วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2566

อึ้ง!นายทุนรุกป่าสงวนฯ 53 ไร่ สร้างบ้านพักกลางป่า โค่นไม้ใหญ่มากกว่า 500 ต้น เจ้าหน้าที่ยึดคืนทั้งหมดพร้อมแจ้งความดำเนินคดีจนถึงที่สุด

 



วันที่ 14 มีนาคม 2566 พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปทส.สั่งการให้ ร.ต.ต.วสุอนันต์ สารพันธ์ รอง สส.กก 4 บก.ปทส. หัวชุดสายที่ 1 ลำปาง ประสานงาน นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง ผู้อำนวยการศูนย์ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ นายจิตกร ศรีจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและป้องกันไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง นายถนอม โพธิ์วิจิตร หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้แม่เมาะและหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.13(แม่เมาะ) นายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ)  สนธิเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้ จังหวัดลำปาง ผู้ใหญ่บ้านบ้านสบป้าด  หมู่ 1 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ รวมกำลังกว่า 30 นาย





เข้าตรวจสอบ เรื่องร้องเรียนไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ตร.บก.ปทส. ว่ามีกลุ่มนายทุน เข้าไปจับจองพื้นที่ป่า และนำรถแบ็คโฮจำนวน 2 คัน เข้าไปโค่นล้มต้นไม้ยืนต้นมากกว่า 500 ต้น ล้อมรั้วเข้าครอบครองที่ดิน ส่วนไม้ที่โค่นล้มบางส่วนแปรรูปสร้างกระท่อมที่พัก ขนย้ายออกพื้นที่ บางส่วนที่ขนย้ายไม่ไหวก็ให้รถแบ็คโฮตักเอามากองรวมกัน บางส่วนดันลงช่องเขาลำห้วย ทำให้ผืนป่าเสียหายเป็นจำนวนมาก





เหตุเกิดที่ป่าท้ายหมู่บ้านทางด้านทิศใต้ บ้านสบป้าด หมู่ 1 ต.สบป้าด โดยกำลังเจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบทันที ซึ่งต้องขับรถผ่านกลางหมู่บ้านและลัดเลาะลำห้วยไปอีกกว่า 3 กิโลเมตร จนไปถึงจุดที่รับแจ้ง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบมีการบุกรุกแผ้วถางป่า โค่นต้นไม้ เป็นบริเวณกว้าง ที่น่าตกใจเพราะการโค่นผืนป่าครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตรวจพบมานานกว่า 10 ปีแล้ว ที่นำเครื่องจักรเข้ามาแผ้วถางป่า ส่วนเครื่องจักรคาดว่าทางเจ้าของพื้นที่ได้ขนย้ายก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพื้นที่พบว่าอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จางฝั่งซ้าย มีต้นไม้ถูกโค่นจำนวนมาก พบกระท่อมสร้างใหม่ 1 หลัง เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่องรอยมีผู้อาศัยและหลบหนีก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึง เพราะยังทิ้งปืนแก๊ปไว้ในกระท่อมเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดทันที



นายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) พื้นป่าแห่งนี้ถูกบุกรุกแผ้วถางใหม่เพราะตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมย้อนหลัง พบว่าก่อนหน้านี้ยังเป็นสภาพป่าที่สมบูรณ์ แต่วันนี้กลายเป็นพื้นที่ถูกบุกรุกและถางป่าทั้งหมด หากเป็นชาวบ้านธรรมดา คงไม่สามารถเข้ามาดำเนินการได้ขนาดนี้ ซึ่งต้องเป็นนายทุนเท่านั้นที่สามารถทำได้ เพราะหวังประสงค์ที่จะครอบครองพื้นที่เท่านั้นเพราะไม้ที่โค่นล้มส่วนใหญ่เป็นไม้ห้วงหาม แต่กลับไม่มีการตัดทอนออกไปหรือแปรรูป  แต่เอามากองรวมกันเพื่อที่จะรอเผาทำลาย ซึ่งพฤติกรรมรุกป่าแบบนี้ไม่พบเจอมานานกว่า 10 ปีแล้ว จึงต้องดำเนินการจนถึงที่สุด

ร.ต.ต.วสุอนันต์ สารพันธ์ รอง สส.กก 4 บก.ปทส. หัวชุดสายที่ 1 ลำปาง สนธิเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้ จังหวัดลำปาง เบื้องต้นตามที่ได้รับการร้องเรียนมานั้นผู้ร้องระบุแค่เพียงนายทุนและนักการเมืองท้องถิ่น ที่เข้ามาบุกรุกแผ้วถางป่า แต่ไม่ได้ระบุชื่อบุคคลซึ่งจะต้องทำการสืบสวนต่อไปว่ามีใครมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้





ด้านนายจิตกร ศรีจันทร์ ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและป้องกันไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง กล่าวว่า พื้นที่ถูกบุกรุกแห่งนี้ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฏหมายอย่างชัดเจน ซึ่งจะได้ดำเนินคดีจนถึงที่สุดและสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาให้ได้ ในเบื้องต้นได้ทำการตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมดมี 5 แปลง พื้นที่ถูกบุกรุกกว่า 53 ไร่ รวมค่าเสียหายของรัฐ เป็นเงิน 3,548,699 บาท  ส่วนของกลางไม้หวงห้ามพบว่ามีจำนวนมาก จะต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทั่วลำปาง เข้ามาดำเนินการตรวจยึดของกลางทั้งหมดคาดว่าใช้เวลาประมาณ 3-4 วันจึงจะขนย้ายของกลางทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้

เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาหลาย พ.ร.บ.  ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ  พ.ศ. 2507  พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ  ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่เมาะ ดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายต่อไป

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์