ชาวบ้านเวียงหงส์ล้านนา อ.แม่เมาะ 340 หลังคาเรือน วอนขอเอกสารสิทธิ์ ผ่านมา 20 ปี มีเพียงสมุดเล่มสีเขียวจาก กฟผ. ขอเร่งช่วยเหลือก่อนที่ชาวบ้านจะโดนข้อหารุกป่า

ปัญหาการออกเอกสารสิทธิ์ให้กับชาวบ้านในพื้นที่ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ที่อพยพออกจากพื้นที่การก่อสร้างโรงไฟฟ้า และเหมืองแม่เมาะ พบว่ายังมีหลายหมู่บ้าน ไม่ใช่เฉพาะบ้านฉลองราช หมู่ 8 และบ้านม่อนหินฟู ม. 1 ต.สบป้าดเท่านั้น  ยังมีหมู่บ้านเวียงหงส์ล้านนา หมู่ 12 ต.แม่เมาะ ที่อพยพออกมาได้ 20 ปี  ซึ่งปัจจุบันบ้านที่อยู่อาศัยก็ไม่มีเอกสารสิทธิ์ที่ดิน  มีเพียงใบยืนยันสิทธิ์ที่ได้รับจาก กฟผ.แม่เมาะเท่านั้น

สำหรับหมู่บ้านเวียงหงส์ล้านนา หมู่ 12 ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง  เป็นการอพยพครั้งที่ 5  เมื่อปี 2544 จำนวน 340 ครัวเรือน ที่มาอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ที่ไม่ได้รับงบประมาณในการสนับสนุนพัฒนาด้านต่างๆจากภาครัฐ   เพราะหมู่บ้านแห่งนี้อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และ หมดสัญญาเช่าแล้ว โดยที่ผ่านมาชาวบ้านส่วนใหญ่นั้นไม่ทราบเรื่องเลยว่าอยู่ในพื้นที่เช่าป่าสงวนแห่งชาติ ทำให้บ้านเรือนที่มีทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไปแล้ว  และชาวบ้านยังไม่ได้เอกสารสิทธิ์ครอบครองหรือโฉนดแต่อย่างใด

นายบุญทา ฟูบุตร เจ้าของบ้านเลขที่ 765 หมู่ 12  ลักษณะเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นหลังใหญ่  ปลูกในพื้นที่ที่ถูกจัดสรรให้มาประโยชน์ได้เพียง 2 งาน  ได้นำสมุดเล่มสีเขียวระบุวว่าเป็นบัตรประจำตัวผู้ได้รับการช่วยเหลือให้รับที่จัดสรร โครงการอพยพราษฎรบ้านหางฮุง หมู่ 3 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ ตามมติ ครม. 25 ธ.ค.2544   ภายในสมุดแจ้งว่าเป็นผู้ครอบครองที่ดินผืนนี้เท่านั้น  ซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นเดียวที่เก็บรักษาไว้มานานหลายสิบปีเพื่อที่จะรอรับโฉนดที่ดิน   

นายบุญทา กล่าวว่า  เมื่อครั้งที่อพยพมาทาง กฟผ.ได้ประเมินราคาบ้านหลังเก่า และให้มาสร้างบ้านเอง ไม่ว่าที่ดินบ้านเดิมจะมีมากเท่าไร  ก็จะได้รับจัดสรรเท่ากันคนละ 2 งาน เรียกว่าเป็นที่แลกที่  ตั้งแต่ย้ายมาได้มีการเข้ามารังวัดและมีการเดินเรื่องในการออกเอกสารสิทธิ์อยู่ แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายตำแหน่งส่วนราชการเรื่องก็ได้เงียบไป และไม่มีการออกเอกสารสิทธิ์ให้จนถึงทุกวันนี้   ส่วนที่ดินเดิมก็ยังเข้าไปทำประโยชน์ได้ แต่มีการสลักหลังโฉนดไว้ว่าห้ามซื้อขายในระยะเวลา 10 ปี  แต่ตอนนี้ล่วงเลยมา 20 ปีแล้ว หากจำเป็นจริงๆก็คงต้องจะขายที่ดินผืนเดิม เพราะบ้านที่อาศัยอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินใดๆได้เลย เพราะไม่มีเอกสารสิทธิ์ ไม่มีโฉนด

เช่นเดียวกับครัวเรือนอื่นทุกหลังก็ยังไม่ได้รับโฉนดครอบครองที่ดินแม้แต่รายเดียว  ทำให้ในพื้นที่หมู่บ้านไม่ได้งบพัฒนามานานมากแล้ว  จึงอยากให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่และสำรวจออกเอกสารสิทธิ์โฉนดครอบครองที่ดินเท่านั้น  โดยกลุ่มชาวบ้านยืนยันว่าไม่ต้องการ  คทช. เนื่องจากพื้นที่ทั้งหมู่บ้าน ไม่ได้เป็นสภาพป่าแล้ว  ไม่สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้   การออกเอกสารสิทธิ์เป็นสิ่งเดียวที่การันตีได้ว่าบ้านเรือนและชุมชนแห่งนี้ อยู่ในพื้นที่ถูกกฎหมายโดยไม่อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอีกต่อไป