นายอิศเรศ
จิระรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมควบคุมไฟป่าภาคกลาง
หัวหน้าศูนย์บัญชาการควบคุมไฟป่ากรมป่าไม้ ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ได้เปิดเผยว่า สถานการณ์การเกิดไฟป่า จ.ลำปางตั้งแต่เข้าเดือนมีนาคม
64 ไฟป่าลดลงมาก
หลังจากก่อนประกาศห้ามเผา คือห้ามเผาวันที่ 1 มีนาคม 2564
ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2564 ปรากฏว่าช่วง ระหว่างวันที่ 26 กุมภาพันธุ์ 2564
ยาวมาจนถึงกลางคืนวันที่ 28 กุมภาพันธุ์ 2564
มีการเผากันจำนวนมาก สาเหตุหลักๆมาจาก
ชิงเผาก่อนที่จะมีประกาศห้ามเผา และห้วงหยุดยาวชาวบ้านและเกษตรกรเร่งปรับพื้นที่กันหลายๆจุดส่งผลทำให้
ห้วงหยุดยาว 3 วัน ตรวจพบจุดความร้อน (Hotspot) ทั่วประเทศรวม 4,046 จุด ในจังหวัดลำปาง
ตรวจพบจุดความร้อน รวม 3 วัน 682 จุด
วันที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือวันที่ 28 กุมภาพันธุ์ 2564
มีมากถึง 405 จุดทั้ง 13 อำเภอในจังหวัดลำปาง
จากนั้นในวันที่
1 มีนาคม 2564 ที่
มีประกาศจังหวัดลำปาง ห้ามเผาอย่างเด็ดขาด
และเริ่มบังคับใช้กกหมายอย่างจริงจังและเข้มข้น ปรากฏว่า
จุดความร้อนลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยวันที่ 1 มีนาคม
2564 พบจุดความร้อนทั้งจังหวัด 221 จุด
ถือว่าลดลงมาเกือบครึ่งเท่าตัวเพียงแค่เวลา 1 วัน และวันที่ 2 มีนาคม 2564 พบจุดความร้อน 110 จุด และในวันที่ 3 มีนาคม 2564 พบจุดความร้อนเหลือเพียง 47 จุด
ซึ่งถือว่ามาตรการดังกล่าวประสบผลเป็นที่น่าพอใจ
นายอิศเรศ
กล่าวว่า
อุปสรรคในการเข้าไปทำหน้าที่ดับไฟป่า ก็จะมีเพียงสภาพพื้นที่เกิดเหตุ
เป็นหุบเขาสูงชัน หน้าผา พื้นที่เป็นกรวดลื่น ยากต่อการเข้าไปดับ จุดไหนอันตรายจึงต้องทำแนวกันไฟไว้เท่านั้น
ซึ่งยังสามารถรับมือไฟป่าที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้ เรามีเจ้าหน้าที่จากหลายจังหวัดทางภาคเหนือ
ภาคอีสาน ภาคใต้ ให้เข้ามาประจำการที่ฐานเหยี่ยวไฟป่า จ.ลำปาง กว่า 200 นาย เพื่อที่จะปฏิบัติหน้าที่ คอยควบคุมไฟไหม้ป่าในพื้นที่ จังหวัดลำปาง
และพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือ
เนื่องจากสภาพพื้นที่ทางภาคเหนือ มักเกิดปัญหาไฟป่า
ที่ส่งผลทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ
ทั้งนี้
ในวันที่ 3 มีนาคม 64 ได้มีการะดมกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายฝ่าย เข้าไปตรวจสอบจุดความร้อนขนาดใหญ่
2 จุดที่ บ้านแม่อิบ หมู่ 3 ต.บ้านกิ่ว
อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ซึ่งพบว่าอยู่ในป่าเขตอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย
โดยในพื้นที่มีกำลังฝ่ายปกครองอำเภอแม่ทะนำ โดยนายอำเภอแม่ทะ
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย ผู้ใหญ่บ้านบ้านแม่อิบ ชาวบ้านในพื้นที่
ได้เข้าไปดำเนินการแล้ว แต่ทราบว่าสภาพพื้นที่ค่อนข้างที่จะเกิดไฟไหม้ลุกลามที่รุนแรง
ทางศูนย์บัญชาการควบคุมไฟป่ากรมป่าไม้ (เหยี่ยวไฟป่า) ได้มีการเสริมกำลัง ไป 3 ชุดปฏิบัติงาน จำนวน
30 นาย เข้าไปในพื้นที่เพื่อเสริมกำลังควบคุมไฟป่า
ที่เกิดขึ้นซึ่งคาดว่าจะสามารถควบคุมได้ทั้งหมด ส่วนสถานการณ์ไฟป่าโดยรอบดอยพระบาทแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต
พบว่าเริ่มคลี่คลายเพราะสามารถควบคุมได้แล้ว และพบจุดความร้อนเพียง 2 จุดเป็นพื้นที่ทางการเกษตร ท้องถิ่นในพื้นที่ดำเนินการแล้ว
ส่วนพื้นที่อื่นคาดว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถควบคุมได้ในเร็ววันนี้ และสถานการณ์ไฟป่าจะดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปัญหามลพิษทางอากาศ
ยังคงมีผลกระทบต่อสุขภาพเพราะค่า PM2.5 ยังเกิดค่ามาตรฐานอยู่
เนื่องจากยังมีปัจจัยหลายด้าน นอกจากการเกิดไฟป่า ที่ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศเกินค่ามาตรฐาน
“ต้องยอมรับว่าไฟป่าทำให้เกิดฝุ่นPM2.5จริง แต่ฝุ่นเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากไฟป่า 100
เปอร์เซ็นต์ ถึงแม้ว่าไฟป่าจะลดลง แต่ค่าฝุ่นก็ยังสูงอยู่ในขั้นเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ซึ่งมาจากหลายปัจจัย เราก็พยายามที่จะไม่เพิ่มฝุ่นควันที่เกิดจากไฟป่าอีก
เราทำเต็มที่ เจ้าหน้าที่อยู่ในป่า บล็อกพื้นที่ไม่ให้ผู้ที่เข้าไปล่าสัตว์ หาของป่าเข้าไปดำเนินการใดๆ
ในช่วงนี้” ผอ.ศูนย์ส่งเสริมควบคุมไฟป่าภาคกลาง กล่าว.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น