วันจันทร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

ปิดตำนานเสือใต้ ‘จันทรสุรินทร์’


 

            ไม่เพียงแต่ สนามเลือกตั้งชลบุรี ที่ทำเอาคนในตระกูล คุณปลื้ม สะอื้นไห้ เขต 28 กทม.ที่ ไอซ์ รักชนก ศรีนอก พรรคก้าวไกล ล้มยักษ์ วัน อยู่บำรุง พรรคเพื่อไทย รวมทั้งวณิชชา ม่วงศิริ ตระกูลเก่าแก่ทางการเมือง และอีกหลายจังหวัด ที่บ้านใหญ่ไปไม่ถึงดวงดาว หากทอดสายตามองมาที่ลำปางถิ่นเสือใต้ อย่างตระกูล จันทรสุรินทร์ ที่พลิกพ่ายให้กับนักการเมืองหน้าใหม่ ด้วยคะแนนทิ้งห่างชนิดไม่เห็นฝุ่น ก็นับเป็นอวสานบ้านใหญ่ ที่ลำปางด้วย

 

            พินิจ จันทรสุรินทร์ ซึ่งวันนี้ อายุ 86 ปีแล้ว คงเป็นการลงเลือกตั้งครั้งสุดท้าย ความปราชัยของเขาทั้งในเขต 4 พ่วงเอา จรัสฤทธิ์ จันทรสุรินทร์ เขต 3 ไปด้วย จะไม่เรียกว่าเป็นการปิดตำนาน จันทรสุรินทร์ อย่างไรได้ และหากมองในมิติของพรรคเพื่อไทย ที่ยึดครองพื้นที่นี้มายาวนาน ความปราชัยของ กิตติกร โล่ห์สุนทร ในเขต 1 หรือชัยชนะที่ชวนหวั่นไหวของ ธนาธร โล่ห์สุนทร ในเขต 2 ก็มีนัยสำคัญที่บอกว่า การเมืองที่อาศัยเพียงบารมี หรือเพียงกินบุญเก่า อาจถึงเวลาต้องทบทวนใหม่แล้ว มิฉะนั้น อดีตอันเรืองรองของพรรคเพื่อไทย ก็จะกลายเป็นอดีตไปตลอดกาล

 

            ผู้คนต้องการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน นี่เป็นกระแสที่สะท้อนจากความจริงใจ ชัดเจน ตรงไปตรงมา ของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กระแสนี้มีแรงส่งมาถึง ทิพา ปวีณาเสถียร ที่เขต 1 ชลธานี เชื้อน้อย เขต 3ภัสสรณ์ นิยะโมสถ แม่เสือสาวที่สยบเสือเฒ่าที่เขต 4 และอาจรวมถึง กฤตภพ สติดีนิติวงศ์ ที่ไล่บี้ ธนาธร โล่ห์สุนทร ที่เขต 2 ด้วย

 

            ชัยชนะของพรรคก้าวไกลทั้ง 3 เขต ก็ไม่แตกต่างไปจากชัยชนะของคนก้าวไกลชนิดพลิกความคาดหมายในหลายพื้นที่ คนลำปางก็อาจคิดเหมือนคนในพื้นที่อื่น ที่ต้องการคนใหม่ๆเข้ามาเปลี่ยนแปลงสังคมไทย ที่ตกหล่มโคลนความขัดแย้งและความล้าหลังมาเกือบ 10 ปี

 

            และไม่ใช่เพียงคนรุ่นใหม่ หรือคนชั้นกลางในเมืองเท่านั้น หากดูสัดส่วนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ คะแนนเสียงพรรคก้าวไกล กระจายไปในทุกกลุ่ม ในทุกช่วงวัย หรือแม้แต่ในเขตทหาร ซึ่งก้าวไกลประกาศปฏิรูปกองทัพ เอาทหารออกจากการเมือง ก้าวไกลก็ยังมีคะแนนนำพรรคการเมืองอื่นๆด้วย

 

            คนรุ่นใหม่จากพรรคก้าวไกล ที่มาแทนที่นักการเมืองรุ่นเก่า อาจยังมีภาระการพิสูจน์อีกมาก ซึ่งพวกเขาก็คงต้องทำงานหนัก และร่วมขับเคลื่อนพรรคก้าวไกล ให้เป็นหัวขบวนรถจักรที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน จับต้องได้ แต่คนรุ่นเก่า หรือทายาทนักการเมืองรุ่นเก่า ก็คงได้เห็นโอกาสที่จะยกระดับมาตรฐานความเป็นนักการเมืองยุคใหม่ ที่ต้องมีความกล้าหาญ มีความชัดเจนในแนวทางการเมือง และการกำหนดนโยบาย

 

            การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการต่อสู้ของนักการเมืองในฝ่ายที่เรียกว่าฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกัน ซึ่งหากมองในแง่การต่อสู้ และการแสดงจุดยืนของพรรค พรรคเพื่อไทยมีความต่อเนื่องยาวนานกว่า แต่พรรคเพื่อไทยก็แพ้ พรรคก้าวไกล ซึ่งต้องยอมรับว่าในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในรัฐสภาที่ผ่านมา พวกเขาได้พิสูจน์ให้เห็นความเป็นนักการเมืองอาชีพ ที่มีการทำงานอย่างเป็นระบบ ทำการบ้าน เอาใจใส่ในการทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ไม่ฉาบฉวยเหมือนนักการเมืองฝ่ายค้านรุ่นเก่า

 

            กระจกบานใหญ่ หลังการประกาศผลการเลือกตั้ง น่าจะพอทำให้พรรคเพื่อไทยได้มองเห็นว่า ชัยชนะของคู่แข่ง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือเพียงกระแสที่มาแรงในช่วงโค้งสุดท้าย แต่คุณภาพของคน ความตื่นตัวที่จะพัฒนาตัวเองให้เข้ากับยุคสมัย รู้เท่าทันโลกที่เปลี่ยนไป คือปัจจัยสำคัญที่พรรคก้าวไกลได้ให้บทเรียนนักการเมืองรุ่นเก่าด้วย




Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์