เปิดแนวคิด 2 สจ.หนุ่ม คนรุ่นใหม่ ผันตัวสู่การเมือง พร้อยลุยงานช่วยชาวบ้าน “การพัฒนาเป็นเรื่องท้าทาย ไม่รับปากว่าจะทำให้ได้ แต่จะทำให้ดีที่สุด”

          หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง และสมาชิกสภาองค์การบริหารจังหวัดลำปาง รวม 25 เขตเลือกตั้ง และ กกต.จังหวัดลำปางมีการมอบหนังสือรับรองไปแล้ว เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 64 ที่ผ่านมา

ซึ่งในสภา อบจ.ลำปาง ชุดใหม่นี้ มี สจ.คนใหม่ที่ได้เข้ามารับตำแหน่งถึง 16 ที่นั่งด้วยกัน  และมี สจ.หนุ่มอายุน้อยที่สุดด้วยกัน 2 คน คือนายบุญธฤต ธนะสุวัตถ์ อายุ 26 ปี  จากเขต 1 อ.เมืองลำปาง และ นายกฤศน์วัต ประสาน  อายุ 26 ปี จากเขต อ.เมืองปาน  ซึ่งมีแนวคิดการทำงานของคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ

บุญธฤต ธนะสุวัตถ์  สจ.ลำปาง เขต 1 อ.เมืองลำปาง

          นายบุญธฤต ธนะสุวัตถ์  สจ.ลำปาง เขต 1 อ.เมืองลำปาง เปิดเผยถึงสาเหตุที่มาลงสมัครว่า จากที่ได้มาทำงานจิตอาสาช่วยเหลือสังคม ของมูลนิธิกู้ภัยสว่างนครลำปาง ได้เห็นถึงความลำบากของประชาชนในหลากหลายรูปแบบ และมีความคิดที่อยากจะช่วยเหลือคนเหล่านั้น ด้วยการดึงงบประมาณต่างๆเข้ามาช่วยเท่าที่ทำได้  ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีเมื่อมีการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภา อบจ.ลำปาง จึงตัดสินใจที่จะลงสมัครเนื่องจากเป็นช่องทางหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม

          “ในตอนแรกไม่เคยคิดจะมาทางสายการเมืองเลย ชอบงานจิตอาสามากกว่า แต่คิดว่าอยากจะทำให้มากขึ้นกว่าเดิม จึงได้ปรึกษากับทางบ้านว่าถ้าชอบด้านนี้ให้ทำเป็นเรื่องเป็นราว เข้าไปในระบบ หากลองดูแล้วไม่สำเร็จ ก็ค่อยกลับมาทำเองเหมือนเดิม  ตอนแรกไม่มั่นใจเลยเพราะเราใหม่จริงๆ ไม่เคยคิดว่าจะชนะ คิดเพียงว่าทำเต็มที่ เดินไปพบชาวบ้านตัวต่อตัว เสนอตัวว่าเราเป็นกลาง เป็นคนรุ่นใหม่ไม่โจมตีใคร ซึ่งผลคะแนนที่ออกมาท่วมท้นเป็นที่น่าตกใจเหมือนกัน หลังจากที่เลือกตั้งแล้วได้รับข้อความจากเพจ มีคนทักเข้ามาให้กำลังใจ”

          เมื่อสอบถามถึงแผนการทำงาน นายบุญธฤต กล่าวว่า  ยังไม่ทราบว่ารูปแบบงานจะเป็นอย่างไร แต่ตอนไปลงพื้นที่ได้ทราบถึงความต้องการของประชาชนในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นความต้องการด้านระบบการศึกษา หรือการซ่อมแซมสาธารณูปโภค ซึ่งก็จะพยายามที่จะผลักดันช่วยเหลือให้ได้ครอบคลุม เพราะที่ผ่านมาประสบปัญหาว่าชาวบ้านไม่รู้จะติดต่อหน่วยงานไหน นานเป็นปีแล้วก็ยังไม่ได้รับการดูแลเลย  ความต้องการเล็กๆเราน่าจะจัดการให้ได้  หากความต้องการที่ใหญ่หน่อย ก็จะต้องร่วมมือกับนายก อบจ.ให้ท่านเข้ามาช่วย

          โดยส่วนตัวแล้วมองการแก้ปัญหาด้านสาธารณสุขก่อน เนื่องจากมีปัญหามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาโควิด และปัญหาคุณภาพอากาศในปัจจุบัน หากช่วยในส่วนนี้ได้ เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  ในความเป็นจริงทุกอย่างต้องใช้งบประมาณอยู่แล้ว แต่จะใช้อย่างไรต้องมาคิดกันอีกที  เช่น เรื่องโควิด ที่ผ่านมาไปเน้นการสนับสนุนหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ แต่ความต้องการของชาวบ้านที่แท้จริงก็คือ รายได้ อาหาร และของใช้ในชีวิตประจำวัน  เพราะชาวบ้านบางกลุ่มไม่ได้ทำงาน ไม่ได้ขายของ ก็ไม่มีรายได้

          ด้านการทำงานร่วมกับ สจ.รุ่นพี่ นายบุญธฤต กล่าวว่า  เรื่องวัยวุฒิเป็นเรื่องสำคัญ  แต่เราสามารถแสดงความคิดเห็นในทางที่ไม่โจมตีใคร เข้าไปในรูปแบบนอบน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ ไม่ได้มองว่าตำแหน่งเดียวกันต้องเท่าเทียมกัน ซึ่งระบบของไทยทำแบบนั้นไม่ได้อยู่แล้ว  แต่เป็นการขอการแนะนำจากรุ่นพี่มากกว่า  เราไม่ได้เลือกฝ่ายเพราะการทำงานจะมีข้อจำกัด ถ้าเป็นจุดของคนรุ่นใหม่จริงๆ ทำงานเข้ากับทุกฝ่ายเราจะทำงานได้ดีมากกว่า เราเข้ามาเพื่อเป็นกลาง ทำงานเพื่อประชาชน

          “จากที่ได้สัมผัสมาพบว่าชาวบ้านลดความน่าเชื่อถือกับการเมืองท้องถิ่นไปมาก เพราะไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลง ชาวบ้านจึงต้องการโอกาสที่จะเปลี่ยน  และเราก็เข้ามาในช่วงที่มีโอกาสพอดี  ไม่มีภาพลบและภาพบวก พูดตรงไปตรงมา ซึ่งอยู่ที่เราแล้วว่าเมื่อเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้แล้วจะทำให้ภาพเป็นลบหรือเป็นบวก  สัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด ไม่อยากทำแค่รับปากว่าจะทำ แต่จะทำให้เต็มที่ตามที่ความสามารถจะทำได้”  นายบุญธฤต สจ.เขต 1 อ.เมืองลำปาง กล่าว

กฤศน์วัต  ประสาน  สจ.เขต อ.เมืองปาน

ด้าน นายกฤศน์วัต  ประสาน  สจ.เขต อ.เมืองปาน  เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เป็นวิศวกรมาก่อน และได้มีโอกาสเข้ามาช่วยงานทางการเมืองกับคุณพ่อ(พิษณุพล ประสาน) ประมาณ 2 ปี บอกตรงๆว่ายังไม่ได้คิดจะลงการเมือง แต่คุณพ่อทาบทามมานาน เราได้มีโอกาสคลุกคลีกับงานพัฒนาสังคมและพื้นที่ ก็เลยใจอ่อนในที่สุด  เป็นธรรมชาติของเรา เป็นสิ่งที่เราได้เจอมาตลอดตั้งแต่เกิดทั้งพ่อและแม่ทำงานด้านนี้มาโดยตลอด จึงอยากที่จะเข้ามาช่วยเหลือส่วนรวมในส่วนนี้ด้วย

  “ในเขต อ.เมืองปาน ค่อนข้างท้าทายในการพัฒนา เพราะจะต้องร่วมมือกับหลายหน่วยงาน ดึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาทำงานจำนวนมาก  ถ้าทำเพียงคนเดียวคงไม่สะดวกที่จะทำงานได้เต็มที่ แต่ถือว่าโชคดีที่คุณพ่อ เคยประสานงานเดิมและผลักดันโครงการต่างๆเข้ามาได้มาก  แต่ยังมีโครงการบางส่วนที่ยังไม่สำเร็จ  ซึ่งตอนนี้ก็กำลังวางแผนจะทำงานอยู่แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด อาจจะเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในจังหวัดเลยก็ว่าได้”

          นายกฤศน์วัต กล่าวอีกว่า การทำงานร่วมกับรุ่นพี่ ทุกคนเป็นพี่ที่น่ารัก ได้มีการพูดคุยปรึกษา สอนการทำงานในด้านต่างๆ การบริหารจัดการของการพัฒนาชุมชน รวมถึงการแก้ปัญหาต่างๆ  ในแต่ละพื้นที่จะมีปัญหาที่ไม่เหมือนกัน แต่ก็จะนำมาประยุกต์ใช้กับพื้นที่ของตนให้มากที่สุด

          ส่วนการแสดงความคิดเห็นของเราในฐานะคนรุ่นใหม่และอายุน้อยจะเข้าถึง สจ.ท่านอื่นหรือไม่นั้น คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเห็นว่าปัจจุบันอายุไม่เกี่ยวข้องแล้ว เขาจะดูที่การทำงานของเรา ถ้าเราทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อว่าการทำสิ่งที่ดีจะช่วยเหลือได้ หากความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็เชื่อว่าจะมีการพูดคุยกันได้