วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2565

“เฮลท์แคร์ โซลูชั่น” ยกระดับความเท่าเทียมด้านสาธารณสุขทั่วไทย



หวังเพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มคนด้อยโอกาส ขณะเดียวกันยังโจทย์สังคมผู้สูงวัยและเข้ากับไลฟ์สไตล์คนยุคนิวนอร์มอลต้องการรับยาที่บ้าน ลดความแออัดของโรงพยาบาล หรือแม้แต่ในพื้นที่ประสบภัยทางธรรมชาติ ล่าสุด  บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณด.) เปิดตัวบริการขนส่งด้านยาและเวชภัณฑ์ (Healthcare Solutions)  ซึ่งผนึกกำลังกับหน่วยงานภาครัฐอย่างสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) องค์การเภสัชกรรม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โรงพยาบาลแม่ข่าย และภาคเอกชนอย่างสมาคมไทยอุตสาหกรรมผลิตยาแผนปัจจุบัน สมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย ฯลฯ


วรรณพร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานคณะกรรมการ บริษัท ไปรษณีย์ไทยดิสทริบิวชั่น จำกัด (ปณด)
  ได้กล่าวว่าจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 กลายเป็นวิกฤตทางสุขภาพของคนไทย ถึงแม้ ณ วันนี้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่เรื่องการดูแลสุขภาพ (Healthcare) ยังเป็นเรื่องที่สำคัญของคนไทย  ดังนั้น ปณด จึงได้พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการขนส่งยาและเวชภัณฑ์      (Healthcare Solutions) ตามหลักมาตรฐานสากลและองค์การอนามัยโลก (WHO) พร้อมอำนวยความสะดวกให้ประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งหวังลดลดความเหลื่อมล้ำของสังคม สร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุข 


       นอกจากนี้ ในงานดังกล่าวมีการเสวนาจากทีมผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญและผู้ที่เกี่ยวข้องด้าน
Healthcare Solutions ในหัวข้อ “Healthcare solutions อนาคตโลจิสติกส์ไทย”

       พีระ อุดมกิจสกุล กรรมการผู้จัดการ ปณด กล่าวว่า ด้วยความมุ่งมั่นให้บริการด้านสาธารณสุข อย่าง "เท่าเทียม ทั่วถึง ทันเวลา เพื่อสุขภาวะคนไทย” เป็นหัวใจสำคัญในบริการจัดส่งด้านยาและเวชภัณฑ์ (Healthcare Solutions) ของ ปณด ที่ผ่านมาได้พัฒนาประสิทธิภาพ และนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชน ซึ่งจากประสบการณ์และความพร้อมที่ ปณด ได้รับความไว้วางใจจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และองค์การเภสัชกรรม ดำเนินโครงการจัดส่งน้ำยาล้างไต ถือเป็นก้าวแรกที่ ปณด ให้บริการ “Healthcare Solutions

 


           จนถึงปัจจุบันดำเนินการจัดส่งน้ำยาล้างไตและอุปกรณ์มากถึง 3 ล้านถุงต่อเดือนหรือกว่า 36 ล้านถุงต่อปีให้กับผู้ป่วยสิทธิบัตรทองมากกว่า 3 หมื่นราย และด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม ปณด ได้ร่วมกับ 14 องค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชนจัดทำ “โครงการสร้างโลกสีเขียว”  เพื่อนำถุงน้ำยาล้างไตที่ใช้แล้วมาอัพไซเคิล แปรรูปเป็นสิ่งของใช้ประโยชน์ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อช่วยการลดอุณหภูมิของโลกหรือภาวะโลกร้อน

           นอกจากนี้ยังได้เตรียมรองรับการขยายตัว Healthcare Solutions ด้วยจัดทำแผนสร้างคลังเก็บยาในภูมิภาคจากส่วนกลางที่ปัจจุบันอยู่ที่สำนักงานบางนา โดยมีแผนที่จะขยายเพิ่มทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ซึ่งในขณะนี้ ปณด พร้อมให้บริการผ่านศูนย์กระจายสินค้าทุกภูมิภาคทั่วประเทศมากถึง 26 แห่ง เป็นของ ปณด 10 แห่ง และศูนย์ของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด อีก 16 แห่ง




ธนพลธ์ ดอกแก้ว นายกสมาคมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย และประธานผู้ป่วยโรคเรื้อรัง กล่าวว่า ตนเป็นผู้ป่วยโรคไตวายระยะเรื้อรังระยะสุดท้าย ล้างไตมา 12 ปี ก่อนได้รับการปลูกถ่ายไตใหม่เมื่อ 8 ปีก่อน ได้กลับมามีชีวิตใหม่และทำงานช่วยเหลือเพื่อนๆที่เป็นโรคไต  เดิมที ปณท. จัดส่ง ก่อนส่งมอบให้ ปณด. ดำเนินการตั้งแต่ปี 2558 จนทุกวันนี้ มีการส่งน้ำยาล้างไตและอุปกรณ์3ล้างถุงต่อเดือน ให้ผู้ป่วยที่ต้องล้างไตตรงช่องท้อง  30,000 กว่ารายทั่วประเทศ ถุงน้ำยาล้างไตใช้แล้ว ปณด.ก็รับนำมารีไซเคิลแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่

นายกสมาคมฯ ระบุบริการส่งยา เวชภัณฑ์ และวัคซีน ทำให้ระบบสาธารณสุขดีขึ้น สร้างความเชื่อมั่นในการจัดส่งยาอย่างเท่าเทียม  ทั่วถึง ทันเวลา ไม่ว่าการขนส่งจะยากลำบากแค่ไหน อยู่เกาะ อยู่ดอย ก็ส่งน้ำยาล้างไตได้  ยามีความสำคัญกับคนไข้ ภายในระยะเวลา 1 เดือน คนไข้ 1 คนจะใช้ถุงน้ำยาล้างไต 120 ถุง จะจัดส่งเดือนละครั้ง ข้อดีไปรษณีย์ไทยรู้พิกัดบ้านเลขที่ใดอยู่ในพื้นที่ไหน พอส่งต่อให้ ปณด.บริการจัดส่งยาและเวชภัณฑ์จึงมีความแม่นยำสูง  ที่

เคยมีประสบการณ์ทำงานช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ขนส่งจากรถมาใส่เรือเข้าสู่บ้านผู้ป่วยในพื้นที่น้ำท่วม พนักงาน ปณด.และพวกเราทำงานร่วมกัน ยาเป็นสินค้ามีชีวิต ถ้าไม่ถึงมือผู้ป่วยอาจจะอันตรายถึงเสียชีวิต เพราะเขาขาดยาไม่ได้ ครั้งนั้นถอดบทเรียนเป็นแนวทางปฏิบัติ มีการเตรียมพร้อมสำหรับจัดส่งยาล่วงหน้า กรณีฉุกเฉินจัดส่งยาไม่ทันปรับรับกับโรงพยาบาล การบริการด้านสุขภาพส่งผลให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดี” ธนพลธ์ ย้ำ


           
และเพื่อการพัฒนาที่ไม่หยุดนิ่ง ปณด ได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้การจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ในโครงการอื่นๆ อาทิ โครงการขนส่งตัวอย่างเลือดและการจัดส่ง DNA จากสถานพยาบาลทั่วประเทศ เพื่อการวิจัยในโครงการ Genomics Thailand โครงการจัดส่งกระดาษซับหยดเลือดของเด็กทารกแรกหลังคลอด 48 ชั่วโมง จากโรงพยาบาลไปยังศูนย์ปฏิบัติการการตรวจคัดกรองสุขภาพทารกแรกเกิดแห่งชาติ รวมถึงการจัดส่งยาและวัคซีนให้กับผู้ป่วยโควิด-19 ในโครงการที่อยู่ในความร่วมมือกับสปสช. และในอนาคต ยังเตรียมวางระบบ IT เชื่อมโยงการจัดเก็บและกระจายสินค้าแบบ SPD (Supply, Processing and Distribution ) ร่วมกับศูนย์การจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทานสุขภาพ (LogHealth) คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อรองรับจัดส่งยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ จากโรงพยาบาลแม่ข่ายไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล โดยเป็นการลดปัญหาความซับซ้อนและต้นทุนในการจัดการกระบวนการทางโลจิสติกส์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ

กอบแก้ว แผนสท้าน

 

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์