วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

“สมุนไพร” บำรุง “หัวใจ” ในเดือนแห่งรัก



ตีคู่มากับฝุ่น PM2.5 ต้องยกให้บรรยากาศสีชมพูหวานๆ ที่ยังอบอวลต่อเนื่องตลอดเดือนแห่งความรักนี้ และแม้ว่าความหวานของเทศกาลวาเลนไทน์อันมีผลให้หัวใจกระชุ่มกระชวยจะผ่านไปแล้ว แต่สิ่งที่ไม่อยากให้คุณผู้อ่านปล่อยผ่านไปนั่นคือ การดูแลสุขภาพของ “หัวใจ”  เพราะฉะนั้นในสัปดาห์นี้จึงอยากชวนมาทำนุบำรุงก้อนเนื้อเท่ากำปั้นที่ซ่อนตัวอยู่ในอกข้างซ้ายสักหน่อย ....และที่สะดวกสุดคงไม่พ้น “สมุนไพร” ใกล้ตัวเรานี่แหละ จะมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

 


กระเทียม...สมุนไพรที่ทุกคนต้องมีติดบ้านอย่าง กระเทียม ถือเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมาย โดยเฉพาะประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ เพราะมีสารอัลลิซิน ทำหน้าที่ช่วยลดไขมันเลวในเลือดและลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ซึ่งเป็นศัตรูตัวร้ายของหัวใจ ดังนั้น “กระเทียม” จึงช่วยลดโอกาสการอุดตันไขมันในหลอดเลือด อันทำให้เกิดโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่พบว่า กระเทียมมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการแข็งตัวของเลือด ช่วยลดความดันเลือด รวมทั้งเป็นสารต้านการจับตัวเป็นก้อนของเลือดด้วยการทำให้เกล็ดเลือดบางลง จึงป้องกันภาวะหัวใจขาดเลือด หรือสมองขาดเลือดได้ด้วย หากรับประทานกระเทียมสดวันละ 2-3 กลีบ จะช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรงขึ้นได้

 

หอม...แม้กลิ่นฉุนอาจไม่ถูกปากใครหลายคน แต่หอมหัวใหญ่ หอมแดง และต้นหอม ก็มีข้อดีในเรื่องการช่วยบำรุงเลือดและหัวใจ เนื่องจากในหอมจะมีสารฟลาโวนอยด์ ช่วยยังยั้งไม่ให้เกล็ดเลือดไปรวมตัวกันจนแข็งตัวแล้วไปอุดตันตามเส้นเลือด ทำให้เราลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจลงไปได้นั่นเองค่ะ นอกจากนี้หอมต่าง ๆ ยังช่วยลดอาการอักเสบ แก้หวัด คัดจมูก และยังมีสารเคอร์ซีทินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระจึงปกป้องเราจากโรคมะเร็งได้ด้วยนะคะ

 


พริก...คนที่ชอบรับประทานเผ็ดรับประโยชน์ไปเต็มๆ เพราะสารแคปไซซินที่ให้ความเผ็ดในพริกจะช่วยทำให้หลอดเลือดขยาย ทั้งยังช่วยละลายลิ่มเลือด ลดการหดตัวของเส้นเลือด ลดการจับกลุ่มของเกล็ดเลือด ลดการสร้างไขมันในร่างกาย และไปยับยั้งการดูดซึมไขมันในเส้นเลือด ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปใช้ได้สะดวกและไม่มีเลือดมาอุดตันตามหลอดเลือด เท่านี้ก็ปกป้องหัวใจของเราได้แล้ว   

 

        

ใบบัวบก...หลายคนรู้จักใบบัวบกว่า แก้ช้ำใน แต่ใบบัวบกมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งเป็นสารช่วยบำรุงให้หัวใจได้ แถมในใบบัวบกยังมีสรรพคุณที่ช่วยบำรุงเลือด ป้องกันการเป็นโรคเลือดจาง ช่วยให้ผนังของหลอดเลือดแข็งแรงขึ้น และยังช่วยแก้อาการช้ำในและร้อนในด้วย โดยวิธีนำใบบัวบกมาใช้ก็ง่าย ๆ ให้นำก้านและใบมาล้างให้สะอาด จากนั้นนำมาบดให้ละเอียดและคั้นเอาส่วนที่เป็นน้ำไปต้ม  อาจจะเติมน้ำตาลหรือเกลือบ้างเล็กน้อย เสร็จแล้วก็นำมาดื่มได้เลย    

 


บัวหลวง...สามารถนำมาใช้บำรุงหัวใจได้ทั้งดอก ดีบัว (เมล็ดในฝักบัว) และไส้ของเมล็ด โดยดอกของบัวหลวงจะช่วยบำรุงหัวใจ ใช้เป็นยาชูกำลัง ส่วนดีบัวจะช่วยขยายหลอดเลือด เพิ่มการไหลเวียนเลือดให้ไปเลี้ยงหัวใจได้ดีขึ้น ช่วยลดความดันเลือดไม่ให้สูงเกินไป และยังสามารถกระตุ้นหัวใจ ช่วยไม่ให้เป็นโรคหัวใจเต้นผิดปกติได้ นอกจากนี้ไส้ของเมล็ดบัวหลวงยังช่วยบำรุงให้เส้นเลือดหัวใจไม่ตีบได้อีกด้วย

 


กระเจี๊ยบแดง...นำกระเจี๊ยบแดงมาต้มกับน้ำ แล้วเติมน้ำตาลเข้าไปเล็กน้อยเพื่อลดความเปรี้ยว ดื่มบ่อย ๆ จะช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดความดันเลือด บำรุงเลือดให้ไหลเวียนดีขึ้น และบำรุงร่างกายของเราได้ หรือจะนำกระเจี๊ยบแดงมาต้มกับพุทราจีนก็สามารถช่วยกำจัดไขมันไม่ดีในร่างกายได้ค่ะ 

 


ดอกคำฝอย...เมื่อนำมาต้มน้ำดื่มช่วยป้องกันโรคหัวใจและรักษาหลอดเลือดได้เหมือนกัน เพราะน้ำมันจากดอกคำฝอยมีฤทธิ์ลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดความดันเลือดสูง บำรุงเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้มากขึ้น ช่วยป้องกันโรคหัวใจวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ และเส้นเลือดหัวใจตีบได้

 


เสาวรส...อุดมไปด้วยโพแทสเซียมถึง 384 มิลลิกรัมต่อเสาวรส 100 กรัม ซึ่งโพแทสเซียมมีความสำคัญต่อเซลล์และของเหลวในร่างกายของเรา รวมทั้งช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจและความดันโลหิตให้เป็นปกติได้ด้วย นำเสาวรสที่แก่จัดหลายๆ ลูกมาล้าง แล้วคั้นน้ำ เติมเกลือกับน้ำตาลเข้าไปสักนิด ดื่มกินบ่อยๆ จะช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ทำให้ไม่เป็นโรคหัวใจได้ เพราะการที่เส้นเลือดของเรามีไขมันสูงมากเกินไปจะไปกระตุ้นทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้

 


ใบเตยหอม..หากรู้สึกกระหายเวลาเหนื่อยๆ ต้องเติมความสดชื่นให้ร่างกายด้วยน้ำใบเตยสักแก้ว โดยนำใบสดมาคั้นดื่ม ครั้งละประมาณ 2-4 ช้อนแกง (4-8 ช้อนโต๊ะ) หรือต้มใบเตยกับน้ำเปล่าแล้วดื่ม จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เพราะใบเตยมีฤทธิ์บำรุงกำลังและระบบประสาท พร้อมกับช่วยบำรุงหัวใจ หรือหากใครมีอาการความดันโลหิตสูงก็สามารถต้มน้ำใบเตยเอาไว้ดื่มเช้า-เย็น เพื่อให้ใบเตยช่วยปรับระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติก็ได้เช่นกัน

 


ชาเขียว...เพราะในชาเขียวมีสารที่สามารถป้องกันการจับตัวของเกล็ดเลือด แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดไขมันชนิดไม่ดี LDL และเพิ่มไขมันที่ดีอย่าง HDL  ซึ่งช่วยป้องกันหลอดเลือดตีบและช่วยให้เลือดแข็งตัวยากขึ้น ทำให้โรคหัวใจไม่มาเข้าใกล้ แต่ไม่ใช่แค่นั้นเพราะชาเขียวยังช่วยลดระดับน้ำตาลและความดันเลือดให้ลงมาเป็นปกติได้ พร้อมช่วยย่อยอาหาร ล้างสารพิษ และช่วยให้เม็ดเลือดขาวสร้างตัว ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในชาเขียวก็มีคาเฟอีนอยู่ไม่น้อย ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าคาเฟอีนจะไปกระตุ้นการหลั่งสารอะดรีนาลิน ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ซึ่งก็จะทำให้บางคนที่ดื่มชาเขียวมากเกินไปอาจมีอาการใจสั่นได้เหมือนกัน จึงควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ไม่เกินวันละ 3 ถ้วย ที่สำคัญคือ ควรดื่มชาเขียวแบบชง ไม่ใช่แบบสำเร็จรูปสะดวกซื้อซึ่งผสมน้ำตาลเยอะ และมีปริมาณชาเขียวที่เจือจาง ทานแล้วเสี่ยงต่อโรคอ้วนมากกว่าจะช่วยดูแลหัวใจ


นอกจากที่ได้กล่าวไปแล้ว ยังมีสมุนไพรหาง่ายอีกมากมายที่นิยมนำดอกมาทำเป็นยาหอมไว้ชงกินบำรุงหัวใจ เช่น พิกุล กระดังงา มะลิลา และกุหลาบมอญหรือดอกยี่สุ่น เป็นต้น



 

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์