วันที่ 26 ก.พ.67 ภายใต้การอำนวยการของ
นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ สั่งการให้
นายเจนายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ)
กรมป่าไม้ กำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปทส.อำนวยกการโดยพล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์
ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน ผกก.4
บก.ปทส. พ.ต.ท.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส. ร.ต.ต.วสุอนันต์ สารีพันธ์ รอง
สว.(ป) กก.4 บก.ปทส.พร้อมลูกชุด ประนายภัทรเรนทร์ ประสิทธิกุล
ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สบอ.3 ลำปาง
เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.4(แม่เสริม)
หน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้ จังหวัดลำปาง สายที่ 1 นายสุรชัย แสงสิริ
ผอ.ทสจ.ลำปาง ตร.ศปทส.ภ.5 ตำรวจ นปพ.ภ.จว.ลำปาง ฝ่ายปกครองอำเภอเสริมงาม
เข้าตรวจสอบ ป่าเหนือหมู่บ้าน บ้านแม่ต๋ำ หมู่ 1 ต.เสริมซ้าย อ.เสริมงาม จ.ลำปาง
โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ พบรถบรรทุก 10 ล้อ ที่ใช้ขนย้ายทางการเกษตร 1 คันมีผ้าใบคลุมท้ายรถ มีไม้ประดู่ท่อน 6
ท่อน และพบรถบรรทุก 6 ล้อ ติดตั้งเครน หรือรถเฮี้ยบ จำนวน 2 คันอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งกำลังยกไม้ประดู่ท่อนขนาดใหญ่
อีก 1 ท่อนเพื่อที่จะขึ้นท้ายรถ 10 ล้อ แต่เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบก่อน ทำให้กลุ่มมอดไม้ที่มีประมาณ
7-10 คน ทิ้งของกลางทั้งหมดแล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าหายไปกับความมืด
โดยรอจนสว่างก็ไม่มีใครมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของไม้และรถยนต์บรรทุกทั้ง 3 คัน
จากการตรวจสอบไม้ท่อนทั้งหมด 7 ท่อน
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่า ไม้ดังกล่าวไม่มีการตีตราไม้
หรือผ่านร่องรอยการใช้งาน อีกทั้งยังพบว่าเป็นไม้ออเดอร์ที่
กลุ่มมอดไม้ลักลอบตัดแล้วลำเลียงส่งไปยังจังหวัดพื้นที่ติดชายแดนทางภาคอีสาน
เพื่อส่งไปขายต่อยังต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมด
เก็บรักษาที่ หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.4 อ.เสริมงาม จ.ลำปาง แล้วไปแจ้งความร้องทุกข์ที่
สภ.เสริมงาม จ.ลำปาง เพื่อติดตามตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาให้ปากคำต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังจุดที่พบตอไม้ถูกตัดอยู่ห่างออกไปในป่าลึกประมาณ
5 กิโลเมตร เป็นต้นประดู่อายุไม่ต่ำกว่า 250-300 ปี
อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เสริมที่อุดมสมบูรณ์
ทั้งนี้ นายเจนายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่
3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ได้ติดตามพฤติกรรมกลุ่มมอดไม้กลุ่มนี้มาสักระยะแล้ว
พบว่าเป็นกลุ่มค้าไม้ข้ามชาติ ส่งออกไม้หวงห้ามตามออเอดร์ที่สั่ง โดยจะอำพรางขนย้ายไปในรูปแบบรถบรรทุกพืชผลทางการเกษตรกรรม
มีการปิดป้ายว่ารถขนส่งพืชผลผทางการเกษตรมีการปิดคุลมผ้าใบอย่างมิดชิด
ทำให้ผ่านไปส่งไม้ตามออเดอร์หลายครั้ง และในครั้งนี้ได้เฝ้าติดตามจนกระทั่งพบว่ากำลังลำเลียงไม้ท่อนขึ้นรถ
จึงวางกำลังเดินเท้าเข้าไปยังเผ้าหมายระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
แต่ระหว่างใกล้ถึงเป้าหมายพบว่า เป็นคอกเลี้ยงวัวชาวบ้านหลายแห่งทำให้สุนัขที่นอนเฝ้าคอกว่าเห่าตลอดเส้นทาง
จึงทำให้กลุ่มมอดไม้ไหวตัววิ่งหนีไปกับความมืดทั้งหมด
ส่วนไม้ของกลางทั้งหมดตรวจวัดขนาดแล้วมีมากถึง 12.892
ลูกบาศก์เมตร มูลค่าความเสียหายภาครัฐ 5 แสนบาท
แต่หากออกจากพื้นที่จังหวัดลำปางไปถึงชายแดน พื้นที่จังหวัดทางภาคอีสาน
จะเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว และหากข้ามประเทศไปได้จะเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว
มูลค่าหลายล้านบาท ดังนั้นไม้หวงห้ามในพื้นที่ จังหวัดลำปางจึงเป็นที่หมายปองของกลุ่มค้าไม้ข้ามชาติในขณะนี้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น