จากกรณี ดร.สุมาวดี พวงจันทร์ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง ได้ชี้แจงเหตุผลการไม่ต่อสัญญาครูอัตราจ้างและเจ้าหน้าที่ รวมถึงการปิดสาขาการเรียน ระบุว่า ในปี 67 วิทยาลัยฯ มีหนี้สินจากแผนปฏิบัติงานกว่า 7.4 ล้านบาท และยังมีภาระหนี้สินที่ต้องแบกรับอยู่จริงรวมกันประมาณ 14 ล้านบาทเศษ เช่น ค่าไฟ ค่าสอนเกินภาระงาน ค่าจ้างสอนที่จะเกิดขึ้นในปี 67 และหนี้สินปี 64-66 เป็นต้น รวมหนี้สินกว่า 21 ล้านบาทนั้น
นายณดิษ
วรรณโกฎิ อดีต ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง อ.เกาะคา เปิดเผยว่า การนำเสนอข่าวได้สร้างความเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นผู้ที่ก่อหนี้สินให้กับทางวิทยาลัยฯ จึงอยากจะชี้แจงให้ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ซึ่งตนได้มีการตรวจสอบกับทางฝ่ายบัญชีไปแล้วว่า
มีหนี้สินที่ค้างอยู่ก่อนที่ตนจะเกษียณอายุราชการ ประมาณ 8 ล้านกว่าบาท หลักๆจะเป็นค่าตอบแทนสอนเกินภาระงานของครูอัตราจ้าง
ซึ่งก่อนเกษียณ
ทางวิทยาลัยฯ ได้งบประมาณบำรุงการศึกษามา 6 ล้านบาท จึงนำงบส่วนหนึ่งประมาณ 1
ล้านบาทมาพัฒนาอาคารระบบราง
เพราะได้รับครุภัณฑ์มาแต่ไม่มีอาคารรองรับกับครุภัณฑ์ใหม่ ส่วนเงินที่เหลือใช้เป็นค่าตอบแทนค่าสอนเกินภาระงานบางส่วน
แต่ก็ยังจ่ายได้ไม่ครบ
ค่าสอนเกินภาระงานปี
66 ค้างจ่าย2.7 ล้านบาท ทางครูก็ได้ทวงถามว่าจะได้เงินไหม แต่ที่ยังไม่ได้จ่าย
เพราะมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับจำนวนผู้เรียน
ถ้าเป็นอุตสาหกรรมจะเบิกได้ต้องมีนักศึกษา 15-20 คนขึ้นไป
ส่วนพาณิชยกรรมห้องเรียนต้อง 40 คนขึ้นไป
ถึงจะเบิกได้เต็มชั่วโมงละ 200 บาท
แต่ครูทำเบิกมาเต็มอัตราทำให้ยอดสูง
บางห้องเรียนมีนักศึกษาเพียง 4 คน ก็เบิกค่าสอนเกินภาระเต็ม
ซึ่งไม่ตรงตามระเบียบจึงให้ครูไปปรับห้องเรียนใหม่
แต่ก็ไม่ได้ตามแผนที่ตั้งไว้
จึงได้ชะลอการจ่ายไว้ก่อน ในตอนนั้นได้แจ้งไปยังหัวหน้างานหลักสูตร และคุยให้ครูฟังแล้ว
ไม่มีใครท้วงติงในเรื่องนี้
จึงชะลอจ่ายเงินส่วนนี้ไว้
อดีต
ผอ.วิทยาลัยเทคนิคนครลำปาง กล่าวอีกว่า ส่วนหนี้สินอื่นๆ
จะเป็นค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า
ก่อนเกษียณจะมียอดค้างอยู่บางส่วน ตั้งแต่เดือน มิ.ย.66 ถึง ก.ย. 66 ประมาณ 4 เดือน
แต่ที่ทาง ผอ.แจ้งไว้ ระบุว่า ตั้งแต่เดือน พ.ค.66 ถึง ม.ค.67
ยอด 2 ล้านกว่าบาท เป็นการรวมหนี้ค่าไฟยุคของ
ผอ.คนใหม่นี้เข้าไปด้วย
ส่วนหนี้สินที่ยังค้างจ่ายอื่นๆ
จะเป็นหมวดค่าบริการต่างๆ เช่น งานบริหารทั่วไป
ค่าเช่ากล้องวงจรปิด เช่าไม้กั้น เช่าเครื่องวัดอุณหภูมิ ค่าจัดซื้อชุดตรวจ ATK ค่าพัสดุ-ยานพาหนะ ค่าศึกษาดูงาน ค่างานกิจกรรม ค่าซ่อมวัสดุอุปกรณ์
และการแข่งขันสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ จะอยู่ที่
8.1 แสนกว่าบาท
หมวดค่าครุภัณฑ์ เช่น ค่าสื่อการเรียนการสอน หนังสือในห้องสมุด ประมาณ 2.1
ล้านบาท
และค่าวัสดุการฝึกของนักศึกษา อีกประมาณ
1.4 แสนบาท
ซึ่งอดีตผอ.ชี้แจงว่าบางส่วนได้มีการชำระหนี้ไปบ้างแล้ว
สำหรับหนี้สินที่ระบุว่า
ตั้งไว้จากแผนปฏิบัติงานปี 67 ยอดที่ประมาณ 7.4 ล้านบาทนั้น
เป็นเงินที่ทางวิทยาลัยฯได้ตั้งไว้เพื่อเสนอของบจากส่วนกลาง แต่งบที่ได้รับจริงไม่ถึงยอดที่ตั้งไว้
ปีหนึ่งจะได้รับประมาณ 3 ล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายเงินเดือนครูอัตราจ้าง และเจ้าหน้าที่
เดือนละประมาณ 6 แสนกว่าบาท รวมเป็นปีจะอยู่ที่ 7 ล้านกว่าบาท
ซึ่งไม่เพียงพอ ดังนั้นงบที่นำมาใช้ได้จะเป็นงบอุดหนุนรายหัวของนักศึกษา
ประมาณ 3 ล้านบาท รวมงบจากแผนอีก 3 ล้านกว่าบาท
เงินก็ยังขาดอยู่อีกล้านกว่าบาท จึงเกิดปัญหาหนี้สะสม
และยังมีงบบอกว่าต้องจ่ายเงินลูกจ้างเดือน
เม.ย.67-ก.ย.67 ประมาณ 4.9 ล้านบาท
ก็เป็นภาระหนี้สินของผอ.คนใหม่ ซึ่งไม่เกี่ยวกับตนเอง และงบส่วนนี้ก็เป็นงบที่ต้องรวมอยู่ในแผนปฏิบัติงานปี
67 ที่ตั้งเอาไว้ ดังนั้นการที่นำยอดหนี้ของปี 66 และ 67 มารวมกันไม่ถูกต้อง
จึงอยากจะชี้แจงในส่วนนี้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น