สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ จ.ลำปาง เข้ายื่นหนังสือผู้ว่าฯ เร่งแก้ไขปัญหากรณีทหารและป่าไม้ตรวจยึดพื้นที่ทำกินของชาวบ้านกว่า 359 ไร่

 

          เมื่อเวลาประมาณ 10.15 น. วันที่ 25 เม.ย.66 สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ จ.ลำปาง นำโดย นายสมชาติ รักสองพลู ผู้ใหญ่บ้านกลาง  นำชาวบ้านจาก 2 อำเภอ ประกอบด้วย บ้านห้วยตาด ม.4 ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ  และ บ้านแม่หมี ต.หัวเมือง อ.เมืองปาน  ประมาณ 100 คน เดินทางไปศาลากลางจังหวัดลำปาง เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง  กอ.รมน.จ.ลำปาง และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง  ขอให้เร่งรัดการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน จากการยึดคืนพื้นที่ทำกินของชุมชนบ้านห้วยตาด ม.4 ต.บ้านดง  ทั้งหมด 40 ครัวเรือน  359 ไร่ 59 แปลง  ส่วนบ้านแม่หมี ต.หัวเมือง อ.เมืองปาน  ได้มีการถูกยึกคืนพื้นที่ด้วยเช่นกัน ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าได้ทำกินมาก่อนการประกาศเป็นพื้นที่อุทยานฯแล้ว  

          สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 มี.ค.66  ได้มีหน่วยเฉพาะกิจค่ายประตูผา และหน่วยป่าไม้ท่าสี (ลำปาง3) ได้สนธิกำลังเข้ายึดที่ดินทำกินของชาวบ้านทั้งหมด 359 ไร่ 59 แปลง  ซึ่งเป็นที่ทำกินของชาวบ้านดั้งเดิมเป็นไร่หมุนเวียน ชาวบ้านโดยส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม และมีพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ โดยการขอใช้ประโยชน์ของกองทัพบก ซึ่งมีค่ายฝึกรบพิเศษประตูผา เป็นผู้รับผิดชอบดูแลพื้นที่และอยู่ร่วมกับชุมชนมาด้วยดีโดยมีการกันพื้นที่ทำกินให้กับชาวบ้านชุมชนห้วยตาด ได้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมมาโดยตลอด

 แต่เมื่อวันที่ 7 มี.ค. 66 ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้แม่เมาะ และทหารค่ายประตูผา ได้เข้ามาในหมู่บ้านและแจ้งในที่ประชุม ชี้แจงเกี่ยวกับพื้นที่ของทหารและพื้นที่ทำกินที่ได้มีการรุกล้ำขอบเขต  และเข้าทำการยึดพื้นที่  โดยมีการกดดันให้ชาวบ้านเซ็นเอกสารยินยอมคืนพื้นที่ทำกินให้  ส่งผลให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถทำการเกษตรได้  โดยที่ผ่านมาได้มีการยื่นหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วแต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ 

          ต่อมา นายชนาธิป เสมแย้ม รองผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมด้วยนายสุรชัย แสงสิริ ผอ.ทสจ.ลำปาง  และตัวแทนจาก กอ.รมน. ได้ลงมาพบกับชาวบ้านและรับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว  พร้อมรับจะดำเนินการให้อย่างเร็วที่สุด  ทั้งนี้ ทางกลุ่มชาวบ้าน ได้มีการยื่นร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม อ.แม่เมาะ และศูนย์ดำรงธรรม จ.ลำปาง ไปแล้วเมื่อวันที่ 10 เม.ย.66 ที่ผ่านมา  และได้มายื่นเรื่องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางโดยตรงอีกครั้งดังกล่าว