พื้นที่
เขต 2
จ.ลำปาง เรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันกันของ 2 ตระกูลดังทางด้านการเมือง ระหว่าง “พยัคฆบุตร”
และ “โล่ห์สุนทร” ซึ่งต่างเป็นอดีต
ส.ส.ของพรรคเพื่อไทยกันทั้งคู่
พรรคเพื่อไทย
ส่ง “ธนาธร โล่ห์สุนทร” อดีต ส.ส.ลำปาง 1 สมัย มีฐานเสียงสมาชิกพรรคหนาแน่น ทั้งมีคุณพ่อ ไพโรจน์ โล่ห์สุนทร อดีต ส.ส.เขต2
และพี่สาว นายกฯ ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร
อบจ.ลำปาง สร้างฐานคะแนนไว้ทุกอำเภอ
และคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว คงจะหนีไม่พ้น ต่อง"ภาวัฒน์
พยัคฆบุตร" พรรคไทยสร้างไทย ทายาท
อดีต สส.วาสิต พยัคฆบุตร และนางประภาศรี พยัคฆบุตร อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแจ้ห่ม 3 สมัย และมีฐานเสียงเขต 2 ของพ่อฝังลึกมาหลายสมัย ซึ่งผลอาจจะพลิกล๊อคได้
เมื่อมีโอกาสได้พูดคุยกับ “ภาวัฒน์
พยัคฆบุตร” ถึงแนวนโยบายและความมั่นใจในการลงสมัครครั้งนี้ ภาวัฒน์ เล่าว่า ตนเองไปเรียนที่ต่างประเทศ และเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นระยะหนึ่ง
ได้เห็นความเป็นอยู่ของคนที่นั่นมีคุณภาพชีวิตทีดี เมื่อเทียบกับประเทศไทยมีทรัพยากรที่ดี
คนไทยมีอัธยาศัยดี แต่เสียโอกาสในหลายเรื่อง จึงอยากกลับมาพัฒนาบ้านเกิด จ.ลำปาง ตอนนี้มีความพร้อม เลยตัดสินใจลงสมัครในครั้งนี้
นายภาวัฒน์
กล่าวต่อไปว่า การลงสมัครพรรคไทยสร้างไทย เนื่องจากได้สัมผัสกับคุณหญิงสุดารัตน์ เห็นว่านโยบายทำได้จริง
โดยเฉพาะผลงาน 30 บาทรักษาทุกโรคที่เคยทำมาตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทย
รวมทั้ง บำนาญประชาชน 3,000 บาท เป็นนโยบายเหมือนต่างประเทศที่มีบำนาญให้ประชาชนที่จ่ายภาษี เป็นการเข้าถึงประชาชนได้อย่างดี ซึ่งตอนนี้กฎหมายรออยู่ในสภาฯแล้ว
เหลือเพียงผ่านการเลือกตั้ง
ส.ส.เข้าไปในสภา และรอการอนุมัติเท่านั้น
การเป็น
‘พยัคฆบุตร’ มีส่วนช่วยอย่างไร? นายภาวัฒน์
กล่าวว่า ช่วยได้อย่างมาก
ชาวบ้านจำได้ เป็นข้อดีที่สามารถลงพื้นที่เข้ากับชาวบ้านได้เป็นอย่างดี เพราะครอบครัวของเราก็ลงพื้นที่มายาวนานหลาย 10 ปี คุณพ่อมีส่วนช่วยในการแนะนำว่าทำอย่างไร
เป็นกุนซือให้ในทุกๆเรื่อง แม้ว่าคุณพ่อจะมีผลงานที่เคยทำมาเยอะมาก แต่เราก็ไม่ได้นำไปกล่าวอ้างถึง เพราะอยากให้ชาวบ้านได้เห็นว่าตนมีความพยายามลงพื้นที่ด้วยตัวเองจริงๆ
เมื่อถามถึงคู่แข่งรายสำคัญอย่างพรรคเพื่อไทย ภาวัฒน์ เปิดเผยว่า ในช่วงแรก ค่อนข้างลำบากใจอยู่
เพราะมองว่าเราเป็นฐานเสียงเดียวกัน แต่เราอาศัยการเป็นคนในพื้นที่แท้จริง
ได้คลุกคลีกับชาวบ้านมาตั้งแต่เด็ก
แม้จะเรียนจบจากต่างประเทศแต่ก็อยากกลับมาพัฒนาบ้านเกิด
อยู่บ้านเราก็อุ่นใจกว่าอยู่ที่อื่น ต้องขอโอกาสจากชาวบ้าน
คนบ้านเดียวกัน ให้ตนได้เข้าไปทำงานพัฒนา ในระยะเวลา 4 ปี ขอความเมตตาจากพ่อแม่พี่น้อง
ที่เห็นเราอยู่ในพื้นที่มาโดยตลอด
ที่สำคัญคือ
ยุคสมัยนี้กลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น มีความกล้าคิดกล้าทำ
หลายประเทศมีนายกรัฐมนตรีอายุราว 40
กว่าปี อยากให้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ด้วย
แต่ตนเองก็จะไม่ทิ้งคนรุ่นเก่า ซึ่งจะเป็นคนที่ให้คำแนะนำเราได้เป็นอย่างดี
สำหรับแนวคิดจะเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่
ต้องยอมรับว่ากระแสจะมาแรงไม่เท่าพรรคที่ก่อตั้งมานาน
เพราะพรรคไทยสร้างไทยเป็นพรรคใหม่ที่ก่อตั้งมาได้ไม่นาน และในพื้นที่เขต 2 สัดส่วนของคนรุ่นใหม่ อาจจะไม่มากเท่ากับวัยกลางคนหรือสูงอายุ ตนจึงมองว่าสิ่งที่จะเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้จะต้องเน้นการเล่นกีฬา
สนับสนุนกีฬา ส่งเสริมการศึกษา และส่งเสริมด้านอาชีพ เท่าที่ได้ศึกษาดูพื้นที่ คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่จะไปทำงานอยู่ต่างจังหวัดกันมาก จึงอยากเน้นการสร้างอาชีพให้คนรุ่นใหม่ กลับมาทำงานอยู่ที่บ้าน จ.ลำปางมีความโดนเด่นด้านการเกษตร การค้าขายออนไลน์ฯลฯ
จะต้องสร้างรากฐานไว้ให้ได้ เพราะทุกวันนี้งานมีไม่เพียงพอที่จะรองรับคนกลุ่มนี้
ภาวัฒน์
ได้ยังได้ฝากถึงชาวลำปาง ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 นี้ อยากจะขอเชิญชวนทุกคนที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง
ให้ออกมาใช้สิทธิ์กันให้มาก โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนที่ช่วยผลักดันให้การเมืองดียิ่งขึ้น การเมืองไม่ใช่ของใครคนหนึ่ง ทุกคนมีสิทธิ์มีเสียงเท่าเทียมกัน
ขอให้ออกมาช่วยกันพัฒนาบ้านเมืองของเรา มาใช้สิทธิ์กันให้มากที่สุด
สำหรับพื้นที่เขต
2 จ.ลำปาง ประกอบด้วย อ.เมืองลำปาง
เฉพาะ ต.บ้านแลง และต.บ้านเสด็จ อ.งาว
อ.แจ้ห่ม อ.วังเหนือ และ อ.เมืองปาน นอกจาก 2 ตระกูลดังแล้ว
ยังมีผู้สมัครที่น่าลุ้น อย่าง "จินดา วงศ์สวัสดิ์" อดีต ส.ส.ลำปาง จากพรรคพลังประชารัฐ ที่ออกพบปะชาวบ้านมาเกือบ 2 เดือน
และพรรคก้าวไกล ที่ส่ง "กฤตภพ
สติดีนิติวงค์" คนอำเภอวังเหนือ มีฐานเสียงคะแนนบริสุทธิ์เทให้จากคนรุ่นใหม่
นักศึกษา คนหนุ่มสาวอยู่ไม่น้อย ซึ่งเลือกตั้งที่ผ่านมาคนของอนาคตใหม่
ได้คะแนนไปกว่า 2 หมื่นคะแนน
ก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็นพรรคก้าวไกล
"ดลนรุตม์
ชาญเศรษฐีนนท์" พรรครวมไทยสร้างชาติ อดีต
นายกเทศมนตรีตำบลหลวงใต้ อ.งาว ลูกนักธุรกิจใหญ่และกว้างขวาง อ.งาว มีฐานคะแนนฝังอยู่ในหลายอำเภอ
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ “กัญญารัตน์ วงศ์วรกุลกิ” ยื้อแย่งคะแนนจากหนุ่มสาวไปได้ส่วนหนึ่ง และ “ฐานศักดิ์ ศรีพงษ์ใหญ่” จากพรรคภูมิใจไทย ก็น่าจับตามองไม่น้อย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น