“นิมิตร” ยื่นข้อโต้แย้งถึงมหาดไทยและผู้ว่าฯ ตั้งคำถามใครมีอำนาจสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

 

กรณีวันที่ 5 ก.ค.65 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 รับฟ้องคดีที่ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ส่งให้อัยการยื่นฟ้อง นายนิมิตร จิวะสันติการ เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างพิเศษเมื่อปี 2548  โดยทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้มีหนังสือแจ้งเทศบาลให้ถือปฏิบัติตามกฎหมาย ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคําพิพากษา

นายนิมิตร จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีนครลำปาง ได้เปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า หลังจากที่ได้รับหนังสือจากผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เมื่อวันที่ 8 ส.ค.65 ที่ผ่านมา ก็ได้ทำหนังสือข้อโต้แย้งกลับไปยังกระทรวงมหาดไทย และผู้ว่าฯ เพื่อขอความชัดเจนในเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ รวมถึงผู้มีอำนาจในการสั่งให้ตนหยุดปฏิบัติหน้าที่ และให้หยุดเพราะอะไร หากกลัวว่าตนจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ก็คงจะไม่มีให้ยุ่งแล้วเพราะผ่านมานานเกือบ 18 ปี คดีก็ไปถึงศาลแล้ว ตนไม่ได้มีอำนาจที่จะไปเปลี่ยนสำนวนคดีได้  การจะสั่งให้หยุดทำงานต้องมีหนังสือคำสั่งและเหตุผลที่ชัดเจนด้วย  ขณะนี้ก็ยังไม่มีหนังสือสั่งการส่งมา ไม่ว่าจะจากหน่วยงานใดก็ตาม 

“ความจริงผมไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็ได้ เพราะผมเชื่อว่าผู้ว่าฯ ไม่มีอำนาจสั่งการ  และไม่มีใครเป็นผู้มีอำนาจสั่งให้หยุด เพราะฉะนั้นจะให้หยุดด้วยเหตุผลอะไร”

แต่เพื่อไม่ให้เกิดการสับสนและอึดอัดใจในการทำงานของข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างภายในเทศบาล  จึงได้มอบหมายให้นายกิตติ จิวะสันติการ รักษาการแทนไปก่อนในระหว่างที่รอหนังสือตอบกลับจากจังหวัด   

นายนิมิตร กล่าวว่า ทุกวันนี้ยังทำงานอยู่ทุกวันไม่ได้หยุดแม้แต่วันเดียว  แต่แนวคิดต่างๆอาจจะไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้  ตนเป็นผู้กำหนดนโยบายและวางแผนสิ่งต่างๆ ถ้างานออกมาไม่ได้ตามที่คิดไว้ก็เกิดความเสียหาย  เปรียบเหมือนการสร้างบ้านถ้าไม่มีสถาปนิกออกแบบคอยดูแล  วิศวกรหรือช่างก่อสร้างก็ทำได้ แต่อาจจะได้ออกมาไม่ถูกใจหรือไม่ตรงตามแบบ  ในเรื่องนี้ตนก็ต้องป้องกันเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเอง  โดยการขอความชัดเจนจากทางมหาดไทยและผู้ว่าฯ