วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

รู้ก่อนเตรียมตัวก่อนกับ “เทรนด์สีปี 2023”

 


 

สำนวนที่ว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง” ไม่ใช่คำพูดสร้างแรงจูงใจสวยๆ เพราะนี่คือเรื่องจริง ที่กล่าวมาเช่นนี้ เพราะเรากำลังจะเริ่มนับถอยหลังส่งท้ายปี 2022 เพื่อก้าวเข้าสู่ปี 2023 หลายองค์กรและหลายหน่วยงานเริ่มขยับตัวเตรียมความพร้อมแล้ว

 

อย่าง นิตยสาร คิด Creative Thailand นิตยสารส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ผลักดันเศรษฐกิจไทย ภายใต้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ได้จัดทำรายงาน เจาะเทรนด์โลก” (Trend Book) เพื่อนำเสนอเทรนด์ที่เกิดจากกระบวนการทำวิจัยและรวบรวมองค์ความรู้จากหลากหลายสำนักเทรนด์ทั่วโลกมานำเสนอให้กับผู้คนในทุกสาขาอาชีพ เช่น นักออกแบบ นักการตลาด นักบริหารแบรนด์ เจ้าของแบรนด์สินค้าหรือบริการ เพื่อเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของพฤติกรรมผู้บริโภค

 

ซึ่งคราวนี้มาในธีม “CO-TOPIA” เพื่อสื่อถึงนิยามในปี 2023 ว่าสถานะวันนี้ดีกว่าเมื่อวาน เพราะโอกาสเกิดขึ้นจากอุปสรรค เราจึงจำเป็นต้องคว้าช่วงเวลาที่จะได้สร้างประตูบานใหม่ พร้อมกับหลอมรวมโลกและผู้คนให้อยู่ร่วมกันได้ด้วยการพึ่งพาอาศัยกัน เพื่อสร้างวันพรุ่งนี้ที่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

 

หนึ่งในหัวข้อในรายงานเจาะเทรนด์โลก 2023 คือ เทรนด์สีประจำปี 2023” (Color Trend) ระบุว่าสะท้อนบรรยากาศของโลกและผู้คนที่เสมือนกำลังถูกปลุกให้ตื่นขึ้น และปรับตัวหลังจากอยู่ภายใต้ข้อจำกัดและความไม่แน่นอนมาเป็นเวลาหลายปี

 

และข้อมูลจาก สำนักเทรนด์ WGSN ระบุว่า สีในปี 2023 จะสื่อสารและเชื่อมโยงกับดัชนีทางอารมณ์ของผู้บริโภค หมายถึงการจัดการกับภาวะทางอารมณ์ที่หลากหลาย ดังนั้นสีสันในปีนี้จึงอยู่ในเฉดที่ให้ความรู้สึกของการมองโลกในแง่ดีและมีความหวัง ความมั่นคงและชัดเจน ในขณะที่ต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ อยู่เสมอ

 

การดูแลสุขภาพจิตใจจะกลายเป็นกิจวัตรประจำวันใหม่ ทำให้ กลุ่มสีแนวออร์แกนิก ที่บ่งบอกถึงช่วงเวลาแห่งการฟื้นฟูและสร้างความสมดุลจะเพิ่มความสำคัญมากขึ้น พร้อมกับการกลับมาของกลุ่ม สีเฉดเข้ม และมีค่าความอิ่มตัวสูง สอดคล้องกับอารมณ์แห่งความหวัง เกิดเป็นรูปแบบใหม่ในการแสดงออก โดยเฉพาะด้านสื่อดิจิทัลอย่างโลกเสมือนที่มีบทบาทมากขึ้นและขยายมายังโลกจริง...และเทรนด์สีประจำปี 2023 มีทั้งหมด 7 สี ประกอบด้วย

 

สีส้มแอปริคอต แสดงถึงความโหยหาอดีต กระตุ้นความสนุกสนานและสร้างสรรค์ ส่วนกลุ่มธุรกิจที่จะนำสีนี้ไปใช้ ได้แก่ กลุ่มเสื้อผ้า โดยเฉพาะเสื้อผ้าเด็ก กลุ่มงานฝีมือ งานถักทอระดับท้องถิ่น รวมถึงงานตกแต่งภายในด้วย

 


สีเหลืองอ่อน ให้ความรู้สึกเป็นออร์แกนิก ความเป็นธรรมชาติ สบายตา มีความสุข สุนทรียภาพ จะสังเกตได้ว่าหลายๆ หน่วยงานเริ่มปรับมาใช้สีเหลืองอ่อนแทนสีขาวกันบ้างแล้ว ส่วนกลุ่มของธุรกิจที่จะนำสีนี้ไปใช้ได้แก่ กลุ่มธุรกิจตกแต่งบ้าน รวมถึงกลุ่มงานแฟชั่นด้วย

 


สีเขียวมะนาว เหมาะกับคนทุกกลุ่ม สื่อถึงความเท่าเทียมกัน สดชื่น สดใส สนุกเหมาะกับคนรุ่นใหม่ ส่วนกลุ่มธุรกิจที่จะนำเอาสีนี้ไปใช้ได้แก่ กลุ่มแบรนด์แฟชั่น และแบรนด์ที่เน้นการออกแบบ

 


สีเขียวอมฟ้า แสดงถึงการขับเคลื่อน การเปลี่ยนแปลงไปในด้านต่างๆ มีพลัง มีความกล้าหาญในการขับเคลื่อน ส่วนกลุ่มธุรกิจที่จะนำสีนี้ไปใช้ ได้แก่ กลุ่มเสื้อผ้านักธุรกิจ งานแฟชั่น และงานตกแต่งภายใน



 สีดำเทา แสดงถึงความเย้ายวน หรูหรา สื่อสารง่าย เป็นการเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นท่ามกลางปัญหาต่างๆ ส่วนกลุ่มธุรกิจที่จะใช้สีนี้ ได้แก่ กลุ่มงานโฆษณา แคมเปญต่างๆ งานกีฬา โครงการอาหารต่างๆ



สีแดงก่ำ เป็นสีแสดงถึงการทำงานต่างๆความหลงใหล การสะดุดตา ส่วนกลุ่มธุรกิจที่จะใช้สีนี้ ได้แก่ ผลงานศิลปะ และงานตกแต่งภายใน



ปิดท้ายเทรนด์สีประจำปี2023 สีม่วงเข้ม เป็นสีที่แทนนิยามคำว่า ดิจิทัล เมตาเวิร์ส และความเหนือจริง ส่วนกลุ่มธุรกิจที่จะใช้สีนี้ได้แก่ กลุ่มคริปโต้ ดิจิทัล และศิลปะ

 

และนี่คือสีทั้ง 7 ที่จะถูกนำมาใช้ในกลุ่มธุรกิจต่างๆ ในปีหน้า คราวนี้ก็มาสำรวจตัวเองกันว่าเราจัดอยู่ในกลุ่มใด เพื่อจะได้เลือกหยิบสีไปใช้ได้ถูกต้องไม่สวนกระแสจะได้ไม่เชย

 

กอบแก้ว แผนสท้าน...เรื่อง

เจาะเทรนด์โลก โดยนิตยสารคิด Creative Thailand.... ข้อมูล/ภาพ

 

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์