วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

อดีต ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง แจงหนี้สินก่อนเกษียณเพียง 8 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นค่าสอนเกินภาระงาน


            จากกรณี ดร.สุมาวดี พวงจันทร์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง ได้ชี้แจงเหตุผลการไม่ต่อสัญญาครูอัตราจ้างและเจ้าหน้าที่ รวมถึงการปิดสาขาการเรียน ระบุว่า ในปี 67 วิทยาลัยฯ มีหนี้สินจากแผนปฏิบัติงานกว่า 7.4 ล้านบาท  และยังมีภาระหนี้สินที่ต้องแบกรับอยู่จริงรวมกันประมาณ 14 ล้านบาทเศษ เช่น ค่าไฟ ค่าสอนเกินภาระงาน ค่าจ้างสอนที่จะเกิดขึ้นในปี 67 และหนี้สินปี 64-66 เป็นต้น  รวมหนี้สินกว่า 21 ล้านบาทนั้น 

นายณดิษ วรรณโกฎิ อดีต ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง อ.เกาะคา  เปิดเผยว่า การนำเสนอข่าวได้สร้างความเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นผู้ที่ก่อหนี้สินให้กับทางวิทยาลัยฯ  จึงอยากจะชี้แจงให้ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร  ซึ่งตนได้มีการตรวจสอบกับทางฝ่ายบัญชีไปแล้วว่า มีหนี้สินที่ค้างอยู่ก่อนที่ตนจะเกษียณอายุราชการ ประมาณ 8 ล้านกว่าบาท  หลักๆจะเป็นค่าตอบแทนสอนเกินภาระงานของครูอัตราจ้าง 

ซึ่งก่อนเกษียณ ทางวิทยาลัยฯ ได้งบประมาณบำรุงการศึกษามา 6 ล้านบาท  จึงนำงบส่วนหนึ่งประมาณ 1 ล้านบาทมาพัฒนาอาคารระบบราง เพราะได้รับครุภัณฑ์มาแต่ไม่มีอาคารรองรับกับครุภัณฑ์ใหม่  ส่วนเงินที่เหลือใช้เป็นค่าตอบแทนค่าสอนเกินภาระงานบางส่วน แต่ก็ยังจ่ายได้ไม่ครบ 

ค่าสอนเกินภาระงานปี 66 ค้างจ่าย2.7 ล้านบาท ทางครูก็ได้ทวงถามว่าจะได้เงินไหม แต่ที่ยังไม่ได้จ่าย เพราะมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับจำนวนผู้เรียน ถ้าเป็นอุตสาหกรรมจะเบิกได้ต้องมีนักศึกษา 15-20 คนขึ้นไป ส่วนพาณิชยกรรมห้องเรียนต้อง 40 คนขึ้นไป  ถึงจะเบิกได้เต็มชั่วโมงละ 200 บาท แต่ครูทำเบิกมาเต็มอัตราทำให้ยอดสูง  บางห้องเรียนมีนักศึกษาเพียง 4 คน ก็เบิกค่าสอนเกินภาระเต็ม  ซึ่งไม่ตรงตามระเบียบจึงให้ครูไปปรับห้องเรียนใหม่ แต่ก็ไม่ได้ตามแผนที่ตั้งไว้  จึงได้ชะลอการจ่ายไว้ก่อน ในตอนนั้นได้แจ้งไปยังหัวหน้างานหลักสูตร และคุยให้ครูฟังแล้ว ไม่มีใครท้วงติงในเรื่องนี้   จึงชะลอจ่ายเงินส่วนนี้ไว้ 

อดีต ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง  กล่าวอีกว่า ส่วนหนี้สินอื่นๆ จะเป็นค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า  ก่อนเกษียณจะมียอดค้างอยู่บางส่วน ตั้งแต่เดือน มิ.ย.66 ถึง ก.ย. 66 ประมาณ 4 เดือน แต่ที่ทาง ผอ.แจ้งไว้ ระบุว่า ตั้งแต่เดือน พ.ค.66 ถึง ม.ค.67 ยอด 2 ล้านกว่าบาท  เป็นการรวมหนี้ค่าไฟยุคของ ผอ.คนใหม่นี้เข้าไปด้วย  

ส่วนหนี้สินที่ยังค้างจ่ายอื่นๆ จะเป็นหมวดค่าบริการต่างๆ เช่น งานบริหารทั่วไป  ค่าเช่ากล้องวงจรปิด เช่าไม้กั้น เช่าเครื่องวัดอุณหภูมิ  ค่าจัดซื้อชุดตรวจ ATK   ค่าพัสดุ-ยานพาหนะ  ค่าศึกษาดูงาน ค่างานกิจกรรม  ค่าซ่อมวัสดุอุปกรณ์ และการแข่งขันสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ  จะอยู่ที่ 8.1 แสนกว่าบาท   หมวดค่าครุภัณฑ์ เช่น ค่าสื่อการเรียนการสอน หนังสือในห้องสมุด ประมาณ 2.1 ล้านบาท  และค่าวัสดุการฝึกของนักศึกษา อีกประมาณ  1.4 แสนบาท

ซึ่งอดีตผอ.ชี้แจงว่าบางส่วนได้มีการชำระหนี้ไปบ้างแล้ว

สำหรับหนี้สินที่ระบุว่า ตั้งไว้จากแผนปฏิบัติงานปี 67 ยอดที่ประมาณ 7.4 ล้านบาทนั้น  เป็นเงินที่ทางวิทยาลัยฯได้ตั้งไว้เพื่อเสนอของบจากส่วนกลาง  แต่งบที่ได้รับจริงไม่ถึงยอดที่ตั้งไว้ ปีหนึ่งจะได้รับประมาณ 3 ล้านบาท  เพื่อนำมาจ่ายเงินเดือนครูอัตราจ้าง และเจ้าหน้าที่ เดือนละประมาณ 6 แสนกว่าบาท  รวมเป็นปีจะอยู่ที่ 7 ล้านกว่าบาท ซึ่งไม่เพียงพอ   ดังนั้นงบที่นำมาใช้ได้จะเป็นงบอุดหนุนรายหัวของนักศึกษา ประมาณ 3 ล้านบาท รวมงบจากแผนอีก 3 ล้านกว่าบาท  เงินก็ยังขาดอยู่อีกล้านกว่าบาท จึงเกิดปัญหาหนี้สะสม  

            และยังมีงบบอกว่าต้องจ่ายเงินลูกจ้างเดือน เม.ย.67-ก.ย.67 ประมาณ 4.9 ล้านบาท ก็เป็นภาระหนี้สินของผอ.คนใหม่ ซึ่งไม่เกี่ยวกับตนเอง และงบส่วนนี้ก็เป็นงบที่ต้องรวมอยู่ในแผนปฏิบัติงานปี 67 ที่ตั้งเอาไว้  ดังนั้นการที่นำยอดหนี้ของปี 66 และ 67 มารวมกันไม่ถูกต้อง จึงอยากจะชี้แจงในส่วนนี้




 

 


Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์