วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2564

เจ้าหน้าที่ชุดพญาเสือ นำทีมบุกยึดไม้เถื่อน หลังแกะรอยตามมา 3 วัน จนพบมาซุกซ่อนในโกดัง จ.ลำปาง


ชุดพญาเสือ กรมอทุยานแห่งชาติฯ แกะรอยกลุ่มลักลอบขนย้ายไม้เถื่อนจาก จ.เชียงใหม่ มาพักในพื้นที่จ.ลำปาง ก่อนที่จะขนย้ายไปยังพื้นจังหวัดชายแดนพื้นที่ทางภาคอีสาน หลังติดตามมานาน 3 วัน ไหวตัวทัน ติดตั้งระบบตัดสัญญาณเครื่องติดตามของเจ้าหน้าที่ชิ่งหนีไปได้ทันก่อนที่จะทิ้งของกลางในโกดังที่เช่าได้เพียง 3 วันมูลค่ากว่า 8 แสน เจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวในขณะนี้
         เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 17 สิงหาคม 2564 เจ้าหน้าที่ส่วนยุทธการด้านการป้องกันและปรับปราม  สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า หน่วยพญาเสือ นำโดยนายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการป้องกันและปราบปรามกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชฯ พร้อมด้วย นายชัยชาญ ศรียงค์ หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขลางค์บรรพต พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่จะว่าเป็น ตำรวจศูนย์ปฏิบัติการป้องการปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตำรวจภูธรภาค 5 (ศปทส.ภ.5) เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ตระเวนชายแดนที่ 33 เชียงใหม่ ตำรวจ ศปทส.4 บก.ปทส.สายที่ 1 ลำปาง ได้ประสานผู้นำชุมชน นำหมายศาลจังหวัดลำปาง เข้าตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ป่าท้ายหมู่บ้าน บ้านกล้วยม่วง หมู่ 3 ต.กล้วยแพะ อ.เมืองลำปาง  ซึ่งเป็นโกดังของชาวบ้านในพื้นที่สร้างไว้และเปิดให้เช่าเก็บของ

           เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่พบผู้ดูแลเป็นหญิง 1 คนชาย 1 คน เป็นแม่ลูกกัน จึงแสดงหมายขอเข้าตรวจค้น โดยมีผู้นำชุมชน และผู้ดูแลโกดังทั้ง2 คนเป็นพยาน  เบื้องต้นพบว่าในบริเวณดังกล่าว มีการสร้างโกดัง 2 หลัง หลังแรกเป็นโกดังร้าง ส่วนหลังที่ 2 เป็นโกดัง ปิดล็อคกุญแจไว ้ เจ้าหน้าที่จึงงัดออก แบะต้องตะลึงเมื่อพบกองไม้ประดู่ มะค่าโมงแปรรูปแผ่นใหญ่กองอยู่ จำนวน 4 กอง ตรวจสอบไม้ไม่มีการประทับดวงตราของทางราชการและผ่านการใช้งานมาก่อน มีสภาพแปรรูปมาแบบใหม่สด นับได้ทั้งหมด 105 แผ่น คิดเป็นความเสียหาย กว่า  8 แสนบาท โดยของกลางทั้งหมดทางเจ้าหน้าที่ได้อายัดตรวจยึดทันที พร้อมแจ้งพนักงานสอบสวน สภ.เขลางค์นครเข้าตรวจสอบ เพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป


           ด้านผู้ดูแลโกดัง ให้การว่า  ผู้เช่าเป็นชาว จ.เชียงใหม่ จะเอามาเป็นที่พักค้าขายปุ๋ยมูลไก่และมูลวัว ทราบแต่เพียงชื่อสมชาย เพิ่งมาเช่าได้ 3 วันเท่านั้น  โดยพยายามติดต่อผู้เช่าแล้วได้รับคำตอบเพียงว่าจะเข้ามา จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ และไม่เข้ามาพบตามที่บอกแต่อย่างใด 
         จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2564 ที่ผ่านมา มี น.ส.สุพัตรา ชาว จ. กรุงเทพมหานคร ได้ให้นายสมชาย อายุ 40 ปี ชาว อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้มาติดต่อเช่าโกดังดังกล่าวจากเจ้าของ ตกลงราคาเช่า 62,000 บาท  โดยเจ้าของไม่ทราบว่านายสมชายจะเช่าโกดังเพื่อเก็บซุกซ่อนไม้ผิดกฎหมาย เท่าที่สังเกตเวลากลางคืน จะมีรถกระบะบรรทุกส่วนบุคคล ขับเข้า -ออก โกดังเป็นประจำ
        ทั้งนี้คาดว่านายสมชาย  ได้เช่าโกดังดังกล่าวเพื่อเก็บรวบรวมไม้ ก่อนแจ้งนายทุนผู้ว่าจ้างซึ่งเป็นตัวการใหญ่ของขบวนการค้าไม้ข้ามชาติให้นำรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์มาบรรทุกไม้ขนไปลงท่าเรือที่จังหวัดสมุทรปราการส่งออกไปยังประเทศที่สองต่อไป 


         นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผู้อำนวยการป้องกันและปราบปรามกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชฯ เปิดเผยว่า ตามการสั่งการของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ให้เร่งติดตามขบวนการลักลอบตัดไม้ห้วงห้ามและขนย้ายไม้เถื่อน โดยใช้สถานที่พักไม่เป็นหลักแหล่ง ทำเป็นขบวนการมดงานกระจายไปทั่วพื้นที่ และทางการข่าวเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบ ลงพื้นที่หาข่าว และใช้วิธีฝังสัญญาณ GPS โดยติดตามมา 3 วัน ต้นทางมาจาก อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ในกลุ่มป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย เขตห้ามล่าสัตว์ป่านันทะบุรีและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น ในป่าในป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอมก๋อย  ก่อนที่จะสัญญาณจะมาหายในพื้นที่ดังกล่าว โดยทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ลดละได้ใช้ความชำนาญสืบค้นหา กระทั่งพบร่องรอยรถยนต์เข้าไปยังโกดังแห่งนี้ จึงขอหมายศาลจังหวัดลำปาง เข้าตรวจค้นและพบของกลางซุกซ่อนอยู่ดังกล่าว  ซึ่งจะได้ติดตามตัวผู้เช่ามาดำเนินการตามกฎหมายและขยายผลต่อไป 


Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์