วันพุธที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

สสจ.เตือนเฝ้าระวังฝีดาษวานร หากมีอาการตุ่มคล้ายอีสุกอีไส และมีไข้รีบพบแพทย์ทันที

 


นางนงคราญ คชรักษา รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง  เปิดเผยว่า โรคฝีดาษลิง หรือฝีดาษวานร เป็นโรคที่ใกล้เคียงกับอีสุกอีใส และไข้ทรพิษ แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า โดยผู้ป่วยจะมีไข้ ร่วมกับตุ่มผื่น ตุ่มหนองทั่วตัว ต่อมน้ำเหลืองโต ปัจจุบันทั่วโลกพบผู้ป่วยยืนยันทั่วโลก 12,608 ราย ใน 75 ประเทศ และพบผู้ป่วยยืนยันในประเทศไทย 1 ราย ที่จังหวัดภูเก็ต เป็นผู้ป่วยเพศชาย ชาวไนจีเรีย อายุ 27 ปี ค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม ส่งตรวจหาเชื้อแล้วทั้งหมด 38 ราย ผลตรวจไม่พบเชื้อฝีดาษวานร 7 ราย และอยู่ระหว่างการตรวจหาเชื้อ 31 ราย

คำแนะนำในการป้องกันโรคฝีดาษวานร สำหรับประชาชน

1.โรคฝีดาษวานร ติดเชื้อจากการสัมผัสโดยตรงกับตุ่มหรือผื่น / สิ่งของที่ใช้ร่วมกับผู้ป่วย ให้เลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยที่มีตุ่มหนอง และงดใช้สิ่งของร่วมกับผู้ป่วย

2.Universal Prevention : เน้นการล้างมือบ่อย ๆ ด้วยเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง

3.หากเริ่มมีไข้ เจ็บคอ ต่อมหน้าเหลืองโต มีผื่นแดง ตุ่มน้ำ หรือตุ่มหนอง ขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ  ลำตัว แขนขา ใบหน้า และฝ่ามือฝ่าเท้า ร่วมกับมีประวัติเสี่ยง ได้แก่ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย มีประวัติเดินทางจากต่างประเทศ /ร่วมงานหรือกิจกรรมที่เคยมีรายงานพบผู้ป่วยฝีดาษวานร มีอาชีพที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดคลุกคลีกับผู้เดินทางจาก ต่างประเทศ หรือมีประวัติสัมผัสสัตว์ฟันแทะที่มาจากอาฟริกา ให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย ทั้งนี้ขอให้ แจ้งประวัติเสี่ยงให้เจ้าหน้าที่ทราบ

4.กรณีพบผู้ป่วยสงสัยฝีดาษวานร โดยเฉพาะชาวต่างชาติ แนะนำให้ผู้ป่วยรีบไปพบแพทย์ ไม่ควร หลบหนี เพื่อลดการแพร่โรคสู่ผู้อื่น

นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า  แม้ จ.ลำปางจะยังไม่พบผู้ป่วย แต่มาตรการ universal ก็สามารถควบคุมโรคนี้ได้ ช่วยกันสังเกตนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาในบ้านเรา หากพบความผิดปกติหรือสุ่มเสี่ยงให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์