เจ้าหน้าที่หลายหน่วย โดยการอำนวยการของ พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์
ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส. พ.ต.ท.เกรียติพันธุ์
เจริญชนิกานต์ รอง ผกก.4 บก.ปทส. สั่งการให้ พ.ต.ท.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส.
ประสานงาน นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง ผอ.ศูนย์ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ
นายจิตกร ศรีจันทร์ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและป้องกันไฟป่า
สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่
ลป.4 (แม่กึ๊ด) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้
จังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ที่ 33 เชียงใหม่
เจ้าหน้าที่ส่วนจัดการป่าไม้ป่าชุมชน สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง ร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ตามเอกสารหลักฐานการร้องเรียนของชาวบ้านห้วยส้ม
หมู่ 9
ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม ที่ได้รับความเดือดร้อนจากนายทุน เข้าไปบุกรุกป่าที่ทำกินของชาวบ้าน บริเวณป่าชุมชนบ้านห้วยส้ม ซึ่งมีการสร้างรั้วปิดทางเข้าออกป่า ชาวบ้านจึงไม่สามารถเข้าออกป่าชุมชนได้
โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอหมายศาลจังหวัดลำปาง
พร้อมประชุมแนวทางการตรวจสอบ ก่อนจะร่วมกัน เข้าพื้นที่หมู่บ้านดังกล่าว จุดตรวจสอบคือ บ้านไม่มีเลขที่ ซอย 6
บ้านห้วยส้ม ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม เมื่อไปถึงพบว่ามี กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ยืนรอเจ้าหน้าที่
และยังมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งมาร่วมสังเกตการณ์
โดยนายวัชรินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 59
ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ที่อยู่ตามบัตรประชาชน
แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของบ้าน ได้มารับทราบการเข้าตรวจค้นและเซ็นยินยอมให้ตรวจค้น โดยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมกับนำเจ้าหน้าที่รางวัดพื้นที่โดยรอบทั้งหมดด้วยตัวเอง
สภาพพื้นที่มีการทำแปลงเกษตรกรรมปศุสัตว์
บ่อปลา และโกดังเก็บสิ่งของหลายแห่ง มีบ้านพักอาศัยรวมอยู่ด้วย
มีการสร้างรั้วรอบขอบชิดเกือบทั้งหมด ซึ่งผลการตรวจสอบตามพิกัดแผนที่รางวัดทางอากาศพบว่า
พื้นที่ทั้งหมดเป็นพื้นที่ถูกบุกรุก อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เลียง
ที่ถูกกันเป็นป่าชุมชน จำนวน 54-2-45 ไร่ ค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 3,663,000 บาท
เจ้าหน้าที่ต้องทำความเข้าใจแก่เจ้าของพื้นที่ที่ตกเป็นผู้ต้องหา และชาวบ้านที่มาให้กำลังใจเกือบ
100
คน อย่างละเอียด ก่อนที่นายวัชรินทร์จะยินยอมให้เจ้าหน้าที่คุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมและดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายวัชรินทร์
อ้างว่าตนเองมีภรรยาในหมู่บ้านแห่งนี้และได้เข้ามาครอบครองพื้นที่ต่อจากพ่อภรรยา
และที่ผ่านมาก็พยายามผลักดันขอแก้ไข พ.ร.บ.ป่าชุมชน ให้กันพื้นที่ออกจากป่าชุมชน เพราะเป็นที่ทำกินดั้งเดิม
แต่ก็ไม่เป็นผลจนกระทั่งมาถูกจับดำเนินคดี
ซึ่งตนเองก็มีหลักฐานไว้แก้ต่างแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหายไปหลายกระทง
ทั้ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507,พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 , กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าชุมชน
พ.ศ.2562 ส่งร้อยเวรสอบสวน สภ.เสริมงาม ดำเนินการตามกฎหมายทันที
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น