วันที่ 17 ส.ค.65 นายสถิต โพธิ์ รองผู้อำนวยการ สํานักชลประทานที่ 2 รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสํานักชลประทานที่ 2 ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง แจ้งเตือนเฝ้าระวังปริมาณน้ำวังล้นตลิ่งพื้นที่ลุ่มต่ำติดแม่น้ำวัง
สำนักงานชลประทานที่ 2 ขอแจ้งเตือนเฝ้าระวังปริมาณน้ำล้นตลิ่งบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำติดแม่น้ำวังโดยจากการตรวจสอบ วันที่ 17 สิงหาคม 65 (เวลา 06.00 น.) เขื่อนกิ่วลมระบาย อัตรา 170 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำฝั่งขวาบริเวณถนนเลียบแม่น้ำวัง ซึ่งมีลักษณะเป็นชานคลองหรือตลิ่ง ด้านล่างของแม่น้ำวัง ได้รับผลกระทบมีน้ำท่วมขังด้านใต้สะพานช้างเผือก ส่วนบริเวณที่ตั้งสถานีวัดน้ำท่า W.1C สะพานเสตุวารี ชุมชนท่านางลอย ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองลำปาง ระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าระดับผิวถนนเลียบแม่น้ำวังประมาณ 20 เซนติเมตร
แนวโน้มสถานการณ์เขื่อนกิ่วลม มีความจำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้นในอัตรา 180-200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จะส่งผลทำให้ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำท่า W.1C บริเวณสะพานเสตุวารี เพิ่มสูงขึ้นจาก ระดับ +2.275 เมตร และหากระบายเพิ่มขึ้นทุก 10 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จะทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นทุก 10 เซนติเมตร
จึงต้องแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำวังและที่ทำการเพาะปลูกบริเวณลุ่มริมตลิ่งแม่น้ำวัง ได้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ต่างๆ สัตว์เลี้ยง รวมถึงสิ่งก่อสร้างในลำน้ำวัง
ล่าสุด นายพีระยุทธ์ เหมาะพิชัย ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา ออกหนังสือประชาสัมพันธ์การระบายน้ำเขื่อนกิ่วลมและเขื่อนกิ่วคอหมา วันที่ 17 ส.ค. 65 โดยเขื่อนกิ่วคอหมา จะระบายด้วยอัตรา 60-150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 85 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะพิจารณาปริมาณน้ำเข้าเขื่อนกิ่วคอหมา หากมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจะดำเนินการปรับเพิ่มการะบายน้ำครั้งละ 5 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่วนเขื่อนกิ่วลม ได้เพิ่มการระบายน้ำจาก 150 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 151-200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยพิจารณาระบายเพิ่มครั้งละ 5 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 17 ส.ค.65 เมื่อปริมาณน้ำรวมกับน้ำฝนที่ตกท้ายเขื่อนกิ่วลมจะทำให้แม่น้ำวังเพิ่มสูงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ถนนเลียบแม่น้ำวังทั้งสองฝั่ง ขอให้เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น