นายนิมิตร จิวะสันติการ
นายกเทศมนตรีนครลำปาง ได้เล่าถึงเรื่องที่ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลและยื่นฟ้องศาลว่า เมื่อปี 48 จ.ลำปางเป็นเจ้าภาพจัดงานไทยแลนด์เซรามิกแฟร์ วันที่ 2-12 ธ.ค.48 ได้ขอใช้สนามกีฬาเทศบาลเป็นสถานที่จัดงาน มีโครงการจำเป็นที่จะต้องทำให้รองรับงานได้
เช่น ทางเดิน ลานเอนกประสงค์ ห้องน้ำ
ช่วงนั้นเดือน ส.ค.48 เสนอให้จัดทำโครงการมา 3 รายการ
- ยันไม่ได้เซ็นสัญญา
ปลัดเทศบาลในขณะนั้นได้เสนอว่าควรจะใช้วิธีการประกวดราคา
เมื่อส่งเรื่องมาถึงตนพิจารณาเห็นว่ามีเวลาน้อยในการทำงาน ไม่น่าจะทันช่วงการจัดงาน จึงคิดจัดจ้างวิธีพิเศษให้งานรวดเร็วขึ้น
จากนั้นก็ไปดำเนินการหาผู้รับจ้างเพื่อนำเสนอให้ตนอนุมัติ ขั้นตอนต่อไปต้องมาทำสัญญา ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญาใดๆทั้งสิ้น
วันหนึ่งตนเดินผ่านร้านหนังสือ
ได้เห็นหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่งลงพาดหัวข่าวว่า สตง.เข้าตรวจงานเนื่องจากมีผู้รับเหมาเข้าไปดำเนินงานก็รู้สึก แปลกใจว่ายังไม่ได้เซ็นสัญญาจะทำงานก่อนได้อย่างไร
จึงกลายเป็นเรื่องร้องเรียนกันตั้งแต่นั้นมา และเรื่องได้เงียบหายไป
- ต้นปี 65 ป.ป.ช.ชี้มูล
นายนิมิตร เล่าต่อว่า กระทั่งต้นปีประมาณเดือน
ก.พ.65
ได้แจ้งมาว่าให้ตนไปให้คำให้การกับ ป.ป.ช. ซึ่งก็ไปชี้แจงตามข้อเท็จจริง
อีกประมาณ 1 เดือน
ป.ป.ช.ได้แจ้งไปที่กระทรวงมหาดไทยว่าชี้มูลความผิดกับตน
และให้มหาดไทยสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง
แต่ทางมหาดไทยได้มีหนังสือพิจารณาว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2548 ผ่านมาเกือบ 18 ปี
และไม่อยู่ในวาระที่ดำรงตำแหน่งแล้ว เพราะมีการเลือกตั้งใหม่เป็นวาระใหม่แล้ว เขาก็ไม่มีอำนาจทำให้เราพ้นจากตำแหน่ง เรื่องนี้ก็จบไป แต่ ป.ป.ช.ได้ส่งอัยการยื่นฟ้อง และศาลได้ประทับรับฟ้องเมื่อวันที่ 5 ก.ค.65
นายกเทศมนตรี กล่าวอีกว่า อยู่ๆปลัดเทศบาลทำหนังสือถึงผู้ว่าฯ
อ้างว่าได้รับหนังสือจากศาลคดีอาญาทุจริตภาค 5 และผู้ว่าฯได้ทำหนังสือส่งกลับมาอ้างตามกฎหมายว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ศาลประทับรับฟ้อง เรื่องอย่างนี้ต้องพิจารณาให้ละเอียดถึงข้อเท็จจริง
การสอบสวนให้ละเอียดถี่ถ้วน มีกฎหมายใดเกี่ยวข้องบ้าง
ซึ่งผู้ว่าฯอาจจะมองกฎหมายมุมหนึ่ง
ส่วนทางตนก็มองกฎหมายอีกมุมที่เรามีความรู้ความเข้าใจ เมื่อการตีความไม่สอดคล้องกัน ก็ต้องยื่นข้อโต้แย้ง
และขอความชัดเจนจากจังหวัดดังกล่าว.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น