ตามหนังสือพจนานุกรม
ให้ความหมายของ น้ำ ว่าคือ ของเหลวใส ไม่มีสี กลิ่น รส ใช้บริโภคได้
แสงแวววาวของเพชรพลอย น้ำของที่กล่าวข้างต้นนั้นก็ควรจะเป็นน้ำบริสุทธิ์กัน
หากน้ำไปผสมกับสิ่งอื่น ๆ นั้น ก็คงไม่บริสุทธิ์ เช่น น้ำกระสาย น้ำกะทิ น้ำขาว
น้ำแข็ง น้ำครำ น้ำค้าง น้ำคำ(คำพูด) น้ำเงิน น้ำจัณฑ์ น้ำจิ้ม น้ำใจ(ใจจริง)
น้ำเชื่อม น้ำตก น้ำตา น้ำตาเทียน น้ำตาล น้ำทิพย์ น้ำท่า น้ำนม น้ำปลา น้ำป่า
น้ำพริก น้ำพุ น้ำมนต์ น้ำมัน น้ำมือ(ฝีมือ) น้ำยา น้ำลาย น้ำเสียง
(คำพูดที่เป็นหนักเบาดังค่อยของเสียง) น้ำอบ น้ำอัดลม น้ำอ้อย ฯลฯ
น้ำเป็นตัวเอกร่างกายคนเรา
หากเป็นเรื่องสุขภาพคงต้องยกให้
“น้ำเปล่า” ไม่ใส่น้ำแข็ง น้ำที่อุณหภูมิปกติ
ไม่ร้อนหรือเย็นจัดจนเกินไป
ถือเป็นน้ำที่ดีต่อสุขภาพและคุณค่าแก่การดื่มเป็นที่สุด การดื่มน้ำอย่างถูกต้อง
จะช่วยให้การไหลเวียนของโลหิตดี หัวใจทำงานปกติ การขับถ่ายของเสียทำงานได้ดี
ที่สำคัญยังช่วยให้ในหน้าชุ่มชื่น ผิวพรรณดี มีเลือดฝาด เพราะว่า 50 – 60% ของน้ำหนักตัวของคนเราก็คือ “น้ำ”
- กล้ามเนื้อประกอบด้วยน้ำถึง
75%
- สมองมีน้ำอยู่ถึง 85%
- ในร่างกายมีน้ำระหว่างเซลล์
40%
- ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะทำงานได้ดี
เมื่อมีน้ำในปริมาณที่เพียงพอ หากเซลล์ในร่างกายขาดน้ำก็จำทำหน้าที่ผิดปกติ
ทำให้เจ็บป่วยได้
ประโยชน์ของการดื่มน้ำ
- ช่วยให้ไตทำหน้าที่กรองของเสียออกจากร่างกายได้สะดวก
- ช่วยควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ
ไม่ให้ทำงานหนัก เพราะร่างกายมีน้ำในเลือดมาก
- ช่วยให้ตับเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น
ดังนั้นคนอ้วนจึงต้องน้ำหนักมากกว่าคนปกติ
- น้ำช่วยควบคุมอุณหภูมิของร่างกายให้เย็นลง
เมื่อเป็นไข้เราต้องดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อลดไข้
น้ำคือตัวการที่สำคัญที่ทำให้คนเจ็บป่วยได้
เลือดของคนเรานั้นต้องประกอบด้วยน้ำ
ถ้าร่างกายขาดน้ำลักษณะของเลือดจะข้นหนืด
ทำให้มันไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงร่างกายได้ลำบาก ดังนั้นถ้าไม่อยากเจ็บไข้ได้ป่วย
ก็ควรใส่ใจดื่มน้ำให้ถูกเวลา และเวลาดีที่เหมาะสมแก่การดื่มน้ำคือ
ดื่มน้ำตอนเช้าหลังตื่นนอน
ดื่มให้ได้
2 – 3 แก้ว ก่อนลุกไปเข้าห้องน้ำ เพราะถ้าลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วมักจะลากยาวทำโน่นทำนี่ต่อ
ทำให้หลงลืมเรื่องการดื่มน้ำไป ควรบังคับตัวเองให้ได้จะเป็นการดี การดื่มน้ำอุ่น ๆ
หรือน้ำอุณหภูมิปกติในตอนเช้า เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการกำจัดพิษออกจากร่างกาย
ร่างกายจะได้สะอาด ถือเป็นยารักษาโรคขนานดีที่ไม่เปลืองสตางค์
ผู้ที่มีอาการท้องผูก หากดื่มน้ำได้ 2 – 3 แก้วในตอนเช้า ร่างกายจะค่อย ๆ
ปรับสมดุล น้ำจะทำหน้าที่ชำระล้างความสะอาดระบบขับของเสียในร่างกาย และภายใน 2
สัปดาห์ระบบขับถ่ายก็จะค่อย ๆ ดีขึ้น
หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำเย็น
อุณหภูมิร่างกายของคนเราอยู่ที่
37 องศาเซลเซียส หากเราดื่มน้ำเย็นมันจะไปดึงความร้อนในร่างกายมาทำให้อุณหภูมิของน้ำเท่ากับอุณหภูมิของร่างกาย
ทำให้สูญเสียพลังงานและเสียเวลาปรับสมดุลให้คืนสู่ปกติ
อย่าดื่มน้ำระหว่างรับประทานอาหาร
ประเภท
“กินข้าวคำน้ำคำ” นั้นจะทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดี การดื่มน้ำก่อนกินอาหารก็ไม่ควรทำเช่นกัน
เพราะน้ำที่ดื่มเข้าไปจะไปเจือจางน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร เมื่อกินอาหารตามเข้าไป
น้ำย่อยที่เข้มข้นสำหรับการย่อยอาหารจะเจือจางลงทำให้ย่อยอาหารไม่ดี
พออาหารไม่ย่อยก็เกิดการหมักหมมในกระเพาะอาหาร ตกค้างเป็นพิษในร่างกาย
ดื่มน้ำให้ถูกเวลา
-
หลังการตื่นนอนตอนเช้า 2
แก้ว
-
ช่วงระหว่างอาหารเช้าก่อนเที่ยงวัน
2 แก้ว
-
ก่อนนอน 2 แก้ว
หากออกกำลังกายหรือมีเหงื่อออกมาก ควรดื่มน้ำเพิ่มขึ้น
เห็นไหมน้ำนั้นสำคัญต่อชีวิตคนเรามาก ๆ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น