคงจะไม่ได้
ต้องใช้ภาษาอื่นแทนคำพูดกันไป คือ ภาษามือนั่นเอง
คำพูดของคนเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน
บางคนคำพูดของเขาช่างมีคารม ที่ดูจะคมคายพูดอย่างมีเสน่ห์ชวนให้มาฟัง คนพูดเก่ง
พูดดียังประกอบเป็นอาชีพได้ อย่าง กลุ่มนักพูด ที่ผู้คนคอยซื้อบัตร ซื้อตั๋วเข้าไปฟังเขาพูด
นับเป็นชั่วโมงแห่งการหรรษา พาเพลินไปกับคำพูดของเขา เรียกเสียงหัวเราะฝากรอยยิ้ม สร้างความสุขให้แก่คนฟังกันได้มาก
ๆ
คำพูดบางคนเชื่อถือได้ ในขณะที่คำพูดของคนบางคน
ต้องเอา 50 หรือ 100 หาร เชื่อถือคำพูดของเขาไม่ได้
เพราะเขาเป็นคนอารมณ์ดี ๆ มีความสุขในการพูด บางกลุ่มที่พูดแล้วสนุกเพลิดเพลินดี ฟังแล้วไม่เห็นจะจริงตามที่พูด
ก็เขาก็โม้ให้เราฟัง แต่ว่าถ้าคำพูดของเขานั้น สร้างความสนุกเพลิดเพลินใจดีแต่หาสาระนั้นก็คงไม่ได้หรอก
คำพูดที่น่าเชื่อถือ
มักจะไม่สวย
คำพูดที่สวย
นั้นไม่น่าเชื่อถือ
#เล่าจื้อ
คำพูดเป็นสิ่งสำคัญที่สามารถเปลี่ยนจิตใจของผู้ฟังได้อย่างน่าอัศจรรย์
ยิ่งเป็นคำพูดที่สวยหรูดูหวานหูแล้วมักจะเป็นที่เชื่อถือกันมาก ซึ่งในความจริงแล้วคำพูดเหล่านั้นจะถูกหรือผิดก็ยังไม่รู้ได้
คำพูดหลอกลวงเพื่อหวังผลบางอย่าง ส่วนมากจะพูดออกมาด้วยถ้อยคำที่หวาน
เพื่อล่อหลอกให้ผู้ฟังนั้นหลงเชื่อใจ
เหมือนรสหวานที่คนเราใช้หลอกล่อแมลงมาติดกับ ต่างจากคำพูดที่จริงใจและจริงจังที่มักจะฟังดูไม่ค่อยลื่นหูเท่าไหร่เมื่อฟังทีไรก็ยิ่งสร้างความรำคาญทำให้อารมณ์เสีย
และสุดท้ายก็มักจะไม่เชื่อคำพูดเหล่านั้น
คนที่มีปัญหาจะฟังสิ่งใดนั้นต้องควบคู่กับการพินิจพิเคราะห์ไปด้วย
ต้องดูที่มาที่ไปว่าความจริงแล้วผู้พูดนั้นมีจุดประสงค์อะไร และเราเชื่อถือคำพูดนั้นมากน้อยเพียงใดด้วย
หากทำได้เช่นนี้ก็จะเห็นความจริงที่ซ่อนอยู่ในคำพูดเหล่านั้น จะไม่หลงตกเป็นเหยื่อโดยง่าย
ผู้มีปัญญาย่อมเลือกที่จะฟังด้วยสมองมากกว่าฟังด้วยหู
เพื่อจะได้รับรู้ความจริงของถ้อยคำนั้น
ยิ่งคนผู้นั้นเป็นผู้ที่มีอำนาจปกครองบ้านเมือง
การฟังจึงต้องละเอียดกว่าคนธรรมดามาก เพราะหากฟังเอาความไพเราะของคำพูดเป็นหลักแล้วเชื่อไปเสียทุกอย่าง
ย่อมหลงเป็นเหยื่อของคนโฉดได้ง่าย สุดท้ายก็ทำงานอย่างถูก ๆ ผิด ๆ ทำให้บ้านเมืองระส่ำระสายวุ่นวายไปหมด
ผู้นำเช่นนี้ย่อมไม่อาจจะปกปักรักษาบ้านเมืองได้อย่างร่มเย็นได้
ในประวัติศาสตร์ก็มีผู้นำที่เป็นเช่นนี้มากมาย ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาคล้าย ๆ กันคือทำให้บ้านเมืองแตกแยกสุดท้ายก็นำความล่มสลายมาสู่แผ่นดิน
คำพูดที่หวานแต่โป้ปดนั้นมีอนุภาพยิ่งกว่าหอกกว่าดาบที่แหลมคม
นั่นเพราะคมหอกคมดาบนั้นฟาดฟันเพียง เนื้อหนัง กระดูก เท่านั้น แต่คำพูดโป้ปดเหล่านั้น
ฟาดฟันไปถึงความเป็นคนให้สูญสิ้นไป
คำพูดของคนแต่ละคนนั้นก็มีความเชื่อถือแตกต่างกันไปตามลักษณะของคนนั้น
จะเชื่อถือคำพูดของใครคนใดคนหนึ่งจำต้องมีการพินิจพิจารณาคำพูดของเขาว่ามีความจริงแค่ไหนแต่สำหรับคนขี้โม้นั้นแม้จะไม่มีความจริงอยู่เลยแต่ผู้คนก็ฟังเขาพูดตลอดจนจบเรื่อง
เพราะเขาคนขี้โม้นั้นพูดเก่ง ลีลาเจ๋ง คมคายดี เอาความสนุกมาฝากคนจึงฟังกันมากทั้ง
ๆ ที่รู้ว่าที่ฟังกันนั้นโม้ ไม่จริงกันทั้งเพก็ตามที
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น