แม่ค้าเขียงหมูทุกข์หนัก หมูตัวเดียวยังขายไม่หมด กระทบทุกราย ต้นทุนสูงต้องปรับราคาขายสูงขึ้น แทบขายไม่ได้ ไม่มีคนมาซื้อของ

 

ที่ตลาดเทศบาล 1 หรือตลาดหลักเมือง ต.หัวเวียง อ.เมืองลำปาง  บรรยากาศภายในตลาดค่อนข้าเงียบเหงา ทั้งที่เป็นตลาดสดที่ปกติจะมีการซื้อขายคับคั่ง  แต่จากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้ไม่มีลูกค้ามาจับจ่ายมากนัก พ่อค้าแม่ค้าหลายรายต้องยุติการค้าขายไปทันที

จากการติดตามราคาหมูสด ซึ่งพบว่ามีการขึ้นราคาต่อเนื่อง  พ่อค้าแม้ค้าเขียงหมูสดบนตลาด ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่ารายได้หดหาย  การค้าย่ำแย่ลงมาก  ต้องทนแบกรับภาระต้นที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นราคาหมูจากฟาร์ม ต้นทุน ค่าแรง ค่าการขนส่งเชื้อเพลิง  ทำให้ต้องมาปรับราคาหมูสดหน้าเขียงขึ้นราคาจากปกติกิโลกรัมละ 180 กว่าบาท เนื้อหมูบางส่วนก็ต้องปรับราคาขึ้นกิโลกรัมละ 220 บาท เพื่อความอยู่รอดในวิกฤติแบบนี้ แต่ก็ทำให้ลูกค้าลดกำลังซื้อลงไป หมู่ที่วางขายบางวันก็ขายไม่หมด ทุนหายกำไรไปตามๆกัน

          นางสุลา เมืองสิทธิ์ อายุ 52 ปี ชาวบ้านลำปางกลาง ต.ชมพู   แม่ค้าเขียงหมูบนตลาดหลักเมือง เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้หมูแพงมากและก็ขายไม่ค่อยได้ ลูกค้าจะมาเดินตลาดแทบไม่มี จากราคาหมูสดกิโลกรัมละ 100 กว่าบาท ตอนนี้ปรับเป็น 220 บาท ก็แทบจะขายไม่ได้  ปกติทำหมูวันละ 3 ตัว แต่ขณะนี้ 1 ตัวก็ขายวันเดียวไม่หมด   หากหมูที่เหลือก็ต้องเอาแช่ไว้ขายวันถัดไป   หรือเอาแปรรูปเป็นหมูแดดเดียวเพราะหากปล่อยทิ้งไว้ก็จะเสียเปล่าขาดทุนมากขึ้นไปอีก   

  

        เจ๊แมว แม่ค้าเขียงหมูอีกรายหนึ่ง  กล่าวเช่นเดียวกันว่า ทุกวันนี้ได้รับผลกระทบเยอะมากๆ เรื่องการปรับตัวขึ้นค่าครองชีพด้านต่างๆ แม่ค้าเขียงหมูขายแทบไม่ได้ ตลาดเงียบเหงามากๆ ตั้งแต่ที่เอาหมูมาวางขาย 5 ชั่วโมง ยังขายได้แค่ 150 บาทเท่านั้น ตอนนี้ราคาหมูที่หน้าเขียงจะมีแต่ละชิ้นส่วนที่ต่างกันราคาตั้งแต่ 180-220 บาท ซึ่งถือว่าคาราสูงมาก  หากไม่ปรับราคาขึ้นก็อยู่ไม่ได้  อีกทั้งยังต้องมาแบกรับภาระค่าเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น ขณะนี้มีพ่อค้าแม่ค้าเขียงหมูบนตลาดได้เลิกขายไปหลายรายแล้ว เพราะแบกรับภาระต้นทุนไม่ไหว ส่วนเราก็ต้องขายต่อไปเพราะเป็นอาชีพที่ทำมานาน