วันที่ 19 เม.ย. 65 นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการศึกษาจัดทำผังน้ำ ลุ่มน้ำปิง วัง ยม น่าน พื้นที่ลุ่มน้ำวัง และการบริหารจัดการน้ำตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้ง ปี 2564/2565 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2565 ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลมกิ่วคอหมา ต.บ้านแลง อ.เมืองลำปาง
นายชยันต์ กล่าวว่า ได้มีโอกาสมาติดตามรับฟังการรรายงานเกี่ยวกับแผนจัดการน้ำพื้นที่ลุ่มน้ำวัง เพื่อนำไปบริหารจัดการในช่วงฤดูน้ำหลากและฤดูน้ำแล้ง
ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของลุ่มน้ำวังอยู่ในจังหวัดลำปาง
โดยเขื่อนขนาดใหญ่ที่สำคัญในลุ่มน้ำวังคือเขื่อนกิ่วคอหมาและเขื่อนกิ่วลม
ซึ่งมีความจุรวม 276 ล้านลูกบาศก์เมตร
ปริมาณน้ำดังกล่าวนำไปใช้ด้านเกษตร ด้านอุตสาหกรรม ด้านอุปโภคบริโภค
และผลพลอยได้คือการผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังน้ำที่เขื่อนกิ่วคอหมา นอกจากนี้ยังมีเขื่อนขนาดกลาง
ซึ่งมีความจุรวม 313 ล้านลูกบาศก์เมตร
จากการติดตามทราบว่าลุ่มน้ำวังยังประสบปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้ง
ซึ่งมีสาเหตุสำคัญคือลำน้ำแคบ น้ำไหลไม่สะดวก
เนื่องจากมีการรุกล้ำการใช้ประโยชน์ที่ดินสองฝั่งลำน้ำที่เป็นปัจจัยหลักต่อการไหลของน้ำในฤดูน้ำหลาก
การเก็บกักน้ำไปใช้ประโยชน์ในช่วงฤดูแล้งก็ไม่ได้เต็มศักยภาพ
โดยมีพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งประมาณ 182,000 ไร่
คิดเป็นร้อยละ 2.70 ของพื้นที่ลุ่มน้ำ
และพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งรุนแรงได้แก่พื้นที่บริเวณ ต.บ้านเสด็จ อ.เมืองลำปาง
ต.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ดังนั้น สทนช.จึงต้องเร่งดำเนินโครงการศึกษาจัดทำผังน้ำลุ่มน้ำวัง
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์สภาพน้ำท่วมในเงื่อนไขต่าง ๆ
เพื่อนำผลไปกำหนดรหัสโซนและเสนอแนะการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เหมาะสมกับรหัสโชน
การจัดทำผังน้ำยังเป็นการสนับสนุนแผนป้องกันแก้ไขสภาวะภัยแล้งและอุทกภัย
บ่งชี้พื้นที่เก็บน้ำเมื่อคราวน้ำน้อยอย่างชัดเจน
หรือเมื่อน้ำหลากควรจะระบายน้ำออกทางใด เพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการน้ำ ช่วยรักษาคุณภาพน้ำ
เพราะจะไม่เกิดการรุกล้ำทางน้ำ
รองเลขาธิการ
สทนช. กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากการติดตาความก้าวหน้าการจัดทำผังน้ำลุ่มน้ำวังแล้ว
ยังได้ติดตามการบริหารจัดการน้ำเขื่อนกิ่วลม-เขื่อนกิ่วคอหมา
ตามมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้ง ปี 2564/2565 ด้านความต้องการใช้น้ำ (DEMAND) มาตรการที่ 4
กำหนดการจัดสรรน้ำฤดูแล้ง
ซึ่งเมื่อสิ้นสุดฤดูฝนปี 2564 ปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนกิ่วลมและกิ่วคอหมารวม
174 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 62 กรมชลประทานได้วางแผนการบริหารจัดการน้ำในช่วงวันที่
1 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2565 โดยจัดสรรน้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภค
11.74 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง 34,438 ไร่
รักษาระบบนิเวศน์และอื่นๆ 18.27 ล้านลูกบาศก์เมตร
และมั่นใจจะสามารถบริหารจัดการน้ำได้ตามแผนที่วางไว้
“นอกจากนี้
พบว่ามีการพัฒนาขุมเหมืองร้างในพื้นที่เหมืองถ่านหินลิกไนต์แม่ทาน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง
ของบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด (SCG) โดยสูบน้ำจากชุมเหมืองด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
วันละประมาณ 1,000ลูกบาศก์เมตร หรือ 1 ล้านลิตร เพื่อช่วยเหลือประชาชนในตำบลสันดอนแก้ว
และตำบลใกล้เคียง ซึ่งน้ำในขุมเหมืองนี้มีคุณภาพอยู่ในเกรดมาตรฐานที่นำมาอุปโภคได้
ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้ง ปี 2564/2565 มาตรการที่
2 : จัดหาแหล่งน้ำสำรอง ในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ
ซึ่งทางจังหวัดลำปางจะนำโมเดลของขุมเหมืองแม่ทานไปพัฒนาอีก 10
ขุมเหมืองในจังหวัดลำปาง เพื่อกักเก็บน้ำและนำไปใช้ประโยชน์บรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภค
ทั้งนี้ ยังสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดใช้กับขุมเหมืองอื่นๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่ต่างๆ
ทั่วประเทศ เพื่อจะได้เป็นแหล่งน้ำสำรองสำหรับช่วยเหลือพี่น้องประชาชนบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้ในช่วงหน้าแล้ง” รองเลขาธิการ สทนช.กล่าว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น