วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567

สำนักงานวิจัยแห่งชาติ ดึงนักวิชาการนานาชาติ ถกปัญหาฝุ่น PM2.5 พร้อมหาแนวทางแก้ปัญหาในระยะยาว

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและภูมิอากาศ (Hub of Talents on Air Pollution and Climate – HTAPC) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์ลำปาง จัดการเสวนาวิชาการระดับนานาชาติ “PM 2.5 โอกาสและความท้าทายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยมีดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิด และรองศาสตราจารย์ ดร.สสิธร เทพตระการพร คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วย ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา ผู้อำนวยการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษ อากาศและภูมิอากาศ ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญ ร่วมประชุมเสวนา ณ อาคารบุญชูปณิธานมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง  เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567


        ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช. ในฐานะหน่วยงานบริหารจัดการโครงการวิจัยและนวัตกรรมของประเทศไทย มุ่งเน้นในด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหัวข้อ ประเทศไทยปลอดหมอกควันและปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา วช. ได้สนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อการจัดการและบรรเทาปัญหามลพิษ PM 2.5 เช่น ระบบเตือนภัยล่วงหน้าที่ทันสมัย เครื่องมือตรวจวัด การบำบัด และการวิเคราะห์ องค์ประกอบเพื่อระบุแหล่งกำเนิด รวมถึงการประเมินประสิทธิผลของนโยบายและมาตรการบรรเทาผลกระทบของฝุ่น PM 2.5ในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย ซึ่งผลงานวิจัยเหล่านี้ สามารถนำไปใช้เป็นแหล่งสนับสนุนทางวิชาการที่สำคัญให้แก่ กรมควบคุมมลพิษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งความรู้ที่ได้จะสามารถวางแผนและพัฒนาเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการบรรเทาปัญหามลพิษ PM 2.5 ได้


ในปี 2566 วช. จึงริเริ่มพัฒนาเป็นศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและภูมิอากาศ มี ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ โดยศูนย์มีบทบาทหน้าที่ในการเชื่อมโยงและสร้างเครือข่ายของผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในระดับประเทศและในระดับนานาชาติ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในศาสตร์และวิทยาการสาขาต่าง ๆ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ และประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษอากาศและการเปลี่ยนแปลง ภูมิอากาศทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ โดยไม่ได้อยู่ภายใต้สังกัดของสถาบันการศึกษาใดสถาบันหนึ่ง เพื่อให้ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญฯ ได้รับความร่วมมือจากหลากหลายสถาบันอย่างแท้จริง


ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา ผู้อำนวยการศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและภูมิอากาศ วช. กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของจัดการเสวนาวิชาการระดับนานาชาติ “PM 2.5 โอกาสและความท้าทายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จัดขึ้นเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหา PM 2.5 แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการแก้ไขปัญหา PM 2.5 อย่างยั่งยืน และสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ด้านการแก้ไขปัญหา PM 2.5 ทั้งในและต่างประเทศ


จากการเสวนาในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการนำสิ่งที่ไม่เข้าใจในด้านต่าง ๆ เกี่ยวกับฝุ่นละออง PM2.5 ก็จะนำไปสู่การนำเสนอแนวทางการเตรียมรับมือด้านสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 ด้วยวิจัยและนวัตกรรม เพื่อเป็นข้อมูลแก่ประชาชนในการเฝ้าระวัง การเผชิญเหตุเมื่อปริมาณฝุ่น PM2.5 สูงขึ้น เพื่อลดผลกระทบทางด้านสุขภาพ ข้อควรปฏิบัติ เพื่อรักษาคุณภาพชีวิตของผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ในช่วงเวลาวิกฤตของพื้นที่ การจัดการพื้นที่ SAFE ZONE หรือพื้นที่ปลอดฝุ่น  รวมถึงร่วมกันเสนอมาตรการที่เหมาะสมในการจัดการฝุ่น PM2.5 ที่เหมาะสมกับรายบุคคล ทั้งนี้ วช. และศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษอากาศและภูมิอากาศ จะนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่ได้รับการสนับสนุนทุนจาก วช. ที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ประชาชน เฝ้าระวัง ป้องกันฝุ่น PM2.5 สร้างความรู้ ความเข้าใจ ความตระหนัก อันจะนำไปสู่ สุขภาพ คุณภาพ ชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ดีในอนาคต

 

 

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์