เมื่อเวลาประมาณ 15.20 น.วันที่ 4 เมษายน 2566 ขณะที่ ร.ต.ต.ธานินทร์ จะวะนะ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลพิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักชนต้นไม้และเสาไฟฟ้าของทางราชการเสียหาย บริเวณปากทางเข้าหมู่บ้านสันติสุข หมู่ 15 ต.พิชัย จากนั้นจึงรุดไปตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยลำปาง
ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าสีขาว หมายเลขทะเบียน 2ฒฐ 603 กรุงเทพฯ ติดคอกเหล็กด้านหลัง สภาพยางหลังขวาระเบิด พลิกคว่ำหงายท้องล้อชี้ฟ้า คาอยู่กับต้นไม้และเสาไฟฟ้าอยู่ก่อนถึงปากทางเข้าหมู่บ้านสันติสุข ขาเข้าเมืองลำปาง โดยด้านหลังมีไม้ท่อนตกเกลื่อนในที่เกิดเหตุจำนวน 8 ท่อน ภายในรถไม่พบมีคนขับและผู้โดยสารแต่อย่างใด
ต่อมา พ.ต.ท.วิเชียร ใจสันกลาง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองลำปาง ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุร่วมกับนายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจ ศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ จ.ลำปาง สำนักจัดทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 จนท.หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ลป.10( บ้านแลง ) ตร.กก.4 บก.ปทส.สายที่ 1 มาตรวจสอบไม้ดังกล่าวด้วย เบื้องต้นพบว่าไม้ประดู่ ซึ่งเป็นไม้หวงห้าม มีลักษณะเป็นไม้เก่ายังไม่ผ่านการปลูกสร้าง แต่ได้มีตะปูตอกอำพรางไว้ ให้ดูเหมือนใช้งานแล้ว แต่ผิดสังเกตุคือ ตะปูยังใหม่ไม่มีสนิม
สอบถามชาวบ้านใกล้เคียง เล่าให้ทางเจ้าหน้าที่ฟังว่า ก่อนหน้านั้นได้ยินเสียงดังโครมบริเวณถนนหน้าบ้าน จึงรีบออกมาดู และพบว่ามีรถได้ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำไม้ตกเกลื่อน จากนั้นเห็นชาย 2 คน สูงอายุ 1 คน และวัยรุ่น 1 คน ได้พากันคลานออกจากรถ ก่อนจะเดินหลบหนีเข้าไปในหมู่บ้านสันติสุข ซึ่งอาจกลัวความผิดจึงหลบหนีไปก่อน โดยทางเจ้าหน้าที่จะได้ติดตามหาตัวอีกครั้งต่อไป
ส่วนไม้ท่อนดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะได้ทำการเก็บรักษาเอาไว้ ที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ ลป.10( บ้านแลง ) ก่อนจะตามหาตัวเจ้าของมาสอบสวนและดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
นายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจ ศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ไม่ลักษณะนี้เป็นที่ต้องการของกลุ่มค้าไม้เถื่อนอย่างมากมีออเดอร์เข้ามาตลอด โดยกลุ่มมอดไม้จะเข้าไปในป่ากานต้นไม้ให้ยืนต้นตายจากนั้น ตัดและทิ้งไว้ในป่าให้ไม้คงสภาพกลายเป็นไม้เก่า แล้วมาอำพรางผสมกับไม่เรือนเก่าเวลาขนย้ายไปส่งตามออเดอร์ที่สั่งส่วนใหญ่จะเป็นไม้เนื้อแข็งไม้ประดู่ มะค่าโมง ชิงชันฯซึ่งมีการปรับรูปแบบในการลักลอบขนไม้เถื่อนมาอย่างต่อเนื่อง
และครั้งนี้อำพรางด้วยการใช้รถยนต์กระบะคอกบรรทุกแล้วคลุมด้วยสแลมมิดชิดเพื่ออำพรางอีกทั้งใช้เวลาบ่ายแก่ๆในการขนย้ายเพราะง่ายต่อการเลี่ยงด่านตรวจจุดตรวจต่างเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดแต่ครั้งนี้ดวงไม่ดียางมาระเบิดเสียก่อนจึงถูกตรวจยึดได้ซึ่งจะเร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น