พรรคก้าวไกล มีนโยบายที่น่าสนใจและเคยมีการนำเสนอออกมาก่อนหน้านี้ ทั้งนโยบายด้านการเมือง สังคม เศรษฐกิจ และสวัสดิการประชาชน อาทิ
การร่างรธน.ใหม่ทั้งฉบับ มีเนื้อหาที่ครอบคลุมอย่างน้อย 3 ด้าน ปิดช่องรัฐประหารเพิ่มสิทธิของประชาชนในการต่อต้านรัฐประหาร และกำหนดให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะรัฐประหาร ห้ามศาลทั้งปวงรับรองรัฐประหาร และกำหนดให้ทุกสถาบันทางการเมืองมีหน้าที่ร่วมกันในการปกป้องประชาธิปไตยห้ามนิรโทษกรรมคณะรัฐประหาร และเปิดช่องให้ประชาชนดำเนินคดีกับผู้ก่อรัฐประหารในความผิดฐานกบฎได้ เป็นต้น
เอาทหารออกจากการเมือง
แจกใบแดงนายพลให้ห้ามดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเวลา 7 ปี หลังออกจากราชการ
เพื่อไม่ให้เกิดการแทรกแซงการเมืองโดยกองทัพ หรือโดยอดีตนายพลที่ยังคงมีสายสัมพันธ์ในกองทัพ
(ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับที่สหรัฐอเมริกาใช้สำหรับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม)
คืนที่ดินกองทัพให้ประชาชน โอนการถือครองที่ดินกองทัพ (โดยเฉพาะค่ายทหารที่มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่น้อยลงจากการลดขนาดกองทัพ) กลับมาเป็นของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เพื่อให้การจัดสรรที่ดินเป็นประโยชน์แก่ประชาชนส่วนใหญ่ (เช่น ที่พักอาศัยใจกลางเมือง ที่ดินเพื่อการเกษตร ตลาด สวนสาธารณะ)
ขายเหล้าได้ตลอดวัน
ยกเลิกการห้ามขายเหล้า-ฆ่าสัตว์ในวันพระ
-
ยกเลิกการกำหนดระยะเวลาห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ประชาชนสามารถซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ตลอด
24 ชั่วโมง
-
ยกเลิกกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการจำกัดสิทธิของประชาชนโดยเหตุผลแห่งศาสนา เช่น
การห้ามขายสุราในวันสำคัญทางพุทธศาสนา และการห้ามฆ่าสัตว์ใหญ่ในวันพระ
-
การยกเลิกกฎกระทรวงดังกล่าวเป็นเพียงการยกเลิกกฎหมายที่จำกัดสิทธิของประชาชน
ผู้ประกอบการยังมีสิทธิเลือกที่จะไม่ขายสุรา ไม่ฆ่าสัตว์ในวันพระได้
ไม่ได้เป็นการบังคับให้ผู้ประกอบการต้องขายสุราหรือฆ่าสัตว์ในวันพระ ดูน้อยลง
เงินคนพิการเดือนละ 3,000 บาท
- เพิ่มเบี้ยคนพิการให้เป็นอัตราเดียวถ้วนหน้า
เดือนละ 3,000 บาท จากเดิมที่มีการจัดสรรเบี้ยยังชีพคนพิการในอัตราสูงสุดเพียง
1,000 บาทต่อเดือน ซึ่งต่ำกว่าเส้นความยากจน
และเป็นรายได้ที่ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ ดูน้อยลง
ของขวัญแรกเกิด
3,000 บาท ซื้อของเลี้ยงลูก
- แจกคูปองให้พ่อแม่ของเด็กเกิดใหม่
มูลค่า 3,000 บาท เพื่อนำไปแลกซื้อสิ่งของสำหรับพัฒนาการเด็ก
จากรายการสินค้าที่มีให้เลือกจำนวนมาก เช่น อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงเด็ก
อุปกรณ์พัฒนาทักษะ หนังสือนิทาน ดูน้อยลง
ปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทุกปี
เริ่มทันทีวันละ 450 บาท
- ปรับระบบค่าแรงขั้นต่ำให้มีการปรับขึ้นทุกปีตามค่าครองชีพและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
เพื่อให้แรงงานได้ร่วมแบ่งปันผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมจากการเติบโตของเศรษฐกิจ
และเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนธุรกิจของตัวเองในแต่ละปีได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
-
เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำให้เริ่มต้นที่วันละ 450 บาท
เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อและดัชนีค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นทุกปีจนถึงปัจจุบัน
ตั้งแต่สมัยที่ค่าแรง 300 บาทต่อวัน ถูกประกาศใช้เมื่อปี 2554
-
แบ่งเบาภาระค่าแรงที่สูงขึ้นสำหรับ SME ในช่วง 6
เดือนแรก โดยการที่รัฐช่วยสมทบค่าประกันสังคมในส่วนของผู้ว่าจ้าง
สำหรับแรงงานที่ถูกกระทบโดยการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ดูน้อยลง
ทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์ หากเกิน ต้องได้ OT
-
กำหนดให้ต้องมีชั่วโมงการทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมง สำหรับงานทั่วไป และไม่เกิน 35
ชั่วโมง สำหรับงานอันตราย
-
กำหนดให้มีวันหยุดประจำสัปดาห์อย่างน้อย 2 วันต่อสัปดาห์
และวันหยุดพักผ่อนประจำปีอย่างน้อย 10 วันทำงานต่อปี ดูน้อยลง
ประกันสังคมถ้วนหน้า
เจ็บป่วยได้เงินชดเชย-ค่าเดินทางหาหมอ
-
นำประชาชนวัยแรงงานทุกคนที่ยังไม่ได้เข้าระบบประกันสังคม (แรงงานนอกระบบ)
เข้ามาสู่ระบบประกันสังคมถ้วนหน้า ด้วยการสมทบวันละ 1 บาท
โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากการเพิ่มงบประมาณจากการสมทบของภาครัฐ
-
หากจำเป็นต้องลาพบแพทย์: ได้รับค่าชดเชยรายได้ 200 บาทต่อวัน
และได้ค่าเดินทางพบแพทย์ 100 บาทต่อวัน
-หากลาคลอด:
ได้รับเงินชดเชยรายได้ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 6 เดือน
-หากจำเป็นต้องหยุดงาน
(เช่น หยุดตามประกาศของรัฐบาล): ได้รับเงินชดเชยรายได้ 200 บาทต่อวัน ไม่เกิน 25
วันต่อปี
-หากเสียชีวิต:
ได้รับค่าฌาปนกิจสงเคราะห์ 10,000 บาท
-
ยกเว้นเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมสำหรับประชาชนที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์
โดยรัฐจะสมทบฝ่ายเดียว ดูน้อยลง
บ้านตั้งตัว 350,000 หลัง รัฐช่วยผ่อน-เช่า
-
รัฐบาลช่วยค่าผ่อนบ้าน สำหรับผู้ซื้อบ้าน-ที่พักอาศัยใหม่เป็นหลังแรก จำนวน
100,000 ราย ในอัตรา 2,500 บาท/เดือน เป็นระยะเวลา 30 ปี
สำหรับบ้าน-ที่พักอาศัยราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท
-
รัฐบาลช่วยค่าเช่าบ้าน-ห้องพัก สำหรับผู้เช่าบ้าน-หอพัก จำนวน 250,000 ราย ในอัตรา 1,000 บาท/เดือน
สำหรับบ้านเช่า-ห้องเช่าที่มีราคาไม่เกิน 4,000 บาท/เดือน
ที่มา โพสต์ดูเดย์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น