วันเสาร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2567

ศาลปกครองสูงสุดสั่งกองทุนรอบโรงไฟฟ้ารับ 11 โครงการของกลุ่มเครือข่ายผู้ป่วยแม่เมาะ พิจารณาตามหลักเกณฑ์ หลังยื่นฟ้องยาวนานกว่า 12 ปี

 

           หลังจากเมื่อวันที่ 26 ม.ค.67 ที่ผ่านมา ศาลปกครองสูงสุด ได้พิพากษาคดีระหว่างสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวกรวม 47 คน ยื่นฟ้องคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า กองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าแม่เมาะ และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ให้นำโครงการจำนวน 11 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการชุมชนเกี่ยวกับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า เข้าสู่การพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ กกพ.กำหนด เมื่อ 15 ส.ค.2555  ซึ่งคดีนี้ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องไปเมื่อปี 2558  แต่ผู้ร้องได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด

           กระทั่ง ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง โดยสั่งให้คณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า จ.ลำปาง (คพรฟ.) นำ 11 โครงการฯพัฒนาชุมชนของชาวบ้านผู้ฟ้องคดีมาพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ระเบียบ กกพ.เมื่อปี 2553 กำหนด ทั้งนี้ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา 

          ต่อมาวันที่ 27 ม.ค.67 กลุ่มเครือข่ายสิทธิผู้ป่วย นำโดย นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์  ประธานเครือข่ายฯ พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้าน ได้ประชุมถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาดังกล่าว  โดยมีการถกประเด็นต่างๆร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินการต่อไป

          นางมะลิวรรณ กล่าวว่า หลังทราบคำพิพากษาก็รู้สึกดีใจที่ศาลเมตตา  ซึ่งเรื่องเดิมคือทางกลุ่มเครือข่ายผู้ป่วยมีสมาชิกอยู่ 300 กว่าคน ได้มีการยื่นฟ้อง กฟผ.แม่เมาะ ขอจ่ายเงินค่าเยียวยาให้กับผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบ ระหว่างรอการตัดสิน ได้มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะขึ้น ทางกลุ่มผู้ป่วยฯ จึงได้ยื่นเสนอโครงการเข้าไป 11 โครงการ  ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการด้านสุขภาพ  เพียงต้องการได้รับการเยียวยา การช่วยเหลือด้านการดูแลสุขภาพ และการเดินทางไปรักษา  ระหว่างที่รอศาลพิพากษาคดี  แต่ปรากฏว่า 11 โครงการที่เสนอไปถูกตัดออกทั้งหมด  ต่อมาในปี 2555 ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกระทั่งมีคำพิพากษาดังกล่าว

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์