สสจ.ลำปาง เร่งรณรงค์ลดนักสูบบุหรี่ไฟฟ้าหน้าใหม่ หลังพบว่าสถิติมีเยาวชนใช้มากขึ้น และกำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว

 

นายแพทย์นพรัตน์ วัชรขจรกุล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยถึงสถานการณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้ากำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว  โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นในสถาบันการศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาจนถึงระดับอุดมศึกษาว่า มีความห่วงใยเยาวชนจังหวัดลำปางที่อาจได้รับผลกระทบจากบุหรี่ไฟฟ้า จากผลการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเยาวชนไทย โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กองสุขศึกษา ระหว่างวันที่ 25 เมษายน ถึงวันที่ 6 มิถุนายน 2566 มีผู้ตอบแบบสอบถาม จำนวน 61,688 คน พบว่าในภาพรวมของประเทศมีเยาวชนสูบบุหรี่ไฟฟ้าร้อยละ 9.1 ซึ่งสาเหตุของพฤติกรรมดังกล่าวส่วนหนึ่งมาจากการถูกชักชวนให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าจากคนรอบข้าง โดยส่วนใหญ่ถูกชักชวนจากเพื่อนร้อยละ 92.2 รองลงมาถูกชักชวนจากญาติร้อยละ 3.2 และจากคนในครอบครัวร้อยละ 1.6 และในจังหวัดลำปางพบเห็นพฤติกรรมเยาวชนสูบบุหรี่ตามสถานที่สาธารณะ

นายแพทย์นพรัตน์ วัชรขจรกุล

รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีอันตราย เป็นเพียงละอองไอน้ำ มีเพียงสารปรุงแต่งให้มีกลิ่นหอม แต่ในความเป็นจริงไอระเหยของบุหรี่ไฟฟ้าเป็นไอระเหยของสารเคมีที่มีอันตรายจำนวนมาก รวมทั้งสารก่อมะเร็ง และทำให้เกิดภาวะอิวารี่ (EVALI) หรือปอดอักเสบรุนแรงจากควันไอละอองจากฝุ่นขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 จากสารเคมีที่เป็นอันตรายจากน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ที่ใช้สูบ นอกจากนี้บุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ เป็นต้น

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือประชาชน โดยเฉพาะ พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ครู และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเยาวชน ช่วยกันดูแลบุตรหลานและเยาวชนให้ห่างไกลจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า และช่วยกันหยุดการเกิดนักสูบบุหรี่ไฟฟ้าหน้าใหม่ ไม่ชักชวนเพื่อน ญาติ หรือคนในครอบครัวให้ลองสูบบุหรี่ไฟฟ้า เพราะ "บุหรี่ไฟฟ้า มีสารพิษ เสพติด อันตราย”

และผู้ใดพบเห็นการจำหน่าย หรือการบริการบุหรี่ไฟฟ้า บารากู หรือบารากูไฟฟ้า สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน สคบ.1166 ในวันเวลาราชการ และแจ้งผ่านระบบออนไลน์ได้ที่ “ระบบร้องทุกข์ผู้บริโภค” หรือโมบายแอปพลิเคชั่น “OCPB Connect”ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือแจ้ง สถานีตำรวจในท้องที่ที่พบการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อป้องกันการเกิดนักสูบบุหรี่ไฟฟ้าหน้าใหม่เพิ่มขึ้นมาอีก เพราะมีโทษทั้งจำทั้งปรับสูงสุดจำคุกไม่เกิน 10 หรือปรับไม่เกิน 5 แสนบาท