วันอาทิตย์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567

เจ้าหน้าที่ยึดไม้ประดู่ 7 ท่อนใหญ่ หลังกลุ่มชายฉกรรจ์ทิ้งของกลางวิ่งหนีหายไปกับความมืด พบเตรียมอำพรางขนย้ายในรูปแบบรถบรรทุกพืชผลทางการเกษตร เร่งติดตัว

วันที่ 26 ก.พ.67  ภายใต้การอำนวยการของ นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 ภาคเหนือ สั่งการให้ นายเจนายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ กำลังเจ้าหน้าที่ บก.ปทส.อำนวยกการโดยพล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ณัทกฤช น้อยคำปัน  ผกก.4 บก.ปทส. พ.ต.ท.ยศวัฒน์ เอกกุล สว.กก.4 บก.ปทส. ร.ต.ต.วสุอนันต์ สารีพันธ์ รอง สว.(ป) กก.4 บก.ปทส.พร้อมลูกชุด ประนายภัทรเรนทร์ ประสิทธิกุล ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สบอ.3 ลำปาง เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.4(แม่เสริม) หน้าที่ชุดปฎิบัติการพิเศษป่าไม้ จังหวัดลำปาง สายที่ 1 นายสุรชัย แสงสิริ ผอ.ทสจ.ลำปาง ตร.ศปทส.ภ.5 ตำรวจ นปพ.ภ.จว.ลำปาง ฝ่ายปกครองอำเภอเสริมงาม เข้าตรวจสอบ ป่าเหนือหมู่บ้าน บ้านแม่ต๋ำ หมู่ 1 ต.เสริมซ้าย อ.เสริมงาม จ.ลำปาง

โดยในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ พบรถบรรทุก 10 ล้อ ที่ใช้ขนย้ายทางการเกษตร 1 คันมีผ้าใบคลุมท้ายรถ มีไม้ประดู่ท่อน 6 ท่อน และพบรถบรรทุก 6 ล้อ ติดตั้งเครน หรือรถเฮี้ยบ จำนวน 2 คันอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งกำลังยกไม้ประดู่ท่อนขนาดใหญ่ อีก 1 ท่อนเพื่อที่จะขึ้นท้ายรถ 10 ล้อ แต่เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบก่อน ทำให้กลุ่มมอดไม้ที่มีประมาณ 7-10 คน ทิ้งของกลางทั้งหมดแล้ววิ่งหลบหนีเข้าป่าหายไปกับความมืด โดยรอจนสว่างก็ไม่มีใครมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของไม้และรถยนต์บรรทุกทั้ง 3 คัน

จากการตรวจสอบไม้ท่อนทั้งหมด 7 ท่อน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่า ไม้ดังกล่าวไม่มีการตีตราไม้ หรือผ่านร่องรอยการใช้งาน อีกทั้งยังพบว่าเป็นไม้ออเดอร์ที่ กลุ่มมอดไม้ลักลอบตัดแล้วลำเลียงส่งไปยังจังหวัดพื้นที่ติดชายแดนทางภาคอีสาน เพื่อส่งไปขายต่อยังต่างประเทศ เจ้าหน้าที่ จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมด เก็บรักษาที่ หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.4 อ.เสริมงาม จ.ลำปาง แล้วไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เสริมงาม จ.ลำปาง เพื่อติดตามตัวผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาให้ปากคำต่อไป  โดยเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปยังจุดที่พบตอไม้ถูกตัดอยู่ห่างออกไปในป่าลึกประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นต้นประดู่อายุไม่ต่ำกว่า 250-300 ปี อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เสริมที่อุดมสมบูรณ์

ทั้งนี้ นายเจนายเจษฎา เอนกคณา หัวหน้าสายตรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) กรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ได้ติดตามพฤติกรรมกลุ่มมอดไม้กลุ่มนี้มาสักระยะแล้ว พบว่าเป็นกลุ่มค้าไม้ข้ามชาติ ส่งออกไม้หวงห้ามตามออเอดร์ที่สั่ง โดยจะอำพรางขนย้ายไปในรูปแบบรถบรรทุกพืชผลทางการเกษตรกรรม มีการปิดป้ายว่ารถขนส่งพืชผลผทางการเกษตรมีการปิดคุลมผ้าใบอย่างมิดชิด ทำให้ผ่านไปส่งไม้ตามออเดอร์หลายครั้ง และในครั้งนี้ได้เฝ้าติดตามจนกระทั่งพบว่ากำลังลำเลียงไม้ท่อนขึ้นรถ จึงวางกำลังเดินเท้าเข้าไปยังเผ้าหมายระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร แต่ระหว่างใกล้ถึงเป้าหมายพบว่า เป็นคอกเลี้ยงวัวชาวบ้านหลายแห่งทำให้สุนัขที่นอนเฝ้าคอกว่าเห่าตลอดเส้นทาง จึงทำให้กลุ่มมอดไม้ไหวตัววิ่งหนีไปกับความมืดทั้งหมด  

ส่วนไม้ของกลางทั้งหมดตรวจวัดขนาดแล้วมีมากถึง 12.892 ลูกบาศก์เมตร มูลค่าความเสียหายภาครัฐ 5 แสนบาท แต่หากออกจากพื้นที่จังหวัดลำปางไปถึงชายแดน พื้นที่จังหวัดทางภาคอีสาน จะเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว และหากข้ามประเทศไปได้จะเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว มูลค่าหลายล้านบาท ดังนั้นไม้หวงห้ามในพื้นที่ จังหวัดลำปางจึงเป็นที่หมายปองของกลุ่มค้าไม้ข้ามชาติในขณะนี้

 

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์