วันที่
23 ตุลาคม 2566 เวลาประมาณ 14.30 น. นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง
ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ นายเจนายเจษฎา เอนกคณา
หัวหน้าสายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) นายมงคลกรณ์ เสรีกุลวิวเวทย์
หัวหน้าหน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ 10 (บ้านแลง) สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้
จังหวัดลำปาง สายที่ 1 เจ้าหน้าที่ ตำรวจ นปพ.ภ.จว.ลำปาง ตำรวจ สภ.บ้านเสด็จ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 และ หมู่ 10 ต.บ้านเสด็จ อ.เมืองลำปาง
เข้าตรวจสอบกระท่อมหลังหนึ่ง ที่ปลูกสร้างแบบถาวร 2 ชั้น โดยชั้นล่างปล่อยโล่งมีสแลมสีดำคลุมใต้ถุนบ้านโดยรอบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบร่องรอยการแปรรูปไม้กระจายไปทั่วรวมทั้งร่องรอยการเข้าออกด้วยรถยนต์ที่คาดว่าบรรทุกหนัก
ทำให้ถนนเป็นร่องเข้าไปยังกระท่อมดังกล่าว
เจ้าหน้าที่พบกองไม้ถูกคลุมด้วยสแลมอยู่
2 กองใหญ่ แต่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้เพราะหวั่นว่าอาจจะเป็นการรุกล้ำ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบพื้นที่ด้วยระบบดาวเทียม
พบว่าพื้นที่ตั้งกระท่อมอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ยาง-และป่าแม่อาง
บ้านทรายทองหมู่ 3 ต.บ้านเสด็จ อ.เมืองลำปาง เห็นควรว่าอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนฯและไม่มีรั่วรอบขอบชิด
จึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบ
เมื่อเปิดดูกองไม้ถูกสแลมปกคลุมไว้
พบว่าเป็นไม้ประดู่แผ่น ขนาดใหญ่นับได้ทั้ง 17 แผ่นเหลี่ยม ไม้ดังกล่าวไม่มีการตีตราไม้
หรือผ่านร่องรอยการใช้งาน อีกทั้งยังพบว่าเป็นไม้ออเดอร์ที่กลุ่มมอดไม้ลักลอบตัดแล้วส่งไปขายต่างประเทศ
ซึ่งไม้ทั้งหมดนี้คาดว่าต้นทางน่าจะมาจาก
จ.เชียงใหม่ แล้วมาพักในพื้นที่แห่งนี้ ก่อนที่จะลำเลียงไปยังจังหวัดที่อยู่ติดขอบชายแดน
ซึ่งเป็นไม้ที่ค่อนข้างราคาสูงในตลาดมืดค้าไม้เถื่อน และเป็นที่ต้องการของต่างประเทศเจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไม้ประดู่ทั้ง
17 แผ่นเหลี่ยม ไม้สักแปรรูป และไม้ประดู่ท่อนจำนวนหนึ่งเพื่อ ส่ง ร.ต.อ.วีระชาติ
สุริยา รอง สว.สอบสวน สภ.บ้านเสด็จ มาตรวจสอบเพื่อดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ส่วนการเข้าตรวจยึดในครั้งนี้ ทางศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือได้ออกหาข่าวในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องถึง 3 วัน ว่ามีกลุ่มค้าไม้ข้ามชาติ ลักลอบลำเลียงไม้หวงห้ามที่แปรรูปแล้วแอบเข้ามาซุกซ่อนในพื้นที่จังหวัดลำปาง โดยจะอำพรางมากับรถยนต์กระบะคอก ทำทีอำพรางเป็นการขนพืชผลทางการเกษตร มีการอำพรางด้วยกระสอบยัดฟางข้าว ทำให้เล็ดรอดสายตาเจ้าหน้าที่ไปหลายครั้ง
และในวันนี้
เจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจสอบและพบร่องรอยกระสอบเศษฟางข้าว ต้องสงสัยตลอดเส้นทาง จึงตามแกะรอยจนกระทั่งมาเจอกระท่อมหลังดังกล่าว
และพบว่ามีการซุกซ่อนของกลางไว้ นอกจากนี้พบว่ามีการติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบๆกระท่อมหลังนี้ด้วย
คาดว่าจะเอาติดตามการเคลลื่อนไหวคนผ่านเข้าออก แต่มีการแกะเอาเซิฟเวอร์
และแบตเตอร์รี่โซล่าเซลล์ออกไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึง เบื้องพบว่าพื้นที่ดังกล่าว
มีผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่รายหนึ่งครอบครองอยู่
ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เชิญตัวมาให้ปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้หรือไม่
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น