หลังจากเมื่อวันที่ 26 ม.ค.67 ที่ผ่านมา
ศาลปกครองสูงสุด ได้พิพากษาคดีระหว่างสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวกรวม 47 คน ยื่นฟ้องคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า
กองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้าแม่เมาะ และคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ให้นำโครงการจำนวน 11
โครงการ
ซึ่งเป็นโครงการชุมชนเกี่ยวกับการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า
เข้าสู่การพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ กกพ.กำหนด เมื่อ 15 ส.ค.2555 ซึ่งคดีนี้ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษายกฟ้องไปเมื่อปี
2558 แต่ผู้ร้องได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด
กระทั่ง ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง
โดยสั่งให้คณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า จ.ลำปาง (คพรฟ.) นำ 11
โครงการฯพัฒนาชุมชนของชาวบ้านผู้ฟ้องคดีมาพิจารณาตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ระเบียบ
กกพ.เมื่อปี 2553 กำหนด ทั้งนี้ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา
ต่อมาวันที่ 27 ม.ค.67 กลุ่มเครือข่ายสิทธิผู้ป่วย นำโดย นางมะลิวรรณ นาควิโรจน์ ประธานเครือข่ายฯ พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้าน ได้ประชุมถึงกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาดังกล่าว โดยมีการถกประเด็นต่างๆร่วมกัน เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินการต่อไป
นางมะลิวรรณ กล่าวว่า หลังทราบคำพิพากษาก็รู้สึกดีใจที่ศาลเมตตา ซึ่งเรื่องเดิมคือทางกลุ่มเครือข่ายผู้ป่วยมีสมาชิกอยู่
300 กว่าคน ได้มีการยื่นฟ้อง กฟผ.แม่เมาะ ขอจ่ายเงินค่าเยียวยาให้กับผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบ
ระหว่างรอการตัดสิน ได้มีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาไฟฟ้าโรงไฟฟ้าแม่เมาะขึ้น ทางกลุ่มผู้ป่วยฯ
จึงได้ยื่นเสนอโครงการเข้าไป 11 โครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการด้านสุขภาพ เพียงต้องการได้รับการเยียวยา การช่วยเหลือด้านการดูแลสุขภาพ
และการเดินทางไปรักษา ระหว่างที่รอศาลพิพากษาคดี แต่ปรากฏว่า 11 โครงการที่เสนอไปถูกตัดออกทั้งหมด ต่อมาในปี 2555
ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกระทั่งมีคำพิพากษาดังกล่าว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น