เมืองโบราณที่ตั้งอยู่มานานกว่าพันปีในประเทศไทย
และยังคงหลงเหลือสภาพความเจริญรุ่งเรืองในอดีตให้เราได้เข้าไปชมและสัมผัสกับคุณค่าอย่างเต็มที่
หนึ่งในนั้น คือ เมืองโบราณศรีเทพ ตั้งอยู่จังหวัดเพชรบูรณ์
บริเวณนี้มีผู้คนอาศัยอยู่ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ปัจจุบันเป็น อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ
มีโบราณสถานสำคัญเรียงรายกันสวยงาม
เมืองได้ถูกหยุดเวลาเอาไว้มานาน
แต่เราได้เห็นหลักฐานสำคัญแต่ละยุคสมัย วิถีความเป็นอยู่ผู้คน
ทำให้อาณาจักรโบราณแห่งนี้ทรงคุณค่า และยังมีการขุดค้นต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ล่าสุด มีเรื่องน่าตื่นเต้น เมื่อทีมนักวิจัยอนุรักษ์โบราณสถานและผู้เชี่ยวชาญกรมศิลปากร
(ศก.) สำรวจพื้นที่อุทยานฯ ศรีเทพ ด้วยวิธีการวัดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและธรณีเรดาร์
สันนิษฐานว่า ยังมีมหานครลึกลับฝังใต้พื้นดิน และรอการเปิดเผยให้โลกได้รู้ และนี่จะเป็นส่วนหนึ่งข้อมูลสนับสนุนเมืองโบราณศรีเทพขึ้นบัญชีมรดกโลกให้แข็งแกร่งขึ้น
ล่าสุด
ครม.ไฟเขียวนำเสนออุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพเข้าสู่บัญชีรายชื่อมรดกโลก
โดยประเทศไทยจะต้องจัดส่งเอกสารนำเสนอเข้าสู่บัญชีรายชื่อมรดกโลก
ภายในวันที่ 1 ก.พ. 2564 เพื่อให้ทันการพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก
ทั้งนี้ จะผลักดันให้อุทยานฯ ศรีเทพ
เป็นมรดกโลก
คณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรมได้ดำเนินการตามขั้นตอนและหลักเกณฑ์ที่ยูเนสโกกำหนด
ขณะนี้ขั้นตอนของการศึกษาความเหมาะสมเสร็จแล้ว ในส่วนของ ศก. กระทรวงวัฒนธรรม
ได้จัดทำคำของบประมาณการพัฒนาพื้นที่แนวเขตที่จะมีการกันแนวเขตของพื้นที่แหล่งมรดกโลก
การปรับปรุงผังเมืองรวมเพชรบูรณ์รวมที่จะมีขอบเขตครอบคลุมแหล่งโบราณสถาน
ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 43 ที่กรุงบากู
สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน ได้มีมติรอบรองการขึ้นทะเบียนในบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก
(Tentative
List) เมื่อปี 2562
ในอนาคต อุทยานฯ ศรีเทพ
จะเป็นที่รู้จักระดับสากลมากขึ้น จึงทำให้หวนนึกถึงอดีตที่ผ่านมาของ ”เมืองโบราณศรีเทพ“ ข้อมูลจากกรมศิลปากร เมืองโบราณศรีเทพ มีความเก่าตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์
2,500 ปี และได้ขุดค้นพบโครงกระดูกมนุษย์ มีอายุเก่าแก่ถึง 1,800 ปี
และยุคทวารวดี ที่มีความเก่าแก่ถึง 1,400
ปี นับเป็นแหล่งอารยธรรมที่สำคัญแห่งหนึ่งของไทย
เนื่องจากยังเป็นพื้นที่ที่ปรากฏร่องรอยหลักฐาน สะท้อนให้เห็นถึงการตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัยของมนุษย์นับตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมทวารวดีและเขมรตามลำดับ
มีความเจริญรุ่งเรืองถึง 800 กว่าปี
จวบจนทุกวันนี้
นครโบราณแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทยและโลก
ในการทำเอกสารขอตีตรามรดกโลก นอกจากกรมศิลปากรหัวเรือใหญ่ คณะวิจัยจากสถาบันต่างๆ
ลุยสำรวจเมืองโบราณศรีเทพไม่หยุด
เพื่อจัดทำข้อมูลพื้นฐานทางวิศวกรรมประกอบในเอกสารขอขึ้นทะเบียน
รวมถึงข้อมูลสนับสนุนแผนการอนุรักษ์อย่างยั่งยืนภายใต้การมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและชุมชน
รศ. ดร.นคร ภู่วโรดม
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หัวหน้าคณะวิจัยโครงการ “การสำรวจและประเมินความมั่นคงเพื่อการอนุรักษ์โครงสร้างโบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์มรดกโลก”
ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
(สกสว.) กล่าวว่า อุทยานฯ ศรีเทพเป็นหนึ่งในพื้นที่ศึกษาหลักงานวิจัยครั้งนี้
โดยนำองค์ความรู้ที่คณะผู้วิจัยพัฒนาขึ้นจากเฟสแรกที่อุทยานฯ
พระนครศรีอยุธยามาผนวกกับการวิจัยเชิงลึก
เพื่อให้ได้ข้อมูลพื้นฐานทางวิศวกรรมสำหรับขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก
“ตนนำคณะนักวิจัยสำรวจภาคสนาม
รวบรวมข้อมูลเชิงโครงสร้างในสภาพปัจจุบันของโบราณสถานที่สำคัญของอุทยาน
ได้ผลการบันทึกภาพดิจิทัลจากการถ่ายภาพภาคพื้นดิน และถ่ายภาพมุมสูงโดยโดรน
ข้อมูลจะไปประมวลเป็นรูปทรง 3 มิติของโบราณสถาน
รวมถึงเก็บข้อมูลตำแหน่งและขนาดของรอยร้าวปัจจุบัน
ซึ่งจะใช้เป็นข้อมูลวางแผนบำรุงรักษาอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
เราพบชั้นดินบริเวณโดยรอบปรางค์ฤาษีที่เอียงตัวทางด้านข้าง ต้องประเมินสาเหตุ
รวมถึงแนวทางปรับปรุงให้โครงสร้างมั่นคง“
รศ.ดร.นคร กล่าว
โบราณสถานหลัก 4 แห่งที่สำรวจ ได้แก่ ปรางค์ศรีเทพ
ปรางค์ฤาษี เขาคลังนอก และ เขาคลังใน ใช้เทคโนโลยีการสแกนวัตถุ 3
มิติด้วยแสงเลเซอร์ เพื่อประเมินเสถียรภาพของโครงสร้าง
พร้อมทั้งเป็นฐานข้อมูลติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพโครงสร้างโบราณสถานในอนาคต
เรื่องนี้ รศ.ดร.สุทัศน์ ลีลาทวีวัฒน์ คณะวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ทำภายใต้โครงการ “การใช้ฐานข้อมูลดิจิทัลสำหรับงานวิศวกรรมเพื่อความยั่งยืนในการอนุรักษ์โบราณสถานหรืออาคารโบราณในชุมชน”
นอกจากนี้ คณะวิจัยได้รวบรวมวัสดุโบราณ
และวัสดุทดแทน
ภายใต้ความอนุเคราะห์จากอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพมาทดสอบในห้องปฎิบัติการเพื่อหาสมบัติทางกายภาพและทางกลของวัสดุตัวอย่าง
เป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการวิเคราะห์และประเมินโครงสร้างให้มีความถูกต้องมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้สำนักศิลปากรในเขตพื้นที่และชุมชนใกล้เคียงสามารถนำองค์ความรู้และฐานข้อมูลที่ได้รับจากการถ่ายทอดจากโครงการของเหล่านักวิจัยไปต่อยอด
เพื่อพัฒนาและวางแผนกิจกรรมอนุรักษ์โบราณสถานในพื้นที่ศึกษาถูกต้องตามหลักวิชาการอีกด้วย
การขุดค้นทางโบราณคดีค้นหาความจริง
จะช่วยเติมเต็มการก้าวสู่มรดกโลก
ผศ.ดร.ภาสกร ปนานนท์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เป็นหัวหน้าโครงการ“การประยุกต์ใช้การสำรวจธรณีฟิสิกส์เพื่อสนับสนุนการบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถานและการขุดค้นทางโบราณคดี” งานนี้ ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ ศก.สำรวจธรณีฟิสิกส์แบบผสมผสานด้วยวิธีการวัดสนามแม่เหล็กไฟฟ้าและธรณีเรดาร์บริเวณพื้นที่รอบๆ
เขาคลังนอก อุทยานฯ ศรีเทพ
“เราพบบริเวณที่มีค่าการเหนี่ยวนำไฟฟ้าสูงกว่าปกติ
ชี้ว่า อาจจะมีโครงสร้างโบราณสถานหรือโบราณวัตถุฝังอยู่ข้างใต้
จะนำผลศึกษาที่ได้หารือกับอุทยานฯ ศรีเทพ และกรมศิลปากรเพื่อวางแผนการขุดค้นต่อไป
และมอบผลศึกษาที่ได้ให้เป็นงานวิชาการสนับสนุนการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก“ ผศ.ดร.ภาสกร มั่นใจผลวิจัยน่าตื่นเต้น จะวิจัยเชิงลึกต่อ
ถือเป็นความคืบหน้าและความแข็งขันจากหลายภาคส่วนแสดงถึงความพร้อมในการเตรียมเอกสารเสนอสู่บัญชีรายชื่อมรดกโลกอีกไม่กี่วันนับจากนี้
กอบแก้ว แผนสท้าน...เรื่อง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น