วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2564

ณรงค์ศักดิ์ ผู้ว่าฯมือปราบโควิด


สยบข่าวลือเรียบร้อย หลัง ครม.มีคำสั่งย้ายผู้ว่าฯลำปาง ไปเป็นผู้ว่าฯปทุมธานี มีผล 1 ต.ค.นี้  ขณะที่ชาวลำปางโพสผ่านสื่อโซเชียลมีเดียกันมากมาย ว่าใจหายกับการโยกย้ายดังกล่าว เพราะอยากให้ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ อยู่ลำปางไปนานๆ

 

กระแสทางสื่อโซเชียลมีเดียมีมานานร่วมสัปดาห์ เกี่ยวกับการโยกย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายณรงค์ศักดิ โอสถธนากร ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี  โดยสับเปลี่ยนนายสิทธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางแทน  ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้าง ว่าถ้าหากเป็นเรื่องจริง ชาวลำปางก็รู้สึกเสียดายที่ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่น

 

จนกระทั่งวันที่ 3 ส.ค.64  ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งหมด 28 แห่ง  และเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ซึ่งหนึ่งในนั้นมี จ.ลำปางรวมอยู่ด้วย  และเป็นไปถามโผเมื่อนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร  มีคำสั่งแต่งตั้งไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี และนายสิทธิชัย จินดาหลวง มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง มีผลวันที่  1 ต.ค.64 

 

เท่ากับว่าผู้ว่าฯ ยังเหลือเวลาอีกร่วม 2 เดือนในการทำงาน

 

ผลงานของผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ เป็นที่ประจักษ์เมื่อครั้งเข้าไปช่วยเหลือนักฟุตบอลทีมหมูป่า 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวงขุนน้ำนางตอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย  เมื่อย้ายมาเป็นผู้ว่าฯ ลำปาง  ในวันที่ 1 ต.ค. 62  ผู้คนได้เริ่มติดตามว่าจะมีผลงานอะไรเป็นที่น่าประจักษ์ต่อสายตาชาวลำปางหรือไม่ 

 

จนกระทั่งข้าสู่ปี 2563 เริ่มเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ประเทศจีน และได้แพร่กระจายไปยังหลายประเทศรวมทั้งประเทศไทยได้ระบาดมากในช่วงเดือน มี.ค. 63   จ.ลำปาง โดยผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ ได้โชว์ลวดลายอีกครั้งในการบริหารจัดการเตรียมความพร้อมรับมือกับไวรัสโควิด-19   ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งการรับมือคนที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด การตั้งจุดตรวจจุดสกัด 4 มุมเมือง  การเตรียมแผนยกระดับพื้นที่แม้ว่ายังไม่พบผู้ป่วย การออกคำสั่งจังหวัดลำปางงดการเข้าออกพื้นที่  คำสั่งปิดสถานที่เสี่ยงต่างๆ ฯลฯ 

 

ทำให้ จ.ลำปางเป็น 1 ใน 16 จังหวัดของประเทศไทย ที่ไม่พบผู้ติดเชื้อ  

 

ยื้อเวลามาได้ 40 กว่า จนวันที่ 4 เม.ย.63  ลำปางพบผู้ติดเชื้อ 4 ราย ในพื้นที่ อ.งาว  ในครั้งนั้น  ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์  กล่าวว่า “เมื่อทราบเรื่องมีอยู่ 2 ความรู้สึก คือ แทบจะร้องไห้ เราทำงานกันมาเหน็ดเหนื่อยมาก แต่อีกใจก็รู้สึกดีใจที่เคสแรกชื้อไม่ได้เกิดกับกลุ่มข้าราชการและคนใน  แต่กรณีนี้เกิดจากคนที่มาจากนอกพื้นที่ เป็นจุดบอดในกระบวนการ ไม่ใช่จากการทำงานของเจ้าหน้าที่ ตลอดเวลาที่เราสู้กันมา 40 กว่าวัน ไม่ได้สูญเปล่า เวลานี้ เราต้องทำต่อให้ดีที่สุด ไม่ให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม”  และก็ไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกจริง

           

ผ่านพ้นไป 8 เดือน ใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จ.ลำปาง ก็ได้เตรียมการสำหรับรับมือโควิดต่อเนื่อง เพราะช่วงวันหยุดยาวจะต้องมีคนเดินทางกลับภูมิลำเนา ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ ได้ร่วมประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำปาง เพื่อเน้นย้ำมาตรการป้องกันโควิด-19 ช่วงเทศกาลปีใหม่  จะต้องคุ้มเข้มการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก แออัด เช่น กิจกรรมเคาท์ดาวน์ กิจกรรมทางศาสนา กิจกรรมตามประเพณี ฯลฯ พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย 100 เปอร์เซ็นต์  

 

สุดท้าย จ.ลำปางก็ต้องไข่แตกอีกครั้ง เมื่อมีชายชาว ต.ต้นธงชัย อายุ 33 ปี เดินทางมาจาก จ.ระยอง เพื่อมาร่วมงานแต่งงานเพื่อน ซึ่งพบผู้ติดเชื้อในรอบนี้  3 ราย  

 

การเฝ้าระวังโควิด ยังดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงหยุดยาวที่ผู้คนต่างเดินทางกลับถิ่นฐานบ้านเกิด  ในครั้งนี้ นโยบายของผู้ว่าฯ ลำปาง ได้ขอความร่วมมือมาโดยตลอดว่า หากไม่จำเป็นขออย่าเดินทางกลับมา เนื่องจากอาจจะนำเชื้อมาแพร่สู่ครอบครัวได้ แต่การเดินทางยังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ช่วงเดือน เม.ย. 64  จ.ลำปางมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.64-8 มิ.ย.64 มียอดผู้ป่วยสะสม 261 ราย เสียชีวิตจำนวน 2 ราย

 

เวลาผ่านไปอีก 30 วัน ที่ จ.ลำปางไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม  ขณะที่ จ.กรุงเทพ พบการแพร่ระบาดของแรงงานจำนวนมาก ผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์จึงมีการออกคำสั่งให้ แรงงานออกตรวจสอบสถานประกอบการ และรายงานยอดคนงาน พร้อมยกระดับติดตามคนเดินทางเข้าในพื้นที่ เตรียมสถานที่กักกันกรณีฉุกเฉิน คาดว่าอาจจะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล เข้ามาในพื้นที่ จ.ลำปาง 

 

กระทั่ง วันที่ 27 มิถุนายน 2564 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้แถลง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 3 ราย ในพื้นที่ อ.เมืองลำปาง และ อ.เกาะคา  ในครั้งนี้จึงเป็นที่มาของการเปิดโครงการ “รับคนลำปางกลับบ้าน”  เพื่อต้องการให้ผู้ติดเชื้อทุกคนเปิดเผยข้อมูล ดีกว่าการลักลอบกลับมาเองแล้วนำเชื้อมาแพร่สู่ผู้อื่นภายใน จ.ลำปาง  ซึ่งกระแสการตอบรับของโครงการนี้ไปในทางที่ดีมาก มีผู้ป่วยติดต่อขอกลับมารักษาตัวที่ จ.ลำปาง แล้วเกือบ 600 คน  และมีผู้ป่วยที่ตรวจพบติดเชื้อในจังหวัดลำปางอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งยอดผู้ป่วยสะสมของ จ.ลำปาง ตั้งแต่วันที่ 27 มิ.ย.64 ถึงวันที่ 3 ส.ค. 64  มียอดอยู่ที่ 1,090 คน

 

การโยกย้ายผู้ว่าฯช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้ว่าเพราะอะไร เท่าที่ทราบคือการโยกย้ายตามวาระ 2 ปี ไม่ได้มีนัยยะแอบแฝง  แต่ที่มากกว่านั้นก็คือ ชาวลำปางต่างเสียดายที่ต้องเสียผู้ว่าฯ มือดีไปให้กับจังหวัดอื่น   

 

และในขณะที่มีหลายคนฝากถึงผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์ว่า ก่อนไปขอให้เคลียร์อีกเรื่อง ก็คือ “กองทุนพัฒนาไฟฟ้า” ที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะไปต่อได้ 

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์