คนมือบอนเอาเศษกิ่งไม้หญ้าแห้งมาทิ้งในที่เอกชน แล้วกลับจุดไฟเผาเกิดลุกลามดับเพลิงต้องมาระงับเหตุด่วน

       เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 11 กุมภาพันธุ์ 2567 ทางสายด่วนแจ้งเหตุ 199 งานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลนครลำปาง ได้รับแจ้งว่า มีไฟไหม้กองเศษหญ้าแห้ง ในพื้นที่เอกชนแห่งหนึ่ง อยู่ติดกับแม่น้ำวัง บ้านศรีปงชัย หมู่ 6 ตำบลชมพู อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง กำลังจะลุกลามไปยังกองเศษหญ้าที่อยู่ใกล้กัน จึงได้จัดรถดับเพลิง 2 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ พร้อมประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร รุดไประงับเหตุทันที

 โดยในที่เกิดเหตุ พบว่า สภาพเหมือนที่ทิ้งกองขยะ แต่อยู่ในพื้นที่เอกชนรายหนึ่ง พบว่าไฟได้ลุกไหม้บริเวณกองหญ้าแห้งขอบหลุมขนาดใหญ่ ที่มีสภาพนำเศษต่างๆมาทิ้งรวมกันเพื่อที่จะถมหลุมแห่งนี้ไปเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงสามารถควบคุมไฟได้ทั้งหมด

ทั้งนี้ สภาพพื้นที่นับสิบไร่ มีสภาพเหมือนที่ทิ้งขยะ เนื่องจากมีเศษกิ่งไม้ ใบไม้ เศษหิน อิฐปูน ถูงมาทิ้งจำนวนมาก บางจุดมีเศษขยะที่เป็นเชื้อไฟได้อย่างดี ถูกแอบลักลอบเข้ามาทิ้งในพื้นที่แห่งนี้อีกด้วย นอกนี้ยังมีคนหาของเก่า ทุบเศษปูนเพื่อเอาเศษเหล็ก หาเศษกระป๋อง พลาสติก มีคนหามากกว่า 10 คน เพื่อหารายได้จากที่แห่งนี้

จากนั้นผู้ดูพื้นที่แห่งนี้ได้เข้ามายังที่เกิดเหตุ สอบถามคนที่มาหาของเก่าในพื้นที่แห่งนี้ ทราบแต่เพียงว่า เป็นชายขับขี่รถยนต์กระบะ บรรทุกหญ้าแห้งมาเต็มท้ายรถ หลังจากทิ้งเสร็จแล้ว ก็จุดไฟเผาทันที โดยได้บอกว่าบอกให้ เจ้าของแล้วว่าจะจุดไฟเผา ก่อนที่จะขับรถออกไปแล้วเกิดการลุกลาม จนเจ้าหน้าที่เข้ามาดับไฟที่ลุกไหม้สำเร็จ

ไม่นานพบว่าคนที่เอาเศษหญ้าแห้งมาทิ้ง ได้ขับรถกลับมาอีกครั้งพร้อมเศษหญ้าเต็มท้ายรถ ทางคนหาของเก่าจำได้ว่าคือรถคนที่ก่อเหตุ จึงได้บอกให้ ผู้ดูแลพื้นที่ทันที ก่อนที่ผู้ดูแลจะแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สายตรวจตำบลชมพู สภ.เขลางค์นคร เข้าไปถาม และทำประวัติว่ากล่าวตักเตือน อีกทั้งผู้ดูแลได้บอกให้ออกจากพื้นที่และไม่อนุญาติให้กลับเข้ามาเด็ดขาด เพราะได้สร้างความเดือนร้อน

 เนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ได้เกิดโอกาสให้คนที่มีเศษหญ้า ดิน หิน ปูนเก่า เอามาทิ้งได้เพื่อที่จะถมหลุมลึกใหญ่ให้เต็ม แต่ห้ามเอาเศษพลาสติก เศษสิ้นส่วนที่ติดไฟได้ง่ายเอามาทิ้งเด็ดขาด ซึ่งทำแนวรั้วกั้นเข้าออกทางเดียวเพื่อป้องกันแต่ไม่มีประตูจึงมีคนลักลอบเอาเศษวัสดุติดไฟง่ายมาทิ้ง โดยเมื่อกองเศษต่างๆเริ่มมีมากขึ้นก็จะนำรถมาไถลงไปยังหลุมดังกล่าว ต่อไปจะเข้มงวดกวดขันการนำเศษต่างๆมาทิ้ง ซึ่งได้ขอความร่วมมือคนหาของเก่าและคนเอามาทิ้งช่วยเป็นหูเป็นตาและห้ามเผาในพื้นที่แห่งนี้เด็ดขาด