16ปีพายุดอมเรย เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมืองลำปาง เสียหายนับร้อยล้าน

เปิดแฟ้มภาพ #16ปีพายุดอมเรย  เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมืองลำปาง ปลายเดือนกันยายน 2548 ยังอยู่ในความทรงจำของใครหลายคน #ภาพเก่าเล่าเรื่อง

                      ย้อนเวลาไปเมื่อ 16 ปีที่แล้ว อิทธิของพายุโซนร้อน 'ดอมเรย' พัดผ่านพื้นที่ในภาคเหนือ ทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายจังหวัด ลำปางก็เช่นกัน โดยเฉพาะพื้นที่ในเขตเทศบาลนครลำปาง ที่ฝนตกหนักนับตั้งแต่คืนวันที่ 26 กันยายน 2548 ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง ทำเกิดน้ำท่วมฉับพลันจากน้ำในแม่น้ำวังที่ล้นฝั่ง เนื่องจากระดับน้ำแม่น้ำวังสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

            นอกจากจำนวนฝนที่ตกหนักแล้ว แม่น้ำสาขาที่ไหลหลากท่วมอำเภอเมืองปานและอำเภอแจ้ห่ม ยังได้ไหลลงที่เขื่อนกิ่วลมเป็นจำนวนมาก เขื่อนกิ่วลมจึงจำเป็นต้องปล่อยน้ำในปริมาณตั้งแต่ 600-990 ลบ.ม./วินาที 

ส่งผลให้ช่วงวันที่ 28 กันยายน – 1 ตุลาคม 2548 เกิดน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครทั้งสองฝั่งแม่น้ำวัง และเป็นบริเวณกว้าง ตั้งแต่ชุมชนช่างแต้ม ชุมชนท่านางลอย-ท่ามะโอ ชุชนตลาดจีน ชมชนบ้านดงชัย และชุมชนบ้านปงสนุก 

            โดยน้ำได้ท่วมบ้านพักของประชาชน ทั้งบริเวณริมฝั่งและห่างจากฝั่งเป็นระยะทางประมาณฝั่งละ 150 เมตร ระดับน้ำขึ้นสูงถึง 3 เมตร คิดเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมครั้งนี้ ประมาณ 18% ของพื้นที่ภายในเขตเทศบาลนครลำปาง หรือประมาณ 5.4 ตารางกิโลเมตร จากพื้นที่ 22.17 ตารางกิโลเมตร ส่งผลให้มีบ้านพักอาศัยและร้านค้าได้รับความเดือดร้อนประมาณ 3,000 หลังคาเรือน และประชากร ประมาณ 18,000 คน

            นายกฯนิมิตร จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีนครลำปาง ในยุคนั้น ได้ตั้งศูนย์อำนวยการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยขึ้นที่เทศบาลฯ และได่จัดตั้งศูนย์อำนวยการกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ โดย ที่สำคัญคือ ศูนย์ฯท่ามะโอ-ท่านางลอย มี นายเกรียงศักดิ์ วนชยางค์กูล  รองนายกฯ เป็นผู้ประสานงานและอำนวยความช่วยเหลือ ศูนย์ฯบ้านดงไชย มอบหมายให้ นายสมเกียรติ อัญชนา ปลัดเทศบาล ทำหน้าที่, ศูนย์ฯเจริญประเทศ ให้ นายจำเนียร ทองกระสัน ผอ.การควบคุมอาคารและผังเมือง และศูนย์ฯตลาดจีน ให้ นายสุวัฒน์ ตรีมานะพันธ์ รองนายกฯ ช่วยดูแล นอกจากนี้ นายสุรพล ตันสุวรรณ รองนายกฯ อำนวยการด้านสนาม และ นายกิตติภูมิ นามวงค์ รองนายกฯ ดูแลเรื่องการให้การช่วยเหลืออาหาร นำและเวชภัณฑ์ รวมถึง นายไพโรจน์ โล่ห์สุนทร ส.ส.ลำปาง นายชวน หลีกภัย และนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี   ในช่วงเวลานั้น ก็ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนอีกด้วย

            เหตุการณ์นี้ถือได้ว่าเป็นน้ำท่วมที่หนักที่สุดในรอบเกือบ 60 ปี  โดยน้ำได้ทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน สถานที่ราชการและเอกชน วัด ได้รับความเสียหายอย่างคาดไม่ถึง