จากกรณีที่
มีผู้ทำหนังสือสอบถามไปยัง แขวงทางหลวงลำปางที่ 1
กรมทางหลวง เพื่อขอทราบข้อมูลเรื่องทางแยกค่ายสุรศักดิ์มนตรี
ตามที่มีการประชาสัมพันธ์การหาเสียงเลือกตั้งเทศบาลนครลำปางของกลุ่มการเมืองสองกลุ่ม
ว่าจะเปิดทางเข้าชุมชนบ้านต้าหน้าค่าย บ้านต้าสามัคคี และมีสัญญาณไฟจราจร
เพื่อเพิ่มความสะดวกปลอดภัยให้กับคนในชุมชน
และอีกกลุ่มหนึ่งเสนอเพิ่มจุดกลับรถเพื่อเข้าชุมชนได้ง่ายขึ้น
โดยเนื้อหาในหนังสือแขวงทางหลวงลำปางที่
1 ได้ชี้แจงรวม 3
ข้อคือ 1.แขวงทางหลวงลำปางที่
1
ไม่ได้รับการประสานเรื่องดังกล่าวกับทั้งสองกลุ่มการเมืองแต่อย่างใด 2. บริเวณดังกล่าวเป็นจุดตัดอยู่แล้ว (แยกค่ายสุรศักดิ์มนตรี) และ 3. แขวงทางหลวงลำปางที่ 1
ไม่มีแผนและงบประมาณในเรื่องดังกล่าวข้างต้น จึงเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ว่านโยบายดังกล่าวจะทำได้จริงหรือไม่
อย่างไร
ลานนาโพสต์ได้สอบถามไปยังนายปุณณสิน
มณีนันทน์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เบอร์ 5 กลุ่มลำปางก้าวหน้า
ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีนโยบายเปิดทางเข้าชุมชนบ้านต้าหน้าค่าย บ้านต้าสามัคคี นายปุณณสิน กล่าวว่า
หลังจากมีหนังสือจากแขวงทางหลวงที่ 1 เผยแพร่ออกไปก็มีกลุ่มคนที่เป็นห่วงเป็นใยโทรมาสอบถามจำนวนมาก
เนื่องจากมีคนส่งหนังสือไปสอบถามยังแขวงทางหลวงที่ 1 ในหนังสือของแขวงฯก็ตอบแบบกลางๆว่าไม่มีงบประมาณ
สำหรับนโยบายดังกล่าวมาจากการลงพื้นที่
และเป็นความต้องการของชาวบ้านเองจริงๆ หากว่าเราชนะการเลือกตั้ง
ก็จะต้องมีการประกาศนโยบายและจัดทำแผนงานออกมา
โดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
แต่ในตอนนี้ยังคงเป็นนโยบายในการหาเสียงอยู่ การเป็นผู้สมัครนายกฯยังไม่สามารถประสานงานกับแขวงทางหลวงได้ แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างมีความเป็นไปได้ เมื่อกฎหมายอำนวยความสะดวกให้เราง่ายขึ้น
เมื่อมีประชาชนต้องการเราก็สามารถขอความเปลี่ยนแปลงเพื่ออำนวยความสะดวกได้
เช่นเดียวกับการทำสะพาน เมื่อมีการจราจรติดขัด มีการใช้เส้นทางมากขึ้น ก็สามารถประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อสร้างสะพานขึ้นได้
แม้ว่าจะทราบดีว่าต้นเรื่องเป็นใครมาจากไหน
ซึ่งมีผลกระทบกับกลุ่มลำปางก้าวหน้าอย่างแน่นอน แต่เรายังคงเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งต่อไป
และให้วัดผลกันที่การเลือกตั้ง
ด้านนายอภิชัย สัชฌะไชย
ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เบอร์ 3 กลุ่มลำปางพัฒนา
เป็นอีกกลุ่มที่มีการตั้งนโยบายดังกล่าว
ได้กล่าวว่า เมื่อเราได้เข้าไปในชุมชนก็ได้รับทราบปัญหานี้จากชาวบ้าน
และมีการพูดคุยกันมากว่า 1 ปี แล้ว
และก็ทราบว่าโครงการตรงนี้เป็นเรื่องของแขวงทางหลวงโดยตรง ทางชุมชนเองก็ได้มีการร้องขอไปแล้วแต่ไม่ได้รับการอนุมัติ จึงมองว่าหากจำเป็นต่อชาวบ้านจริงๆ
เทศบาลนครลำปางก็ควรจะเสนอเรื่องไปถึงแขวงทางหลวงเอง เพราะต่างก็เป็นหน่วยงานของรัฐ จึงได้กำหนดออกมาเป็นนโยบาย หากมีโอกาสได้เข้าไปทำหน้าที่ก็จะสานต่อเรื่องนี้อย่างแน่นอน
นายอภิชัย กล่าวอีกว่า ในเรื่องนี้ชาวบ้านรู้ดีว่าเขาต้องการอะไร
คนที่ทำเช่นนี้ต่างหากที่จะถูกดิสเครดิตเอง อีกอย่างคือในนโยบายก็ได้มีการบอกไว้ชัดเจนว่าเป็นการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งก็ไม่ได้ผิด ไม่ใช่ว่าเทศบาลจะทำได้เอง เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นการโจมตีกันทางการเมือง
ไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วงในการเลือกตั้งครั้งนี้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น