วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

กฟผ.แม่เมาะ ร่วมกับจังหวัดลำปาง จัดพิธีวางพวงมาลาถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต



 

          เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ ร่วมกับจังหวัดลำปาง จัดพิธีวางพวงมาลาถวายบังคมพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทิตา รำลึกถึงพระเมตตาคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ     อันล้นพ้นไพศาลของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจในการทำนุบำรุงประเทศชาติ และทรงตรากตรำเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้รับความสุขสบายตลอดรัชสมัย โดยมี นายจำลักษ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดลำปาง หน่วยงานภาครัฐและเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงาน กฟผ.แม่เมาะ เข้าร่วมประกอบพิธีบริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ สวนพฤกษชาติ กฟผ. แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง







          ภายหลังวางพวงมาลาฯ แล้วเสร็จ ผู้ร่วมงานได้ตั้งแถวบริเวณด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้น นายประจวบ ดอนคำมูล ผู้ช่วยผู้ว่าการเหมืองแม่เมาะ (ชชม.) ประธานในพิธี จุดธูปเทียนสักการะ (เครื่องทองน้อย) และกล่าวถวายราชสดุดีพระเกียรติคุณพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว

          โดยใจความตอนหนึ่งระบุว่า ในส่วนของกิจการพลังงานทรงมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้สงวนแหล่งถ่านลิกไนต์ ณ อำเภอแม่เมาะ จ.ลำปาง และที่อื่นๆ ในประเทศไว้ให้รัฐดำเนินกิจการเพื่อเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2470 ดังตอนหนึ่งในพระบรมราชโองการที่ความว่า  “ฉันเห็นว่าถึงเวลาอันสมควรที่จะดำริรวบรวมบ่อถ่านศิลาในพระราชอาณาจักรไว้สำหรับรัฐบาลทำเอง เพราะจะเป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองต่อไปหาน้อยไม่ เพราะฉะนั้นต่อไปให้สงวนบ่อถ่านศิลาที่บ้านดอน ที่แขวงเมืองกระบี่ และที่แม่เมาะไว้สำหรับรัฐบาลตรวจทำ ถ้ามีผู้ใดมาขอประทานบัตรหรือสิทธิใดๆ ในเขตทั้งหลายที่กล่าวแล้วจงแจ้งให้ทราบว่า เป็นที่ๆ รัฐบาลสงวนไว้ใช้ราชการ”

          ทั้งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นการสงวนทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่าของประเทศไว้ และนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของประเทศ จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 96 ปีแล้ว ที่ได้สงวนแหล่งถ่านหินที่มีอยู่ในประเทศไว้ใช้ในราชการเท่านั้น และประเทศไทยได้นำถ่านหินลิกไนต์มาใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน





         ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และเพื่อเทิดพระเกียรติ รวมถึงแสดงออกถึงความจงรักภักดี ความกตัญญูกตเวทิตา กฟผ. แม่เมาะ จึงได้จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ท่าน ประดิษฐานในสวนพฤกษชาติ กฟผ.แม่เมาะ เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงาน และประชาชนทั่วไปได้เคารพสักการะ ขณะเดียวกัน ยังได้จัดพิธีวางพวงมาลาถวายบังคมเป็นประจำทุกปีในวันที่ 30 พฤษภาคม เนื่องในวันคล้ายวันเสด็จสวรรคตด้วย

          สำหรับพระบรมราชานุสาวรีย์นี้มีขนาด 2 เท่าของพระองค์จริง พระราชอิริยาบถอยู่ในท่าประทับนั่งบนพระเก้าอี้ฉลองพระองค์ชุดลำลอง มีความสูง 2.55 เมตร กว้าง 1.5 เมตร หล่อด้วยสำริด ด้านหน้าหันไปทางทิศเหนือ ที่แท่นประดิษฐานมีแผ่นทองเหลืองจารึกพระราชหัตเลขาของพระองค์ที่ทรงให้สงวนแหล่งถ่านหิน   ติดตั้งอยู่ ส่วนด้านหลังติดแผ่นทองเหลือคำจารึกเทิดพระเกียรติ

          การก่อสร้างดังกล่าวเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2535 ขออนุญาตผ่านกรมศิลปากร ไปยังคณะกรรมการควบคุมการก่อสร้างอนุสาวรีย์ เพื่อนำเสนอไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ขอพระราชทานพระบรม ราชานุญาต กระทั่งได้รับพระบรมราชานุญาตให้ดำเนินการได้เมื่อปี 2536 โดย กฟผ. ได้ว่าจ้างกรมศิลปากร เป็นผู้ดำเนินการ ใช้ระยะเวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์