วันอังคารที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2566

Breath4All ลมหายใจเพื่อทุกคน แม่เมาะเมืองน่าอยู่

 


กฟผ.เดินหน้าสร้างเมืองสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ  (Smart Environment)  ติดเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศครอบคลุมทุกชุมชน 

            ปัญหาสิ่งแวดล้อม เป็นปัญหาร่วมที่ทุกประเทศทั่วโลกต่างให้ความสำคัญมากที่สุดในขณะนี้   แม่เมาะเมืองน่าอยู่ ที่กฟผ.แม่เมาะ พัฒนาให้เป็นเมืองน่าอยู่อัจฉริยะ Smart city และหนึ่งในพันธะกิจ คือการนำแนวคิดในด้านสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) มาเป็นหนึ่งในการพัฒนาเมือง   เพื่อให้ชุมชนได้ใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน เพราะถ้าเมืองที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี ก็จะทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้น



กฟผ.แม่เมาะจึงได้นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจัดการกับผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม และสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อย่างเป็นระบบ เช่น การจัดการน้ำ การดูแลสภาพอากาศ การบริหาร จัดการของเสีย  ตลอดจนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ  เป็นสิ่งหนึ่งที่ กฟผ.แม่เมาะให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก

ที่ผ่านมา กฟผ.แม่เมาะ ได้เดินหน้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้เกิดขึ้นในชุมชน ทั้งการสนับสนุนการจัดตั้งป่าชุมชน ซึ่งสามารถผลักดันหมู่บ้านเข้าร่วมโครงการมากกว่า 30% ของหมู่บ้านในอำเภอแม่เมาะ คิดเป็นพื้นที่ป่ามากกว่า 30,000 ไร่ และยังมีการปลูกป่าในพื้นที่ฟื้นฟูสภาพเหมือง รวมแล้วช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) มากกว่า 100,000 ตันต่อปี



ส่วนปัญหาหมอกควันไฟป่า ที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศ มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูแล้ง  ซึ่งส่วนมากจะเกิดจากการเผาวัชพืชและเศษใบไม้แห้งเพื่อเตรียมพื้นที่การเกษตร   กฟผ.แม่เมาะ จึงได้พัฒนาระบบประเมินปริมาณฝุ่นและคุณภาพอากาศจำลองขึ้นมารองรับ รวมถึงมีระบบรายงานข้อมูลผลการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมของ กฟผ. แม่เมาะ แบบออนไลน์ และพัฒนาแอพพลิเคชัน “Lampang Hotspot” รายงานสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าในจังหวัดลำปาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทีมดับไฟป่าใช้ในการเฝ้าระวังพื้นที่เกิดเหตุได้อย่างทันท่วงที  และเพื่อให้ประชาชนได้เตรียมรับมือและปฏิบัติตัวให้เหมาะกับสภาพอากาศ เป็นหนึ่งในแนวทางป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทางด้านสุขภาพของชาวลำปาง



            นับตั้งแต่ปี 2563 กฟผ.ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยการจับมือกับสำนักงานพลังงานจังหวัด (สพจ.) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เดินหน้าแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 เพื่อสร้างอากาศบริสุทธิ์  โดยดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ Sensor ภายใต้โครงการพัฒนาแอปพลิเคชัน Sensor for All ครอบคลุม 76 จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 64 ที่ผ่านมา  โดย จ.ลำปาง ได้มีการติดตั้งไปแล้วในพื้นที่ 9 อำเภอ ทั้งหมด 11 จุด  ประกอบด้วย โรงพยาบาลแม่พริก โรงพยาบาลเถิน สำนักงานสาธารณสุขสบปราบ โรงพยาบาลแม่ทะ สำนักงานพลังงานจังหวัดลำปาง โรงเรียนอนุบาลลำปาง โรงเรียนแม่เมาะวิทยา  รพ.สต.บ้านท่าสี โรงเรียนประชารัฐธรรมคุณ โรงพยาบาลแจ้ห่ม โรงพยาบาลวังเหนือ


            นอกจาก
Sensor for All แล้ว กฟผ.แม่เมาะ ยังมีแนวคิดที่จะทำการติดตั้งอุปกรณ์  Sensor  ให้ครอบคลุมทุกหมู่บ้านในพื้นที่ของ อ.แม่เมาะ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนงานของแม่เมาะเมืองน่าอยู่  หรือ MaeMoh Smart City ด้าน Smart Environment  สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ



            ในเรื่องนี้  เบญจมาศ ก้างแจ๋ม หัวหน้าหมวดส่งเสริมสิ่งแวดล้อม หน่วยพัฒนาโครงการ โครงการแม่เมาะเมืองน่าอยู่  เล่าให้ ลานนาโพสต์ฟังว่า  แต่เดิม กฟผ.ได้ให้ความสำคัญกับคุณภาพอากาศมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มต้นก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้ว โดยมีการติดตั้งเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ ของ กฟผ.เองทั้งหมด 11 เครื่อง เพื่อทำการมอนิเตอร์คุณภาพอากาศโดยรอบโรงไฟฟ้า ไม่ให้เกินค่ามาตรฐาน นอกจากนั้นยังมีเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษอีกจำนวน 3 เครื่อง ติดตั้งกระจายอยู่ใน  3 ตำบลของ อ.แม่เมาะ คือ ต.แม่เมาะ  ต.สบป้าด และ ต.บ้านดง


 แต่เนื่องจากค่าที่ตรวจวัดคุณภาพอากาศของโรงไฟฟ้า หรือเครื่องตรวจวัดกรมควบคุมมลพิษ อาจจะตั้งอยู่ไกลจากชุมชนออกไป  ทำให้ไม่ครอบคลุมในพื้นที่ชุมชนทั้งหมด ใน อ.แม่เมาะ  การเฝ้าระวังเรื่องฝุ่น PM2.5 ยังไม่เข้าถึงชาวบ้านได้เท่าที่ควร   Breath 4 All ลมหายใจเพื่อทุกคน  จึงเป็นโครงการที่อยากให้คนในพื้นที่ได้ร่วมกันรวมพลังเพื่อให้ทุกคนได้มีลมหายที่ปลอดภัย  เป้าหมายแรกคือการติดตั้งเครื่องตรวจวัดแบบเซ็นเซอร์ ให้ครอบคลุมพื้นที่ อ.แม่เมาะ 



            คุณเบญจมาศ กล่าวอีกว่า  ในเฟสแรกของโครงการที่มีเป้าหมายติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในอำเภอแม่เมาะ เพื่อต้องการให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลคุณภาพอากาศในชุมชนของตนเอง  ได้รับทราบค่าของฝุ่น PM2.5 แบบเรียลไทม์ว่าเกินค่ามาตรฐานหรือไม่ เพื่อจะได้ป้องกันและดูแลตัวเองและคนรอบข้างได้ ซึ่ง กฟผ.แม่เมาะ จะมีการร่วมมือกับสถาบันการศึกษาที่เชี่ยวชาญด้านการมอนิเตอร์ และการทำแพลตฟอร์ม  ให้เป็นข้อมูลที่ชุมชนเข้าถึงได้  เพื่อแจ้งค่าตรวจวัดคุณภาพอากาศผ่านไลน์ OA เพื่อให้ผู้สูงอายุได้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น



นอกจากการติดตั้งเซ็นเซอร์วัดคุณภาพอากาศแล้ว กฟผ.แม่เมาะ ยังได้มีการทำงานเชิงรุก ที่ไม่ใช่แค่การรอค่าคุณภาพอากาศแต่เพียงอย่างเดียว เพราะ Breath 4 All ยังมีโปรเจคย่อยที่เข้าไปสนับสนุนชุมชนให้ตระหนักในเรื่องการรักษาพื้นที่ป่าและลดการเผาด้วย ไม่ว่าจะเป็น โครงการเห็ดป่าคืนถิ่น มีการสำรวจพันธุ์เห็ดดั้งเดิมในแต่ละพื้นที่ป่านั้น เพื่อนำเชื้อเห็ดไปเพาะและนำไปปล่อยให้ออกโดยธรรมชาติ สร้างอาชีพให้กับชาวบ้าน ลดปัญหาการเผาป่า   โดยทางหัวหน้าโครงการได้มีการลงพื้นที่ เกริ่นให้กับชุมชนได้รับทราบ ทำความเข้าใจกับชาวบ้านในเบื้องต้นแล้ว โครงการชีวมวลร่วมเผา Biomass Co-firing ที่ กฟผ.แม่เมาะรับซื้อเศษวัสดุทางการเกษตรจากชุมชน มาผลิตเป็นชีวมวลร่วมเผากับถ่านหินลิกไนต์ ซึ่งการผสมชีวมวลร่วมกับถ่านหินในการเผาจะช่วยลดปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และซัลเฟอร์ไดออกไซด์


            
เรามีความคาดหวังว่าในอนาคตโครงการนี้จะมีการพัฒนาไปถึงการพยากรณ์คุณภาพอากาศล่วงหน้า รวมรวบข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมในหลากหลายมิติ  เช่น ก๊าซเรือนกระจก  คาร์บอนไดออกไซด์ พื้นที่สีเขียว  คุณภาพน้ำ  การจัดการขยะ เป็นฐานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมของแม่เมาะเมืองน่าอยู่

            และนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ กฟผ.แม่เมาะ จะนำร่องให้อำเภอแม่เมาะ เป็นเมืองน่าอยู่ Smart City Smart Environment

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์