ตีคู่มากับฝุ่น PM2.5
ต้องยกให้บรรยากาศสีชมพูหวานๆ ที่ยังอบอวลต่อเนื่องตลอดเดือนแห่งความรักนี้
และแม้ว่าความหวานของเทศกาลวาเลนไทน์อันมีผลให้หัวใจกระชุ่มกระชวยจะผ่านไปแล้ว
แต่สิ่งที่ไม่อยากให้คุณผู้อ่านปล่อยผ่านไปนั่นคือ การดูแลสุขภาพของ “หัวใจ” เพราะฉะนั้นในสัปดาห์นี้จึงอยากชวนมาทำนุบำรุงก้อนเนื้อเท่ากำปั้นที่ซ่อนตัวอยู่ในอกข้างซ้ายสักหน่อย
....และที่สะดวกสุดคงไม่พ้น “สมุนไพร” ใกล้ตัวเรานี่แหละ
จะมีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ
กระเทียม...สมุนไพรที่ทุกคนต้องมีติดบ้านอย่าง
กระเทียม ถือเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมาย โดยเฉพาะประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ
เพราะมีสารอัลลิซิน ทำหน้าที่ช่วยลดไขมันเลวในเลือดและลดระดับไตรกลีเซอไรด์
ซึ่งเป็นศัตรูตัวร้ายของหัวใจ ดังนั้น “กระเทียม” จึงช่วยลดโอกาสการอุดตันไขมันในหลอดเลือด
อันทำให้เกิดโรคหัวใจได้ นอกจากนี้ยังมีการศึกษาที่พบว่า
กระเทียมมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการแข็งตัวของเลือด ช่วยลดความดันเลือด
รวมทั้งเป็นสารต้านการจับตัวเป็นก้อนของเลือดด้วยการทำให้เกล็ดเลือดบางลง
จึงป้องกันภาวะหัวใจขาดเลือด หรือสมองขาดเลือดได้ด้วย หากรับประทานกระเทียมสดวันละ
2-3 กลีบ จะช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรงขึ้นได้
หอม...แม้กลิ่นฉุนอาจไม่ถูกปากใครหลายคน
แต่หอมหัวใหญ่ หอมแดง และต้นหอม ก็มีข้อดีในเรื่องการช่วยบำรุงเลือดและหัวใจ
เนื่องจากในหอมจะมีสารฟลาโวนอยด์ ช่วยยังยั้งไม่ให้เกล็ดเลือดไปรวมตัวกันจนแข็งตัวแล้วไปอุดตันตามเส้นเลือด
ทำให้เราลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคหัวใจลงไปได้นั่นเองค่ะ นอกจากนี้หอมต่าง ๆ
ยังช่วยลดอาการอักเสบ แก้หวัด คัดจมูก
และยังมีสารเคอร์ซีทินที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระจึงปกป้องเราจากโรคมะเร็งได้ด้วยนะคะ
พริก...คนที่ชอบรับประทานเผ็ดรับประโยชน์ไปเต็มๆ
เพราะสารแคปไซซินที่ให้ความเผ็ดในพริกจะช่วยทำให้หลอดเลือดขยาย ทั้งยังช่วยละลายลิ่มเลือด
ลดการหดตัวของเส้นเลือด ลดการจับกลุ่มของเกล็ดเลือด ลดการสร้างไขมันในร่างกาย
และไปยับยั้งการดูดซึมไขมันในเส้นเลือด ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปใช้ได้สะดวกและไม่มีเลือดมาอุดตันตามหลอดเลือด
เท่านี้ก็ปกป้องหัวใจของเราได้แล้ว
ใบบัวบก...หลายคนรู้จักใบบัวบกว่า แก้ช้ำใน
แต่ใบบัวบกมีธาตุเหล็กสูง ซึ่งเป็นสารช่วยบำรุงให้หัวใจได้
แถมในใบบัวบกยังมีสรรพคุณที่ช่วยบำรุงเลือด ป้องกันการเป็นโรคเลือดจาง
ช่วยให้ผนังของหลอดเลือดแข็งแรงขึ้น และยังช่วยแก้อาการช้ำในและร้อนในด้วย
โดยวิธีนำใบบัวบกมาใช้ก็ง่าย ๆ ให้นำก้านและใบมาล้างให้สะอาด
จากนั้นนำมาบดให้ละเอียดและคั้นเอาส่วนที่เป็นน้ำไปต้ม อาจจะเติมน้ำตาลหรือเกลือบ้างเล็กน้อย
เสร็จแล้วก็นำมาดื่มได้เลย
บัวหลวง...สามารถนำมาใช้บำรุงหัวใจได้ทั้งดอก
ดีบัว (เมล็ดในฝักบัว) และไส้ของเมล็ด โดยดอกของบัวหลวงจะช่วยบำรุงหัวใจ
ใช้เป็นยาชูกำลัง ส่วนดีบัวจะช่วยขยายหลอดเลือด
เพิ่มการไหลเวียนเลือดให้ไปเลี้ยงหัวใจได้ดีขึ้น ช่วยลดความดันเลือดไม่ให้สูงเกินไป
และยังสามารถกระตุ้นหัวใจ ช่วยไม่ให้เป็นโรคหัวใจเต้นผิดปกติได้
นอกจากนี้ไส้ของเมล็ดบัวหลวงยังช่วยบำรุงให้เส้นเลือดหัวใจไม่ตีบได้อีกด้วย
กระเจี๊ยบแดง...นำกระเจี๊ยบแดงมาต้มกับน้ำ
แล้วเติมน้ำตาลเข้าไปเล็กน้อยเพื่อลดความเปรี้ยว ดื่มบ่อย ๆ
จะช่วยลดไขมันในเส้นเลือด ลดความดันเลือด บำรุงเลือดให้ไหลเวียนดีขึ้น
และบำรุงร่างกายของเราได้
หรือจะนำกระเจี๊ยบแดงมาต้มกับพุทราจีนก็สามารถช่วยกำจัดไขมันไม่ดีในร่างกายได้ค่ะ
ดอกคำฝอย...เมื่อนำมาต้มน้ำดื่มช่วยป้องกันโรคหัวใจและรักษาหลอดเลือดได้เหมือนกัน
เพราะน้ำมันจากดอกคำฝอยมีฤทธิ์ลดการจับตัวของเกล็ดเลือด ช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
ลดความดันเลือดสูง บำรุงเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงหัวใจได้มากขึ้น
ช่วยป้องกันโรคหัวใจวาย หัวใจเต้นผิดจังหวะ และเส้นเลือดหัวใจตีบได้
เสาวรส...อุดมไปด้วยโพแทสเซียมถึง 384
มิลลิกรัมต่อเสาวรส 100 กรัม
ซึ่งโพแทสเซียมมีความสำคัญต่อเซลล์และของเหลวในร่างกายของเรา
รวมทั้งช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจและความดันโลหิตให้เป็นปกติได้ด้วย นำเสาวรสที่แก่จัดหลายๆ
ลูกมาล้าง แล้วคั้นน้ำ เติมเกลือกับน้ำตาลเข้าไปสักนิด ดื่มกินบ่อยๆ จะช่วยลดไขมันในเส้นเลือด
ทำให้ไม่เป็นโรคหัวใจได้
เพราะการที่เส้นเลือดของเรามีไขมันสูงมากเกินไปจะไปกระตุ้นทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจได้
ใบเตยหอม..หากรู้สึกกระหายเวลาเหนื่อยๆ
ต้องเติมความสดชื่นให้ร่างกายด้วยน้ำใบเตยสักแก้ว โดยนำใบสดมาคั้นดื่ม
ครั้งละประมาณ 2-4 ช้อนแกง (4-8 ช้อนโต๊ะ) หรือต้มใบเตยกับน้ำเปล่าแล้วดื่ม
จะช่วยให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เพราะใบเตยมีฤทธิ์บำรุงกำลังและระบบประสาท
พร้อมกับช่วยบำรุงหัวใจ
หรือหากใครมีอาการความดันโลหิตสูงก็สามารถต้มน้ำใบเตยเอาไว้ดื่มเช้า-เย็น
เพื่อให้ใบเตยช่วยปรับระดับความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติก็ได้เช่นกัน
ชาเขียว...เพราะในชาเขียวมีสารที่สามารถป้องกันการจับตัวของเกล็ดเลือด
แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดไขมันชนิดไม่ดี LDL และเพิ่มไขมันที่ดีอย่าง
HDL ซึ่งช่วยป้องกันหลอดเลือดตีบและช่วยให้เลือดแข็งตัวยากขึ้น
ทำให้โรคหัวใจไม่มาเข้าใกล้
แต่ไม่ใช่แค่นั้นเพราะชาเขียวยังช่วยลดระดับน้ำตาลและความดันเลือดให้ลงมาเป็นปกติได้
พร้อมช่วยย่อยอาหาร ล้างสารพิษ และช่วยให้เม็ดเลือดขาวสร้างตัว
ทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม
ในชาเขียวก็มีคาเฟอีนอยู่ไม่น้อย ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าคาเฟอีนจะไปกระตุ้นการหลั่งสารอะดรีนาลิน
ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น
ซึ่งก็จะทำให้บางคนที่ดื่มชาเขียวมากเกินไปอาจมีอาการใจสั่นได้เหมือนกัน จึงควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม
ไม่เกินวันละ 3 ถ้วย ที่สำคัญคือ ควรดื่มชาเขียวแบบชง
ไม่ใช่แบบสำเร็จรูปสะดวกซื้อซึ่งผสมน้ำตาลเยอะ และมีปริมาณชาเขียวที่เจือจาง
ทานแล้วเสี่ยงต่อโรคอ้วนมากกว่าจะช่วยดูแลหัวใจ
นอกจากที่ได้กล่าวไปแล้ว
ยังมีสมุนไพรหาง่ายอีกมากมายที่นิยมนำดอกมาทำเป็นยาหอมไว้ชงกินบำรุงหัวใจ เช่น
พิกุล กระดังงา มะลิลา และกุหลาบมอญหรือดอกยี่สุ่น เป็นต้น
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น