จากสถานการณ์หมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก
PM2.5 เริ่มกลับมาสูงเกินมาตรฐานอีกครั้ง
หลังจากฝนได้ขาดช่วงไป โดยรายงานค่าฝุ่น PM2.5
วันที่ 27 มี.ค.67 ณ
เวลา 07.00 น. พบว่าค่าเกินมาตรฐาน 4
สถานี โดยที่สถานี ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง วัดได้ 75.5 มคก./ลบ.ม. สถานี ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ 59.3 มคก./ลบ.ม. สถานี ต.บ้านดง
อ.แม่เมาะ 59.5 มคก./ลบ.ม.
และสถานี ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ 59.4 มคก./ลบ.ม.
สำหรับจุดความร้อน จากการตรวจสอบจากดาวเทียม Suomi Npp ระบบ VIIRS เวลา 02.38 น. ของวันที่ 27 มี.ค.67 จ.ลำปาง ไม่พบจุดความร้อนแต่อย่างใด
ด้านนายชัชวาลย์
ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวถึงสถานการณ์หมอกควันไฟป่าว่า ปีที่แล้วสถานการณ์ไฟป่ารุนแรงช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์
หลังประกาศปิดป่าห้ามเผา สำหรับปีนี้มารุนแรงช่วงต้นเดือนมีนาคม
ก็เป็นช่วงหลังจากที่ประกาศปิดป่าเหมือนกัน เป็นการส่งสัญญาหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ
ซึ่งเราพยายามควบคุมอยู่
ปีนี้เกิดจุดฮอตสปอตเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากทางเทคนิคของป่าไม้ต้องการใช้ลักษณะของไฟตัดไฟ จะเห็นได้ว่าพื้นที่ถูกไฟไหม้น้อยกว่าปีที่แล้ว
แต่จุดฮอตสปอตจะเพิ่มมากขึ้นนิดหน่อย เนื่องจากการกระจายของไฟมีอยู่
ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นหลังจากมีฝนตกช่วงวันที่ 20
กว่า ทำให้ จ.ลำปางเป็นสีเขียวทั้งจังหวัด แต่ช่วงนี้เริ่มกลับมาเป็นสีส้ม เพราะมีการลดค่ามาตรฐานฝุ่น PM2.5 ด้วย แต่ถ้าเป็นค่าเดิมเราจะเป็นสีเหลืองอยู่
ส่วนจำนวนวันที่เกิดค่า PM2.5 ถึงสีแดงน่าจะน้อยกว่าปีที่แล้ว
ผู้ว่าราชการฯ
กล่าวอีกว่า หากถามว่าเป็นห่วงไหมก็มีบ้าง
แต่ด้วยสถานการณ์ พบว่า จ.ลำปางเกิดไฟป่าขึ้นน้อยกว่าจังหวัดอื่นในภาคเหนือตอนบน ช่วงนี้จุดฮอตสปอตยังอยู่ในระดับหลักสิบ
จากที่ต้นเดือนมีถึงหลักร้อย ถือว่าลดลงไปมาก เรามีนโยบายในเรื่องของการปิดป่า
การใช้พี่น้องชุมชนต่างๆคอยแจ้งเบาะแส ทั้งฝ่ายปกครองและตำรวจ มีการจับคนเผาป่าไปแล้ว 2 ราย และมีรางวัลให้กับผู้แจ้ง ทั้งนี้
อาจจะเป็นเพียงกลุ่มคนหนึ่งเท่านั้นที่ก่อเหตุ แต่ก็ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบ จึงขอให้ช่วยกันสอดส่องดูแลด้วย
เมื่อสอบถามถึงกระแสสื่อโซเซียลฯ
กล่าวถึง จ.ลำปางว่าเกิดไฟป่าเยอะมาก ทำไมผู้ว่าฯลำปางไม่ทำอะไรเลย รู้สึกอย่างไรบ้าง ท้อหรือไม่
ผู้ว่าราชการจังหวัด
กล่าวว่า “ไม่ท้อหรอกครับ” เรียนตามตรงจะเห็นว่าตอนต้นเดือนมีนาคมลำปางเกิดไฟป่าเยอะจริง
ไม่ใช่เฉพาะประชาชนอย่างเดียวที่เกิดความสงสัย
ทางผู้ใหญ่ก็ได้สอบถามเข้ามาเช่นกันว่าเพราะเหตุใด
และทำอย่างไรกันบ้าง
ซึ่งทางจังหวัดก็ได้มีการจัดกิจกรรม kick off ทั้งลงพื้นที่ให้กำลังใจกับกลุ่มเหยี่ยวไฟ
เสือไฟ ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่ผลัดเปลี่ยนเวรกันนอนเฝ้าป่า รวมทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิด
ใครเข้าไปในพื้นที่ป่าถ้าจับภาพได้ก็จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมทันที
ซึ่งต้นเดือนมีนาคมอาจจะยังไม่มีมาตรการเข้มงวดขนาดนี้ ก็ยังทำงานอยู่ตลอด
นายอำเภอก็รับมอบหมายงานไปทุกอำเภอและแจ้งรายงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น