เมื่อเวลาประมาณ
10.00 น. วันที่ 4 ก.ย. 64 ร.ต.อ.ประสิทธิ์
พุทธิมา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งฝาย อ.เมืองลำปาง
ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนบริเวณจุดกลับรถ ปากทางเข้าวัดต้นธงชัย หมู่ 1 ต.ต้นธงชัย อ.เมืองลำปาง เบื้องต้นเป็นรถฉุกเฉินรับผู้ป่วยของโรงพยาบาลชนกับรถยนต์กระบะบรรทุกดิน
มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ป่วยอยู่ในรถพยาบาลด้วย
หลังรับแจ้งจึงรีบประสานเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลลำปาง
เข้าทำการเปลี่ยนถ่ายผู้ป่วย
และเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้นธงชัยเข้าให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบรถตู้ฉุกเฉินของโรงพยาบาลแจ้ห่ม
หมายเลขทะเบียน นข 5820 ลำปาง
จอดอยู่กลางถนนเลนขวา บริเวณจุดกลับรถพอดี สภาพรถด้านซ้ายมีร่องรอยการชนได้รับความเสียหาย
ไฟหน้ารถแตก และกันชนยุบเข้าไปด้านใน โดยในรถมีผู้ป่วยอายุ 70
ปี อยู่ด้วย
ทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลลำปางได้นำรถเข้ามาเปลี่ยนถ่ายผู้ป่วยซึ่งอาการหนักไม่ได้สติ
นำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ส่วนคนขับรถไม่ได้รับบาดเจ็บ
ห่างไปทางฝั่งตรงข้ามประมาณ 100 เมตร พบรถยนต์กระบะดัดแปลงเป็นรถดั๊มบรรทุกดิน หมายเลขทะเบียน บฉ
5475 ลำปาง พุ่งชนอัดเข้ากับรั้วบ้านเลขที่ 109 หมู่ 1 ต.ต้นธงชัย
จนรั้วบ้านแตกร้าวเป็นทางยาว โดยคนขับรถคันดังกล่าวเป็นชาย ทราบชื่อต่อมาคือ
นายชาติ คำท้าว อายุ 53 ปี ชาวบ้านทราบเจดีย์ซาว ต.ต้นธงชัย ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ แต่ยังรู้สึกตัว เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้นธงชัยจึงปฐมพยาบาลก่อนจะนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลลำปาง
ด้านนางอนงค์ นันตาวงค์ อายุ 60 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ขณะที่ตนเองได้ยืนอยู่บริเวณประตูบ้าน พูดคุยกับคนงานที่มาวางท่อทำถนน ซึ่งกำลังทำงานอยู่หน้ารั้วบ้านของตน 4-5 คน ทันใดนั้นรถดั๊มก็ได้ขับเสียหลักพุ่งมาจากจุดกลับรถที่ห่างประมาณ 100 เมตร พุ่งเข้าชนอัดกับเสาประตูรั้วพอดิบพอดี คนงานต่างพากันตกใจวิ่งหนีกันกระเจิดกระเจิง โชคดีที่มีเนินดินกั้นไว้ ไม่มีใครได้รับอันตรายจากเหตุการณ์ครั้งนี้
ส่วนสาเหตุสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถฉุกเฉินโรงพยาบาลแจ้ห่มและรถบรรทุกดินได้วิ่งมาเส้นทางเดียวกัน
โดยรถฉุกเฉินวิ่งเลนขวาจะนำผู้ป่วยไปส่งที่โรงพยาบาลลำปาง ส่วนรถบรรทุกดินได้วิ่งคู่มาและจะเลี้ยวกลับรถ
ได้ตัดเข้าเลนมากะทันหันทำให้รถชนกันอย่างจัง ทั้งนี้ รถฉุกเฉินได้มีกล้องวีดีโอหน้ารถบันทึกภาพตอนเกิดเหตุไว้ได้ ซึ่งร้อยเวรสอบสวนจะได้ทำการตรวจสอบกล้องหน้ารถ
และสอบสวนคู่กรณีทั้งสองฝ่ายอย่างละเอียดต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น