วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

'พิธา' นำก้าวไกลเปิดเวทีลำปาง แนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร 4 เขต


“พิธา” โปรยยาหอมชาวลำปาง ปรับเบี้ยคนชราเป็น 3,000 บาท สอดรับสังคมผู้สูงวัยในพื้นที่  เผย 8 ปีที่ผ่านมาคือความสูญหาย ทางรอดคือก้าวสู่การเมืองใหม่ไปด้วยกัน 


          วันที่ 3 ม.ค.66 เวลา17.00 น. พรรคก้าวไกลเดินสายเปิดเวทีภาคเหนือ โดยได้เดินทางมาเปิดเวทีพบชาวลำปาง ที่บริเวณลานน้ำพุ สวนสาธารณะห้าแยกหอนาฬิกา อ.เมืองลำปาง นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์  หน้าพรรคก้าวไกล พร้อมนายอภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ  นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์  ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน  พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ลำปางทั้ง 4 เขต ว่าที่ผู้สมัคร สส.แพร่ และ ว่าที่ผู้สมัคร สส.น่าน ร่วมแนะนำตัว  โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 500 คน  



          ทั้งนี้ก่อนจะขึ้นเวทีปราศรัย ได้มีนางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ ประธานเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ ได้เดินทางมายื่นหนังสือต่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค นายอภิชาติ ศิริสุนทร ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อขอให้เร่งรัดติดตามการออกเอกสารสิทธิ์ให้กับชาวบ้าน อ.แม่เมาะ ที่อพยพออกจากพื้นที่การก่อสร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะ ผ่านมานานกว่า 20 ปี ยังไม่ได้รับเอกสารสิทธิ์  โดยนายอภิชาติ รับปากว่าจะติดตามให้อย่างเร่งด่วน

         จากนั้นทาง ส.ส.พรรคก้าวไกล และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 3 จังหวัดได้สับเปลี่ยนกันอภิปรายบนเวทีพร้อมนำเสนอนโยบายในหลายประเด็น ก่อนที่นายพิธา หัวหน้าพรรคจะขึ้นเวทีพบปะกับชาวบ้านประมาณ 15 นาที 

          นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า  4 ปีที่แล้วชาวลำปาง แพร่ น่าน ให้ความไว้วางใจพรรคอนาคตใหม่กว่า 2.7 แสนคะแนน ตอนเริ่มเรามีแต่ความต้องการเห็นสังคมดีขึ้น แม้จะยังไม่ถึงเป้าหมายแต่เราจะสู้ต่อ เพื่อให้ 3 จังหวัดนี้ได้เก้าอี้ ส.ส.เข้าไปในสภา 

          ที่ผ่านมา เราได้นำเสนอ พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าเข้าสภา เพื่อต้องการคืนความเท่าเทียมในสิทธิทำมาหากิน เปลี่ยนสินค้าการเกษตรเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นมาได้ เราแพ้แค่ 2 คะแนน เรื่องจึงตกไป แต่ถ้าพรรคก้าวไกลทำสำเร็จในการเลือกตั้งครั้งหน้า จะทำให้เมืองแพร่เป็นเมืองสุราก้าวหน้า เศรษฐกิจจะดีขึ้นมาก  เงินจะหมุนเวียนเป็นแสนล้าน 


          สำหรับชาวลำปาง พบว่า 25 เปอร์เซ็นต์ เป็นสังคมผู้สูงอายุ มีอายุเกิน 60 ปี สิ่งที่พรรคเราเคยต่อสู้มา คือการทำบำนาญประชาชน 3,000 บาท  เราเกือบจะทำสำเร็จแต่รัฐบาลได้ปัดตกไป  
           “ผมไม่เชื่อว่าท่าจะมีชีวิตอยู่ได้ด้วยเงิน 600 บาทเมื่ออายุ 60 ปี และ เบี้ย 800 บาทเมื่ออายุ 80 ปี   ถ้าได้เบี้ย 3,000 บาทคงต้องอายุ 300 ปีแล้ว ดังนั้นถ้าต้องการให้บำนาญประชาชนเกิดขึ้นได้ เพียงแค่เลือกพรรคก้าวไกล”    
           ส่วนชาวน่าน มีชาติพันธ์มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ ชูนโยบายทำให้สิทธิของชาติพันธุ์ในการเข้าถึงที่ดิน คนอยู่กับป่าได้ 

          นายพิธา กล่าวย้ำว่า เรามาไกลมากเกินกว่าจะแพ้ เพราะฉะนั้นเลือกตั้งครั้งนี้เป็นสิ่งสำคัญมาก อีกนิดเดียวจะถึงเส้นชัย ประชาชนต้องนำผู้สมัคร ส.ส.ก้าวไกลทั้ง 10 คนของ 3 จังหวัดนี้เข้าสภา  เพื่อไปเลือกตนเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ให้ได้  เพื่อจะแก้ไขปัญหาให้พี่น้อง 3 จังหวัดนี้  
           8 ปีที่ผ่านมาคือความสูญหาย ลดขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ลดเศรษฐกิจของประเทศ  แต่กลับเพิ่มคอรัปชั่น เพิ่มยาเสพติด   ย้อนหลังไป 42 ปี รัฐธรรมนูญของปีนี้กับ 42 ปีที่แล้วคนเขียนยังเป็นคนเดียวกัน เรายังวนเวียนอยู่เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน ย้อนหลังไป 130 ปีการเมืองไทยก็ยังจมปลักอยู่กับอดีต ใช้วิธีการบริหารงานตามระบบเดิม นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเมืองไทย 


            ครั้งนี้เรามีทางเลือกอยู่ 2 ทาง คือจะเลือกแบบเดิม หรือจะเลือกทางไปสู่อนาคต ความเสี่ยงคือการเลือกแบบเดิมแล้วหวังจะได้รับผลลัพธ์แบบใหม่ ถ้าเปลี่ยนได้จริงตอนนี้คงเปลี่ยนแปลงไปแล้ว หรือจะเลือกก้าวไกลเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้ก้าวหน้าก้าวไกลไปกับพวกเรา เอาทหารออกจากการเมือง ทำลายทุนผูกขาด คือทางรอดเดียวของการที่จะก้าวไปสู่การเมืองใหม่ ทุกการเลือกตั้งคือโอกาสการสร้างความเปลี่ยนแปลง  หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว

            สำหรับ ว่าที่ผู้สมัครของพรรคก้าวไกลของ จ.ลำปาง  ที่พร้อมจะลงสมัครรับเลือกตั้งทั้ง 4 เขต  ได้แก่ นางทิพา ปวีณาเสถียร เขต 1 นายกฤต สติดีนิติวงศ์ เขต 2 นายชลธานี เชื้อน้อย เขต 3  และน.ส.รภัสสรณ์ นิยะโมสถ  เขต 4 
Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์